
เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร
การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?”

แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X
ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ
1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!”
ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย คือความคาดหวังต่อผู้ใหญ่ในการแข่งขันกับเด็ก หากผู้ใหญ่ชนะ มักถูกกล่าวว่า
“ก็เล่นกับเด็กอ่ะ จะเอาอะไรฟะ” …. หรือไม่ก็ “แย่ง่ะ รังแกเด็กน้อย!
แต่หากผู้ใหญ่แพ้ กลับถูกวิจารณ์ว่า “ว้าย…กระจอกวุ้ย แพ้เด็ก” เฉยเลย
ปรากฏการณ์นี้สะท้อน Norm ทางสังคม ที่ใช้ “อายุ” เป็นเกณฑ์วัดศักยภาพแทนที่จะใช้ “ทักษะจริง” ทำให้ผู้ใหญ่จำนวนมากเกิดความลังเลในการแข่งขันกับเด็ก และเลือกออมมือโดยไม่รู้ตัว เป็น Middle Zone แดนกลางของความเหมาะสม หรือกรอบอะไรก็ไม่รู้ที่มันดูจะผิดที่ทางไปหมดเลย…
เพราะอย่างไรก็ตาม ในสนามเบย์เบลด ปัจจัยที่กำหนดผลลัพธ์คือ ทักษะเชิงเทคนิค ความแข็งแรงของการชู้ต คอมโบการจัดตัวเล่น การตัดสินใจ และองค์ประกอบด้านโชค (ซึ่งเป็นธรรมชาติของเกม)
อายุตามจริงจึงไม่ใช่ตัวชี้วัดคุณภาพของผู้เล่นทั้งหมด ดังนั้นเราอยากให้ปรับความคิดนี้กันเสียใหม่ การยึดติดกับกรอบคิดแบบเดิมทำให้ประโยชน์ทางการเรียนรู้หลายประการของเด็กๆ ถูกหยุดทิ้งไว้กลางทางอีกด้วยครับ
2. “ไม่ออมมือ” คือการให้เกียรติในฐานะ “เบลดเดอร์” และส่งเสริมการเรียนรู้ที่แท้จริง
การที่ผู้ใหญ่แข่งขันอย่างเต็มศักยภาพไม่ใช่การเอาเปรียบเด็ก แต่เป็นการให้เกียรติเด็กในฐานะ “ผู้เล่นที่มีสถานะเท่าเทียม” การไม่ออมมือจึงเป็นแนวปฏิบัติที่มีประโยชน์ต่อพัฒนาการหลายด้านของเด็ก
โดยเฉพาะเมื่อเด็กเผชิญ “ความพ่ายแพ้” จากคู่แข่งที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง เด็กจะได้รับประสบการณ์ เรียนรู้ความจริงตามธรรมชาติ ซึ่งเสริมสร้าง Growth Mindset และความสามารถในการยอมรับจุดอ่อนของตัวเองเพื่อพัฒนาในระยะยาว ความพ่ายแพ้ในบริบทที่ปลอดภัยเช่นนี้ช่วยพัฒนา Resilience หรือความยืดหยุ่นทางอารมณ์ได้เป็นอย่างดี

ในทางกลับกัน หากเด็กชนะผู้ใหญ่ที่ทุ่มเทเต็มที่ เด็กจะเกิดความภาคภูมิใจแบบ Authentic Self-esteem ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่เกิดจากความเพียรพยายามของตัวเองจริงๆ เด็กจะเข้าใจว่าสิ่งที่ตนทำสำเร็จนั้นเกิดจากความคิด การวางแผน และจังหวะที่เขาเลือกตัดสินใจเอง ไม่ใช่เพราะมีใครออมมือหรือปล่อยให้ชนะ
องค์ประกอบนี้มีความสำคัญมากในพัฒนาการด้านอัตลักษณ์และความมั่นใจในตนเอง โดยเฉพาะในช่วงวัยที่กำลังเรียนรู้ความหมายของความสำเร็จ
หากผู้ใหญ่เลือกออมมือแล้วเด็กทราบภายหลัง ผลลัพธ์จะตรงกันข้ามทันที เด็กอาจเกิดความไม่เชื่อมั่นในคุณค่าของตนเองและลดทอนความภูมิใจที่ได้มา กลายเป็นว่าจากที่เราอยากจะให้เด็กๆแฮปปี้ในการเล่น กลับเป็นสร้างปมในใจไปแบบไม่รู้ตัวได้เช่นกัน
3. บทบาทสำคัญของผู้ปกครอง: พื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์
บทบาทของผู้ปกครองจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญ ผู้ปกครองสามารถทำหน้าที่เป็นพื้นที่เซฟโซนทางอารมณ์ ให้เด็กๆได้ ในระหว่างและหลังการแข่งขันได้ดีมากๆ
เมื่อเด็กแพ้ ผู้ปกครองควรปลอบโยน สนับสนุน และชี้ให้เห็นว่าความพ่ายแพ้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ ไม่ใช่ความผิดพลาดที่ต้องอาย และเมื่อเด็กๆ ชนะ การชื่นชมอย่างเหมาะสมหรือให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ สามารถกระตุ้นแรงเสริมทางบวกได้โดยไม่เกิดการสปอยล์จนเกินไป
การเล่นเบย์เบลดในยุคนี้ จากที่ไปงานแข่งหลายๆครั้ง ก็พบว่า นี่น่าจะเป็นกิจกรรมที่สร้าง “Co-learning” หรือการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างพ่อแม่และลูก ซึ่งมีคุณค่าอย่างยิ่งในยุคที่ครอบครัวมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันน้อยลงเพราะการใช้โทรศัพท์มือถือและสื่อดิจิทัล

