Super Robot Wars Y

(スーパーロボット大戦 Y)

ประเภท : Simulation / RPG

เครื่อง : PS5, Switch , PC

วันวางจำหน่าย : 28 สิงหาคม 2025

พัฒนาโดย :Bandai Namco Forge Digitals (เดิมคือ B.B. Studio)

ปลุกวิญญาณเหล็กไหลอีกครั้ง การกลับมาสานต่อเรื่องราวตำนาน “Super Robot Wars” หรือ “ซูเปอร์โรบ็อตไทเซ็น” (ญี่ปุ่น: スーパーロボット大戦, ซูปาโรบ็อตโตะไทเซ็น) ที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ข้ามจักรวาลการ์ตูนแนวหุ่นยนต์ที่มีสาวกทั่วโลก ทั้งๆที่วางขายเฉพาะภาษาญี่ปุ่นมาตลอด 25 ปี (เคยมี Eng ลงให้ GBA แล้วพังไม่เป็นท่า!) และนี่คือตำนานสงครามหุ่นเหล็กที่นักวางแผนทั่วโลกรอคอย กับ Super Robot Wars Y

Bandai Namco ร่วมกับทีมพัฒนา Bandai Namco Forge Digitals (เดิมคือ B.B. Studio) ได้ประกาศเปิดตัวเกมแนววางแผนกลยุทธ์ Super Robot Wars Y ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายภายในปี 2025 ทั่วโลก รองรับแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Nintendo Switch และ PC (Steam)

เบื้องต้น ทีมงานประกาศว่าตัวเกม Super Robot Wars Y จะยังคงเป็นเกมแนว Tactical RPG แบบตาราง ที่นำหุ่นยนต์และนักบินจากอนิเมะหลากหลายเรื่องมาร่วมต่อสู้กับศัตรูร่วมกัน ผู้เล่นจะต้องวางตำแหน่งยูนิตอย่างมีกลยุทธ์ และสั่งการเพื่อเอาชนะฝ่ายตรงข้าม อีกทั้งตัวเกมยังมาพร้อมระบบอัปเกรด ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่น พัฒนายูนิตและฝึกฝนนักบิน โดยใช้เครดิตและทรัพยากรที่ได้รับจากภารกิจต่าง ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้สามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายต่อไปเช่นเคย

ในภาคใหม่นี้ ผู้เล่นจะได้พบกับระบบ Assist Link ที่พัฒนาต่อยอดจากการใช้ตัวละครซัพพอร์ตในภาคก่อนหน้า โดยแต่ละตัวละครจะมีระบบเลเวล Rank แยกของตัวเอง ซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามการใช้งาน ทำให้การสนับสนุนจากนอกสนามรบด้วย เซชิน หรือ ความสามารถแบบกดใช้ ทำให้มีบทบาทชัดเจนและเป็นกลยุทธ์ที่ต้องวางแผนลึกยิ่งขึ้น เพราะแต่ละตัวละคร จะมี Stack สกิลที่ถูกจับคู่ และผลลัพท์ที่ต่างกันอย่างมาก

นอกจากนี้ Super Robot Wars Y ยังมาพร้อมเอนจิ้นใหม่ที่พัฒนาอินเตอร์เฟซให้ใช้งานง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมนูก่อนเริ่มการต่อสู้ที่สามารถประเมินค่าความเสียหายล่วงหน้า ช่วยให้ผู้เล่นวางแผนได้แม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงระบบ Tactical Area Selection และ Mission Chart ผังภารกิจที่ช่วยให้เห็นภาพรวมของภารกิจหลักและภารกิจเสริมได้อย่างชัดเจน

REVIEW 7 /10

**รีวิวนี้เขียนจากการเล่นในระบบ PS5**

แต่ละด้านจะมีคะแนนเต็ม 3 

1=ไม่ไหว / 2= พอได้ / 3=เยี่ยม

Super Robot Wars Y คือภาคใหม่ล่าสุดของแฟรนไชส์ครอสโอเวอร์ระดับตำนาน ที่แฟน ๆ รู้จักกันดีในฐานะ Strategy RPG รวมดาวจากอนิเมะหุ่นยนต์นับสิบ ๆ เรื่อง ตั้งแต่ Gundam, Getter Robo, Mazinger Z ไปจนถึงซีรีส์ใหม่ ๆ อย่าง SSSS.Dynazenon โดยหัวใจของเกมภาคนี้ไม่ใช่แค่การ “จับหุ่นยนต์มายำรวมกัน” แต่เป็นการเล่าเรื่องที่จริงจังและมีเอกลักษณ์มากขึ้น

