ถือว่าเป็นนักแสดงชายที่กำลังเป็นที่จับตามองในตอนนี้สำหรับ บิลล์ สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård)
นักแสดงหนุ่มจากสวีเดนที่แฟนๆยังคงจำภาพรอยยิ้มสุดสยองจากหนังตัวตลกทั้งสองภาค แล้วในปีนี้เขาจะได้ฝากฝีมือ กับผลงาน รีเมคระดับไอคอนแห่งยุค 90’s อย่าง The Crown ซึ่งเขาขอสร้างตัวตนของตัวละครอีกาพญายมในแบบของตัวเอง
ซึ่งหนังกำหนดวันฉายในปีนี้ แต่ก่อนที่จะไปชมผลงานล่าสุดเราจะพาดู 10 ผลงานของเขามาฝากกันครับ….
10.) White Water Fury (2000)
อาจเรียกว่านี่คือผลงานการแสดงในยุคแรกๆของเขา กับผลงานแนวระทึกขวัญ โดยที่เขาได้แสดงร่วมกับพี่ชายอย่าง อเล็กซ์ซานเดอร์ สการ์สการ์ด (Alexander Skarsgård) ว่าด้วยเรื่องราวของชายสี่คนที่เจอสองสาวพี่น้องก่อนจะปาร์ตี้ทั้งคืน ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นหนึ่งในสองสาวได้หายตัวไป จนนำไปสู่การตามหาความจริงที่เกิดขึ้น
9.) Behind Blue Skies (2010)
หลังจากบ่มเพาะประสบการณ์เป็นเวลาเกือบ 10ปี เมื่อเขาเป็นหนุ่มหล่อก็สบโอกาสได้รับบทนำครั้งแรกในชีวิตในหนังเรื่อง Behind Blue Skies ผลงานปี 2010 ว่าด้วยเรื่องราวของตัวเอกนามว่า มาร์ติน ที่ออกมาหางานช่วงหน้าร้อนที่รอยัลยอร์ช คลับ ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะอันสวยงามในกรุงสต็อกโฮล์ม เขาได้พบกับรักแท้ของเขาเป็นครั้งแรกที่นั่น และได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจาก เกิสต้า หนุ่มเพลย์บอยผู้โด่งดังของเหล่าไฮโซทั้งหลาย แต่แล้วมาร์ตินได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในอาชญากรรมอันอื้อฉาวที่สุดของสวีเดนนี่คือผลงานที่เขาได้โชว์ฝีมือการแสดงออกมา จนถูกคาดหวังว่าเขาอาจจะเป็นดาราดังในอนาคต
8.) Simon & the Oaks (2011)
ผลงานดราม่าปี2011สร้างจากนิยายในชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของไซมอน เด็กหนุ่มผู้เติบโตมาในเขตชนบทอันงดงามของสวีเดนระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วได้รู้ว่าตนคือบุตรบุญธรรมในภายหลัง ทำให้การเดินทางค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเขาเริ่มต้นขึ้น
ผลงานแนวดราม่าอิงประวัติศาสตร์จากวรรณกรรมในชื่อเดียวกัน ก่อนจะถูกสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้วถึงสามครั้ง หนังเล่าเรื่องราว อันนา คาเรนินา เดินทางจากเมือง เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มาที่กรุงมอสโคว เพื่อเยี่ยมพี่ชายตนเอง เนื่องจากทราบข่าวว่า พี่ชายกำลังมีเรื่องระหองระแหงกับภรรยา และเพื่อช่วยหาทางไกล่เกลี่ย เพราะอันนากับพี่ชายนั้นมีความสนิทสนมและให้ความเคารพเชื่อฟังต่อกันอยู่ไม่น้อย แต่การเดินทางมาในครั้งนี้กลับทำให้เธอได้รู้จักและเป็นชู้รักกับ เคานท์ วรอนสกี้ ชายหนุ่มรูปงามและขุนนางในสังคมชั้นสูงของรัสเซีย