แม้จะเป็นของเล่น แต่เบย์เบลเองก็เป็นของที่มีองค์ประกอบที่ช่วยพัฒนาทักษะหลายด้าน เช่น ความสามารถด้านการวางกลยุทธ์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การประเมินสถานการณ์ การตัดสินใจภายใต้แรงกดดัน และความสัมพันธ์ระหว่างกลไก–ผลลัพธ์
รวมไปถึงเรื่องของ หลักฟิสิกส์ เรื่อง “การหมุน” ที่ถูกถอดออกไปจากหลักสูตรมัธยมปลายในปัจจุบันอีกด้วย (มีในระดับอุดมศึกษา / มหาวิทยาลัยแทน ซึ่งน่าเสียดายมากๆ อ้างอิงจาก อ.ไดย์ ในคลิปของ alien คลิก)
นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก (กล้ามเนื้อกลุ่ม Forearm , Triceps และ Biceps) ฝึกการควบคุมกำลัง และฝึกการเข้าสังคมที่เกี่ยวข้องกับน้ำใจนักกีฬา และการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์

ภาพที่แอดมินได้เดินสายตามงานแข่งก็พบว่า มีภาพของคนในครอบครัวที่ร่วมกันวางแผน ช่วยกันจับจังหวะ และให้กำลังใจ หรือแม้แต่กลุ่มผู้ปกครอง ก็ได้แลกเปลี่ยนคอนเนคชั่น เป็นคอมมูนิตี้เล็กๆ สร้างสัมพันธ์อันดีด้วย ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีผลดีต่อทั้งเด็กและผู้ปกครองครับ หลายๆบ้าน รู้จักกัน เป็นเพื่อนกันเพราะมาเล่นเจ้าลูกข่างเหล็กนี่ละครับ เท่าที่สังเกตุตามงานถึงขั้นเอาเก้าอี้ปิกนิคจากบ้านมานั่งรวมกลุ่มชิวๆกันเลย

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองควรระมัดระวัง ไม่เข้าไปแทรกแซงการแข่งขันมากเกินไป เช่น ไม่ควรสปอยล์ด้วยการบอกเทคนิคตลอดเวลา , ช่วยประกอบเบย์จนเด็กไม่ได้คิดค้นด้วยตัวเอง หรือ โต้แย้งผู้ตัดสินกรรมการในบางจังหวะที่มากเกินพอดี จนเด็กไม่เห็นคุณค่าวินัยและกฎระเบียบ
ผู้ปกครองเอง ก็ต้องเรียนรู้ “การเป็นแบบอย่างของความมีน้ำใจนักกีฬา” ที่เป็นบทเรียนที่สำคัญไม่แพ้ผลแพ้ชนะในสนามด้วย
และอย่าประมาทครับ เพราะเด็กๆซัดผู้ใหญ่ร่วงมาเยอะแล้ว จากคลิปนี้ คลิก บอกเลยว่า คนโตๆ ตกรอบหมด เหลือคู่ชิงตัวน้อยนี่ก็เป็นไปได้เช่นกันครับ
การแข่งขันระหว่างผู้ใหญ่และเด็กในเบย์เบลดไม่ควรถูกตีความผ่านมุมมอง “อายุ” แต่ควรมองผ่านหลัก ความเท่าเทียมของการแข่งขัน และ คุณค่าทางการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริง การแข่งขันอย่างเต็มที่คือการให้เกียรติผู้เล่นทุกคน และยังเป็นกระบวนการสร้างเสริมพัฒนาการเด็กทั้งด้านอารมณ์ ทักษะ และความสัมพันธ์ในครอบครัว
ท้ายที่สุด ผู้ใหญ่เองอาจพบว่าไม่ได้เป็นเพียงผู้สอน แต่เป็น “ผู้เรียนรู้ร่วมกัน” กับเด็กๆ ด้วยเช่นกัน และยิ่งแข่งขันอย่างเต็มที่เท่าไร คุณค่าของกิจกรรมนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น

“เล่นกันให้สนุก ใส่ให้เต็มฝีมือ นี่คือข้อสำคัญที่ไม่อยากให้ลืมกัน”
แอดมิน AK47
MB เมทัลบริดจ์ มีกลุ่ม เบย์เบลด แล้วนะครับ แวะไปร่วมพูดคุยหาเพื่อนเล่นกันได้ กับ
“เบย์เบลด BeyBladeX พูดคุย แบ่งปันข้อมูล หาเพื่อนร่วมเล่น by Metalbridges”
https://www.facebook.com/groups/878938780699006
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand #ベイブレードX
#Beyblade #พัฒนาการเด็ก #จิตวิทยาการเรียนรู้ #กีฬาเพื่อการศึกษา #กิจกรรมครอบครัว
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]
-
Guangdong Cockroach [สั่งซื้อ / ของเล่น / พลาโม / หุ่นประกอบ / แมลงสาบ]ใครที่ชอบโมเดล หุ่นยนต์ แปลกๆ ก็ลองเซฟลิ้งก์นี้ไว้อ่านดูครับ
-
อัพเดทแนะนำหนังใหม่ 2025#หนังใหม่ #หนังโรง #หนังน่าดูสัปดาห์นี้ #หนังเข้าใหม่สัปดาห์นี้



































