
ชื่อภาษาอังกฤษ : Qualidea Code
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : クオリディア・コード
ประเภท : Action / Fantasy
ผู้แต่ง : Watari Wataru / Tachibana Koushi / Sagara Sou
ผู้กำกับ : Kenichi Kawamura
ผู้ผลิต : A-1 Pictures
เริ่มฉาย : 9 กรกฎาคม 2016
Official Website : qualidea.jp
Qualidea Code ผลงานนิยาย Light Novel แนวแอคชั่น-แฟนตาซี ในเครือของ Kadokawa ที่ออกวางตลาดในปี 2015 ที่ผ่านมา โดยมีถึง 3 เล่ม 3 ภาค โดย 3 นักเขียนดังเลยทีเดียว ได้แก่ Kuzu to Kinka no Qualidea (เรื่อง Watari Wataru, ภาพ Saitom), Itsuka Sekai wo Sukuu Tame ni : Qualidea Code (เรื่อง Koushi Tachibana, ภาพ Haimura Kiyotaka) และ Sonna Sekai wa Kowashiteshimae : Qualidea Code (เรื่อง Sagara Sou, ภาพ Kantoku) ซึ่งทีวีซีรี่ส์อนิเมะผลิตโดยสตูดิโอ A-1 Pictures กำกับโดย Kenichi Kawamuraฉายทางช่อง Tokyo MX, GYT, GTV, BS11, tvk, CTC, ABC, AT-X ในญี่ปุ่น วันที่ 9 กรกฎาคม 2016 และทางสำนักพิมพ์ Luckpim ก็เพิ่งประกาศลิขสิทธิ์ Light Novel ในไทยเป็นที่เรียบร้อย

โดยโปรเจ็คนี้ถือกำเนิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ 5 สำนักพิมพ์ดังของญี่ปุ่นด้วยกัน ซึ่งประกอบไปด้วย Shueisha’s Dash X Bunko imprint, Fujimi Shobo’s Fujimi Fantasia Bunko imprint, Media Factory’s MF Bunko J imprint, Shogakukan’s Gagaga Bunko imprint และ Shueisha’s Jump Square magazineโดยได้ชื่อโปรเจ็คนี้ว่า Qualidea Prpject โดยเนื้อเรื่องของแต่ละภาคก็จะมีตัวหลักอยู่ 2 คน และจะแบ่งไป 3 เขตเมืองด้วยกัน ซึ่งได้แก่ เมืองโตเกียว (Tokyo), เมืองชิบะ (Chiba) และเมืองคานากาว่า (Kanagawa) แต่ในอนิเมะทีวีซีรี่ส์จะเป็นการรวมตัวกันของหัวหน้าทั้ง 3 เมือง
เรื่องย่อ

ในโลกยุคอนาคตที่ถูกรุกรานด้วยศัตรูไม่ทราบที่มา ซึ่งถูกเรียกว่า “UNKNOWN” และความหวังครั้งใหม่ที่มนุษยชาติจะต่อกรกับมันได้ก็คือ เหล่าเด็กหนุ่มสาวที่ตื่นจากการ Cold Sleep ทำให้หลับแช่แข็งมาหลายทศวรรษพร้อมพลังพิเศษเหนือมนุษย์ที่เรียกว่า “โลก” เพื่อปกป้องดินแดนจากศัตรู โดยจะมีโรงเรียนประจำในแต่ละเมือง ซึ่งในแต่ละเมืองจะมีนักเรียนเป็นผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการ ถูกแบ่งออกไป 3 เขตเมืองด้วยกัน ได้แก่ เมืองโตเกียว (Tokyo) กองทัพทางอากาศ, เมืองชิบะ (Chiba) กองทัพภาคพื้นดิน และเมืองคานากาว่า (Kanagawa) กองทัพทางทะเล
ตัวละคร

อิจิยะ ซูซาคุ - Ichiya Suzaku (朱雀壱弥)
พากย์โดย Souma Saitou



ผู้บัญชาการประจำเมืองโตเกียว เขาเป็นคนเย็นชา ภาคถูมิใจและเชื่อมั่นในตนเอง ชอบลุยเดี่ยว ไม่สนใจคนที่ด้อยกว่า มักจะยึดติดกับอันดับแรงค์กิ้งในการกำจัดพวก “UNKNOW” เขาไม่ชอบการกระทำที่สูญเปล่า พลังของเขาสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงด้วยปลอกแขน โดยเขาตั้งชื่อพลังของตัวเองว่า “ฟรีกาวิตี้” ซึ่งเขาไม่ค่อยถูกกับคาซิมิรองผู้บัญชาการจากเมืองชิบะ
คานาเรีย อุทาระ – Canaria Utara (宇多良カナリア)
พากย์โดย Yui Ishikawa