6.) Atomic Blonde (2017)
ผลงานแนวสายลับที่ได้นักแสดงหญิงมากฝีมืออย่าง ชาลิซ เธอรอน ว่าด้วยเรื่องราวของ สายลับของหน่วยราชการลับอังกฤษ ที่ออกปฏิบัติการในเยอรมันเพื่อตามหา ไฟล์รวมรายชื่อสายลับทั้งหมดที่ทำภารกิจอยู่ โดยจะได้สายลับที่ทำธุรกิจมืดในเยอรมันคอยช่วยเหลือ :ซึ่งพี่บิลก็ได้แสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
5.) Villains (2019)
อีกหนึ่งผลงานของพี่บิลที่ได้ปล่อยของเต็มที่ กับงานแนวตลกร้ายว่าด้วยเรื่องราวของคู่รักวัยรุ่นที่หวังจะรวยทางลัด จึงเข้าวงการโจรปล้น แต่ทว่าบ้านที่พวกเขาปล้นไม่ใช่บ้านเจ้าของที่เป็นคนร่ำรวย หากแต่เป็นคู่สามีภรรยาโรคจิตที่ชอบทรมานเหยื่อและฝั่งศพไว้ในห้องใต้ดิน ทำให้คู่รักนักปล้นดวงซวยจึงต้องหาทางหนีออกไปให้ได้
4.) Boy Kills World(2018)
แม้หลายคนจะจดจำเขาในฐานะนักแสดงสายหนังสยองขวัญ แต่กับเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกบทบาท มาสวมบทแนวล้างแค้นที่เขาต้องฟิตร่างกาย ฝึกทักษะการต่อสู้เพื่อรับบทเป็นตัวเอกเด็กหนุ่มหูหนวกเป็นใบ้ ที่มีอดีตปมแค้นหลังจากที่ครอบครัวของเขาถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยคนในตระกูลแวนเดอคอย (Van Der Koy) ตระกูลวิปลาสที่ปกครองชาวเมืองอย่างโหดเหี้ยม เขาจึงฝึกการต่อสู้ก่อนจะเข้าร่วมเกมสุดโหดของตระกูลแวนเดอคอย เพื่อทวงแค้นอย่างสาสม
3.) John Wick: Chapter 4 (2023)
จากความโด่งดังในตัวตลกปีศาจอย่าง It ทำให้ชื่อของพี่บิลเรา ได้รับโอกาสในบาทสำคัญมากมายหนึ่งในนั้นคือหนังจักรวาลนักฆ่าอย่าง John Wick โดยเขารับบทเป็น “มาร์กีส์ เดอ กรามงต์” ขุนนางมหาโหดสุดอำมหิตผู้กุมชะตาทุกชีวิตใน “จักรวาลนักฆ่า” หนึ่งในสมาชิกสภาสูงที่จะตามล่าหัวตัวเอกนั่นเอง
2.) It (2017-2019)
เรียกได้ว่านี่คือผลงานแจ้งเกิดที่แท้จริงให้กับเขา กับการรับบทระดับไอคอนแห่งโลกสยองขวัญจากผลงานสยองสุดคลาสสิคของราชานิยายสยองขวัญ สตีเฟ่น คิง ซึ่งรอยยิ้มของพี่บิลที่ทำให้เขาคว้าบทนี้จนกลายเป็นบทบาทที่น่าจดจำของเขาในฐานะนักแสดงก็ว่าได้
1.) The Crow (2024)
นี่คือผลงานล่าสุดที่กำลังจะเข้าโรง ซึ่งแฟนหนังต่างคาดหวังกับพี่บิลมากๆ เพราะนี่คือผลงานรีเมคจากหนังชื่อเดียวกันในปี1998 ที่แบรนดอน ลี เคยฝากฝีมือไว้ ซึ่งตัวเขาจะขอตีความอีกาพญายมในแบบฉบับของตัวเอง ที่ดิบกว่าและโหดกว่า ซึ่งใครอยากเห็นผลงานของเขา ก็รอดูได้ในโรงภาพยนตร์ครับ
@P.PETTY
ข้อมูล
https://movieweb.com/bill-skarsgard-best-movie-performances-ranked/
https://collider.com/bill-skarsgard-best-movies-shows-ranked/
https://www.rottentomatoes.com/celebrity/771821133
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































