ชื่อเรื่อง : Blend S
สตูดิโอ : A-1 Pictures
แนวเรื่อง : ชีวิตประจำวัน, ตลก
เริ่มออกอากาศ : 8 ตุลาคม 2560
เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ : http://blend-s.jp/#skip
Blend S นั้นเป็นอนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะสั้น 4 ช่องจบของ Nakayama Miyuki ที่เขียนลงในนิตยสาร Manga Time Kirara Carat ของสำนักพิมพ์ Hobunsha โดยเริ่มลงตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบันตัวมังงะออกรวมเล่มมาแล้ว 3 เล่ม จึงได้รับการดัดแปลงทำเป็นอนิเมะโดยสตูดิโอ A-1 Pictures
หน้าปกของนิตยสาร Manga Time Kirara Carat ที่ตีพิมพ์เรื่อง Blend S
เรื่องย่อ
รอยยิ้มสุดสยองของไมกะที่แม้แต่แมวยังต้องร้องขอชีวิต
เรื่องราวเริ่มที่สาวน้อยน่ารักนามซากุระโนะมิยะ ไมกะ มีความใฝ่ฝันอยากศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงพยายามหางานพิเศษทำเพื่อเป็นทุนในการศึกษาต่อ ทว่ามีปัญหาอยู่ตรงแววตาและการแสดงสีหน้าของเธอที่จำกัดความได้สั้นๆว่า “สยอง” ทำให้หางานทำไม่ได้สักที ขณะที่ไมกะกำลังกลุ้มใจอยู่หน้าคาเฟ่ Stile ก็ได้ถูกดิโน่สารภาพรักพร้อมทาบทามให้ทำงานพิเศษที่ร้าน ซึ่งร้านแห่งนี้เป็นคาเฟ่ที่ขาย “คาแรกเตอร์” พนักงานแต่ละคนจะได้รับคาแรกเตอร์ที่ต่างกันออกไปและใช้มันสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ สำหรับไมกะนั้นได้คาแรกเตอร์ “Sadistic” หรือสาวชอบใช้ความรุนแรง แม้จะยังไม่มีความมั่นใจแต่เพื่ออนาคตที่ใฝ่ฝันแล้วไมกะจึงได้เริ่มทำงานพิเศษที่คาเฟ่ Stile
ที่รุนแรงเนี่ยเป็นเพราะต้องแสดงบทบาทหรอก ไม่ใช่เพราะซุ่มซ่ามจริงๆนะ
แม้จะไม่ใช่อนิเมะที่ดัดแปลงมาจากมังงะหรือนิยายชื่อดังแต่ Blend S ก็เป็นอนิเมะเบาๆ ด้วยความน่ารักและจากการที่ตัวละครแต่ละคนต้องสวมบทบาทซึ่งบางครั้งก็ขัดกับบุคลิกตัวเองสุดๆ ทำให้เรียกเสียงฮาได้ จัดว่าเอาไว้ดูคลายเครียดได้เป็นอย่างดี
ชื่อเรื่อง Blend S ก็คือการรวม S หลายๆแบบไว้ด้วยกันนี่แหละ
ตัวละครหลักในเรื่อง
ซากุระโนะมิยะ ไมกะ (พากย์โดย : Waki Azumi)
สาวสวยผมดำ ม.ปลาย วัย 16 แม้เจ้าตัวจะมีอุปนิสัยร่าเริงแต่ก็มีแววตาและรอยยิ้มที่ “สยอง” คาแรกเตอร์ประจำตัวคือ “Sadistic” สาวชอบใช้ความรุนแรงซึ่งขัดกับบุคลิกตัวจริงสุดๆ
ฮินาตะ คาโฮะ (พากย์โดย : Kito Akari)
สาวหุ่นดีผมบลอนด์วัย 17 และยังเป็นเกมเมอร์ตัวยง คาแรกเตอร์ประจำตัวคือ “Tsundere” สาวปากร้าย แต่ด้วยความเป็นเกมเมอร์เข้าเส้นจึงทำให้มีปัญหาเวลาลูกค้าคุยกันเรื่องเกม เธอจะรู้สึกสนใจจนไม่มีสมาธิในการทำงาน
โฮชิคาวะ มาฟุยุ (พากย์โดย : Haruno Anzu)
เห็นไซส์มินิแบบนี้แต่ก็เป็นสาวมหา’ลัยอายุ 20 แม้จะไม่ชอบถูกปฏิบัติเหมือนเด็กแต่คาแรกเตอร์ประจำตัวดันเป็น “Sister” หรือน้องสาวที่ต้องทำตัวออดอ้อนลูกค้าดั่งพี่ชาย ถึงกระนั้นเธอก็ทำงานได้ดีด้วยการเปลี่ยนเข้าสู่โหมดน้องสาวเวลาทำงาน
ดิโน่ (พากย์โดย : Maeno Tomoaki)
หนุ่มอิตาลีวัย 26 ชื่นชอบในคาแรกเตอร์สาวสวยผมดำแบบในอนิเมะที่ชอบดูจึงตกหลุมรักไมกะตั้งแต่แรกพบ เวลาตื่นเต้นมากๆเลือดกำเดาจะไหล เป็นผู้จัดการร้านควบตำแหน่งพนักงานในครัว
Trailer
บทความโดย : วราห์ พุ่มพวง
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































