Black Myth: Zhong Kui
ประเภท : Action RPG (Single-player)
ผู้พัฒนา : Game Science
Platform: Consoles, PC (Steam)
Release Date: TBA
หลังจากความสำเร็จของ Black Myth: Wukong เกมที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก ล่าสุด Game Science ได้ประกาศโปรเจกต์ใหม่ในจักรวาลเดียวกันภายใต้ชื่อ Black Myth: Zhong Kui โดยจะเป็นเกม Action RPG แบบเล่นคนเดียว ที่ยังคงยึดโยงกับรากฐานตำนานจีนโบราณเช่นเคย
แต่คราวนี้ผู้เล่นจะไม่ได้รับบทเป็นซุนหงอคง หากแต่เป็น จงขุ่ย เทพปราบมารในตำนานจีน ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งการกำราบภูตผีและความชั่วร้าย ซึ่งภาพลักษณ์ของเขาเป็นที่แพร่หลายในวัฒนธรรมจีน มักถูกวาดบนประตูบ้านเพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคล
ตำนานจงขุ่ย มีที่มาหลายแขนง โดยเรื่องเล่าที่โด่งดังคือ จงขุ่ยเคยสอบได้ที่หนึ่งในสนามสอบบัณฑิต แต่กลับถูกปฏิเสธตำแหน่งเพราะรูปลักษณ์อัปลักษณ์ สุดท้ายเขาฆ่าตัวตายที่หน้าพระราชวัง และหลังความตายได้รับบทบาทใหม่เป็น “ราชาปีศาจ” ผู้พิทักษ์โลกมนุษย์ ตำนานนี้ถูกเล่าขานสืบต่อมายาวนาน ตั้งแต่ราชวงศ์ถังจนถึงปัจจุบัน และยังถูกนำมาใช้ในงานศิลปะ พิธีกรรม และการเฉลิมฉลองในวัฒนธรรมจีน โดยเฉพาะเทศกาลตรุษจีนที่เชื่อว่าจงขุ่ยจะกลับมาเยือนบ้านเกิด
ตัวเกมได้เริื่มการพัฒนาแล้ว หากมีอัพเดต จะนำเสนอในโอกาสต่อไป…
บทวิเคราะห์หลังเปิดตัว…
สำหรับการประกาศครั้งแรกของเกมนี้ Game Science ย้ำว่าเป็น “การรายงานความคืบหน้าแก่ผู้เล่นทุกวันที่ 20 สิงหาคมของทุกปี” แต่ด้วยตัวโปรเจกต์ยังอยู่ในจุดเริ่มต้นที่แทบจะมีเพียง “โฟลเดอร์เปล่า” ทำให้ทีมเลือกจะนำเสนอด้วย CG Short แทนที่จะเป็นฟุตเทจการเล่นจริง จุดมุ่งหมายคือเพื่อยืนยันว่าโปรเจกต์ได้เริ่มเดินหน้าแล้ว และเพื่อสื่อสารกับแฟนเกมว่า Black Myth จะไม่หยุดอยู่ที่ Wukong เพียงภาคเดียว
สิ่งที่ Black Myth: Zhong Kui สะท้อนออกมาคือการต่อยอดจากความสำเร็จของ Wukong ที่ไม่ได้ยึดติดอยู่เพียงตำนานไซอิ๋ว แต่เปิดประตูสู่ ขุมทรัพย์ทางวัฒนธรรมจีน ที่ยังมีเรื่องราวและเทพมากมายรอการตีความใหม่ในรูปแบบเกม ไม่ว่าจะเป็นตำนาน “เจ้าแม่หนี่วอ” (女娲) เทพีผู้ปั้นมนุษย์และซ่อมแซมฟ้า, “ก้งกง” (共工) เทพแห่งสายน้ำผู้ชนกับเสาจักรวาล, หรือแม้แต่ “ฉางเอ๋อ” (嫦娥) นางฟ้าแห่งจันทรา เรื่องราวเหล่านี้ล้วนมีศักยภาพในการสร้างเกมที่มีเอกลักษณ์ แตกต่างไปตามแนวทางและบรรยากาศแต่ละตำนาน
ในมุมมองเชิงอุตสาหกรรม เกมตะวันตกจำนวนมากหยิบใช้ตำนานกรีก นอร์ส หรืออียิปต์จนกลายเป็นวัฒนธรรมเกมกระแสหลัก …
แต่ ตำนานจีน กลับยังไม่ถูกนำมาใช้ในระดับที่เข้าถึงตลาดโลกอย่างเต็มที่ ซึ่ง Black Myth: Wukong ได้พิสูจน์แล้วว่า “ความเข้มข้นของวรรณกรรมจีน” สามารถสื่อสารกับผู้เล่นนานาชาติได้อย่างดี ขณะที่ ตำนานเทพปราบมาร จงขุ่ย กำลังจะเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์สำคัญว่าตำนานพื้นบ้านจีนมีพลังมากพอที่จะสร้างจักรวาลเกมขนาดใหญ่ หาก Game Science สามารถรักษาคุณภาพด้านกราฟิก เนื้อเรื่อง และเกมเพลย์ได้ในระดับเดียวกันหรือสูงกว่า ก็มีโอกาสที่ Black Myth จะกลายเป็น แฟรนไชส์ใหม่ระดับโลก ที่ขับเคลื่อนให้วัฒนธรรมจีนเข้าไปอยู่ในวงการเกมอย่างถาวร
อีกจุดที่ควรจับตามองคือ Game Science ประกาศรีแบรนด์แอคเคานต์โซเชียลทั้งหมดจาก Black Myth: Wukong → Black Myth ซึ่งหมายความว่า ข่าวสารทุกอย่างในอนาคตที่เกี่ยวกับแฟรนไชส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นภาคใหม่ สปินออฟ หรือเนื้อหาเสริม จะถูกรวมศูนย์อยู่ภายใต้ชื่อ “Black Myth” เพียงชื่อเดียว
แม้จะยังไม่มีวันวางจำหน่ายที่แน่นอน และยังไม่ยืนยันแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการ (นอกจาก PC และคอนโซลหลักทั้งหมด) แต่การเปิดตัว Black Myth: Zhong Kui ได้สร้างกระแสทันที เพราะชาวตะวันตก จะไม่ค่อยคุ้นกับตำนานเอเชีย และให้ความสนใจอย่างมาก
เอาจริงๆ ฝั่งบ้านเรา ใครลูกหลานเชื้อสายจีน หรือคนที่เสพวรรณกรรม หนัง ซีรีส์จีนเอง ก็น่าจะอิน กับเรื่องราวของเทพจงขุ่ยอย่างแน่นอน
ทีนี้ก็มาลุ้นกันว่า ทีมงานจะเล่าออกมา “ฉีก” ขนาดไหน? โปรดจับตาดูครับ!!
แอดมิน AK47
#BlackMyth #ZhongKui #GameScience #ActionRPG #จงขุ่ย #เทพปราบมาร
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]

