สิ่งที่โดดเด่นใน SRW Y คือเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและน่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ เนื้อเรื่องเปิดฉากด้วยเหตุการณ์ Zero Requiem จาก Code Geass R2 ที่กลายเป็นชนวนความวุ่นวายระดับโลก ผู้เล่นจะได้พบกับ เอจิกะ เด็กสาวผู้เป็นผู้นำแห่งนครรัฐลอยฟ้า A. Advent ที่ถือครองเทคโนโลยีพลังงานขั้นสูง เธอต้องต่อสู้เพื่อรักษาสันติภาพ ท่ามกลางการแย่งชิงพลังงานและความขัดแย้งทั่วโลก

ตัวเอกหลัก เราต้องเลือก ระหว่าง ครอส (ชาย) และ ฟอร์เต้ (หญิง) สองพี่น้อง “นินจาจักรกล” จากองค์กรที่มีชื่อสุดพิลึก  NINJA (ย่อมาจาก New Infinity Neuron Japanese Assassin)  ทั้งสองคนมีบทบาทเป็นองครักษ์ของเอจิกะและค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในเรื่องราวหลัก ตัวละครนี้จะค่อย ๆ มีความสำคัญมากขึ้นเมื่อเนื้อเรื่องดำเนินไป จบเรื่องราวก็พบว่า สองพี่น้องคู่นี้ คือหนึ่งในกำลังหลักสำคัญในการแก้ไขสถานการณ์ในตอนจบของอนิเมะหุ่นยนต์แต่ละเรื่องด้วย ทั้งเคยร่วมทีมกับกันดั้มมาแล้วหลายทีม (ทีมวิง / Seed / CCA) , การต่อสู้ของมาชินก้า และไรดีน  , การสนับสนุนไอดอลวงวัลคิวเร หรืออื่นๆ ด้วย

ความน่าทึ่งคือเกมไม่เพียงจับซีรีส์ต่าง ๆ มาปะติดปะต่อ แต่เชื่อมโยงพล็อตให้มีเหตุผล ตัวละครมีปฏิสัมพันธ์ที่น่าสนใจ เช่น โดมอน (G Gundam) กลายเป็นครูฝึกสุดโหดให้ชิน อาสึกะ (Gundam SEED Destiny) จนเกิดการโต้เถียงที่ชวนขำ หรือบทสนทนาที่ซูเลตต้าถามริลิน่า-ฮีโร่จาก Wing Gundam จนบรรยากาศดูสมจริง

เกมเพลย์ของ SRW Y ยังคงโครงสร้างของ Strategy RPG ไว้อย่างครบถ้วน ผู้เล่นต้องวางแผนการเคลื่อนที่บนแผนที่ ใช้สกิลจากค่าพลัง SP และเลือกตำแหน่งเพื่อเอื้อประโยชน์จากภูมิประเทศ ระบบอัปเกรดยังใช้ Credits เหมือนเดิม

แต่เพิ่มลูกเล่นใหม่ด้วย STG Memory ซึ่งแบ่งเป็น 3 สาย (โจมตี, สนับสนุน, สะสมทรัพยากร) และสามารถ reset ได้ฟรี ทำให้ผู้เล่นทดลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ ได้ตลอด

ระบบภารกิจแบบแตกแขนงและ Flowchart ก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง ผู้เล่นเห็นภาพรวมทั้งภารกิจหลักและเสริมได้ง่ายขึ้น แถมการเลือกบางเส้นทางยังส่งผลต่อเนื้อเรื่องเล็กน้อย เสริมความรู้สึกว่าการตัดสินใจของเรามีความหมาย

สำหรับความยาก เกมเปิดกว้างให้ผู้เล่นใหม่เข้าถึงได้ง่าย(มาก) แต่ก็มีโหมด Expert ที่โคตรยากระดับปาจอย (แนะนำให้เล่นในรอบที่ 2 หรือ 3ขึ้นไป) เพิ่มเงื่อนไขโหด ๆ เช่น การจำกัดการใช้สกิลช่วยเหลือ และระบบ Assist bar ที่ต้องจัดการให้รอบคอบมากขึ้น

ภาคนี้ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญทางด้านงานภาพ  ด้วยการเปลี่ยนมาใช้เอนจิน Unity และโมเดล 3D แทน 2D Sprites แบบดั้งเดิม หุ่นใหม่ ๆ อย่าง Getter Robo Arc หรือ Dynazenon ถูกทำออกมาในรูปแบบ 3D แม้ว่าจะยังดูแข็งทื่อในบางจังหวะ แต่ทีมงานก็พยายามเสริมความอลังการ เช่น คัทซีนของ Dynazenon ที่แทรกสไตล์อนิเมะ 2D หรือท่าไม้ตายของ Wing Gundam Zero ที่ปรับให้เหมือนภาพวาดอนิเมชั่นที่สวยงามขึ้น