รองผู้บัญชาการประจำเมืองโตเกียว ทุกคนจะเรียกเธอว่า “คาน่าจัง” เธอเป็นคนอ่อนแอและอ่อนโยน พยายามจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอสามารถทำได้เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพราะเธอเป็นห่วงชีวิตคนอื่นเป็นอย่างมาก แต่ก็มักจะชักนำปัญหามาให้กับอิจิยะอยู่เสมอ และเรียกอิจิยะว่า “อิคจัง” พลังของเธอคือการเพิ่มพลังให้กับคนอื่นๆ ด้วยการร้องเพลง โดยเธอมีคติประจำใจว่า “เมื่อลำบากขอให้เอายิ้มไว้”
อาซุฮะ ชิกุซะ – Asuha Chigusa (千種明日葉)
พากย์โดย Chika Anzai



ผู้บัญชาการประจำเมืองชิบะ เธอเป็นน้องสาวของคาซึมิ โดยปกติเธอเป็นจะเป็นคนนิ่งๆ เมินเฉยต่อทุกอย่างแต่เมื่อได้เหนี่ยวไกปืนจะมีความสุข ซึ่งอาวุธของเธอคือปืนพกคู่ มีความว่องไวสูง พลังพิเศษของเธอคือสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของวัตถุได้
คาซึมิ ชิกุซะ - Kasumi Chigusa (千種霞)
พากย์โดย Yūma Uchida

รองผู้บัญชาการประจำเมืองชิบะ พี่ชายของอาซุฮะ เป็นคนปากจัด เขาเป็นคนที่เฉื่อยชา ไม่ค่อยสนใจเรื่องรอบตัว ซึ่งต่างจากอิจิยะโดยสิ้นเชิงที่กระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ทั้งคู่ไม่ถูกกัน แต่เขาก็เป็นคนที่รักน้องสาวเป็นอย่างมาก อาวุธของเขาคือปืน Sniper Rifle คอยยิงศัตรูจากระยะไกล เขามีพลังความสามารถคือการค้นหาโครงสร้างและตำแหน่งของเป้าหมาย จึงทำให้เป็นคนที่ยิงปืนที่แม่นมาก
ไมฮิเมะ เทนคาวะ – Maihime Tenkawa (天河舞姫)
พากย์โดย Aoi Yuuki

ผู้บัญชาการประจำเมืองคานากาว่า มีชื่อเล่นว่า “ฮิเมะ” (องค์หญิง) เธอเป็นองค์หญิงที่แข็งแกร่งเพราะมีพละกำลังเหนือคนปกติทั่วไป เธอก็เป็นคนที่ร่าเริงอยู่ตลอดเวลาออกแนวไปทางติ๊งต๊อง แต่เธอก็เป็นคนตรงไปตรงมาทำให้เธอโดดเด่น อาวุธของเธอคือดาบใหญ่พลังทำลายสูงในการกวาดล้างศัตรูของเธอด้วยการแกว่งดาบเพียงครั้งเดียว
โฮตารุ รินโด – Hotaru Rindo (凛堂ほたる)
พากย์โดย Ayaka Fukuhara

รองผู้บัญชาการประจำเมืองคานากาว่า เธอเป็นคนสุขมเยือกเย็นและควบคุมอารมณ์ได้ดี เธอเป็นคนที่ติดฮิเมะเป็นอย่างมาก ไม่ยอมให้คาดสายตา เพราะถ้าคาดสายตากับฮิเมะเมื่อเธอจะกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเธอเป็นห่วงฮิเมะนอกใจคนอื่น เธอสามารถใช้ตาของเธอสามารถอ่านการเคลื่อนไหวของศัตรูได้ อาวุธของเธอคือดาบ katana พลังของเธอคือการสามารถสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างในระยะสายตาที่เธอมองเห็น ไม่ว่าสิ่งนั้นจะใกล้หรือไกลแค่ไหนก็ตาม
Screenshot

ตัวอย่าง
รายชื่อทีมงานผู้สร้าง
Original: Speakeasy / Marvelous
Director: Kenichi Kawamura
Script: Speakeasy
Character Original Plan: Ryuu Matsu
Character Designs: Hisayuki Tabata
Music: Taku Iwasaki
Studio: A-1 Pictures
Production: Qualidea Code Production Committee
Credit : qualidea.jp / Anime Life / Akibatan / Wikipedia
By : แอดอาคาอินุ
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


