แฟนเก่าอาจต้องใช้เวลาปรับตัวกับงานภาพใหม่ แต่ก็ต้องยอมรับว่านี่คือก้าวสำคัญในการผลักดันซีรีส์ให้เข้ากับยุคสมัย และเปิดโอกาสให้มีการนำเสนอที่หลากหลายขึ้นในอนาคต

Super Robot Wars Y อาจไม่ได้เป็นภาคที่ดีที่สุด แต่คือภาคที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาแฟรนไชส์ ทั้งในด้านการเล่าเรื่องที่แข็งแรง การผสมผสานตัวละครอย่างมีเหตุผล ระบบเกมเพลย์ที่ปรับปรุงให้เข้าถึงง่ายขึ้น 

แต่ถึงอย่างนั้น แม้ Super Robot Wars Y จะมีการปรับปรุงในด้านระบบเกมและอินเตอร์เฟซ รวมถึงการเพิ่มรายละเอียดกลยุทธ์ผ่านระบบ Assist Link และเมนูประเมินความเสียหายล่วงหน้า แต่ในภาพรวมแล้ว ณ วันที่เขียนบทความนี้  ภาพโครงสร้างของเกมเพลย์แบบรวมๆ ก็ยังคงใกล้เคียงกับภาคก่อนๆ อย่าง SRW 30 อยู่มาก และส่วนตัวเชื่อว่า ทำให้แฟนๆ อาจยังไม่รู้สึกถึง “ความแตกต่างอย่างแท้จริง” ที่ทีมงานได้กล่าวถึงในการเปิดตัว

เมื่อย้อนกลับไปในยุคก่อน ซีรีส์นี้เคยกล้าทดลองและใส่ระบบเฉพาะตัวที่น่าสนใจไว้มากมาย เช่น…

-Support System ที่เริ่มต้นใน SRW Compact 2 ทำให้การประสานงานระหว่างยูนิตมีมิติ ทั้งการโจมตีและป้องกัน

-Platoon System จาก SRW Alpha 2-3 ที่รวมยูนิตหลายตัวในหน่วยเดียว ช่วยให้การจัดทัพมีความลึก

-Proficiency System ที่เปลี่ยนระดับความยากและปลดล็อคตอนจบลับจากระดับฝีมือผู้เล่นในภาค Impact, Alpha, Z

-Parts Destruction System จาก SRW GC/XO ที่ให้ผู้เล่นโจมตีเฉพาะส่วนของหุ่นเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหว หรืออาวุธของศัตรู คล้ายกับเกม Front Mission

ระบบเหล่านี้มีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนในแต่ละภาค แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงความกล้าในการทดลอง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเสมอไป ต่างจากยุคหลังที่หลายภาคดูเหมือน “ก๊อบวาง” มากขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่แฟนบางคนอาจจะมีความรู้สึกว่า เอาน่ะ ดีแค่ไหนแล้ว ที่มีภาคใหม่ให้เล่น…

แต่ต้องไม่ลืมว่า ความรู้สึกนี้ ซักวันก็จะค่อยๆเลือนหายไป เพราะความจำเจ และรู้สึกแค่ว่า เอาหุ่นใหม่ แปะโลโก้ตัวเลขใหม่แล้วจบกัน…

แบบเกมแนวฟุตบอลชื่อดังที่ออกรายปี มีแค่อัพเดทกราฟิก กับนักเตะ ที่ใช้สูตรนี้มายาวนาน

ถามว่ามีคนซื้อเล่นมั้ย? บอกเลยว่า “มีแน่นอน” แต่มากน้อยนี่อีกเรื่อง 555+

แล้วสูตรสำเร็จที่คุ้นเคย…จะพายอดขายเกมนี้ไปถึงฝั่งฝันหรือไม่? เพราะต้องไม่ลืมว่า SRW ภาครวมหุ่นจากอนิเมะหลายเรื่อง มีต้นทุนในการทำเกมสูง และส่วนมากหมดไปกับค่า LC หุ่นจากอนิเมะแต่ละเรื่อง ไหนจะเพลงOSTอีก หากมองปัจจัยเหล่านี้เพิ่มเข้าไป แล้วดันมาเจอเกมเพลย์ที่ไม่หวือหวาสดใหม่ หรือมีอะไรที่ต่างจากเดิมนิดเดียว ก็อาจจะส่งผลทำให้เกมไม่สามารถสร้างยอดที่ต้องการได้

ดังนั้นแม้ SRW Y จะดูมีศักยภาพและความน่าสนใจในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่แสดงให้เห็นถึง “ความกล้า” หรือ “ความใหม่” ที่ชัดเจนในเชิงเกมเพลย์จริงๆ

แอดมิน AK47

#SuperRobotWarsY #SRW #BandaiNamco #TacticalRPG #Mecha #Gundam #Macross #CodeGeass #GetterRobo #NintendoSwitch #PS5 #PC