หนังสยองขวัญสุดฮิตหลายเรื่องที่แม้กาลเวลาจะผ่านไปมันก็ยังเป็นที่กล่าวขานไม่รู้จบ ส่วนหนึ่งเพราะได้มีการต่อยอดไปสู่รูปแบบอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือการดัดแปลงเป็นรูปแบบวีดีโอเกมส์ ซึ่งนอกจากจะทำให้แฟนหนังที่เคยได้ดูได้เล่นจนนึกถึงอดีตแล้ว ก็อาจได้ฐานแฟนๆรุ่นใหม่รู้จักมากขึ้น เนื่องในเดือนนี้เป็นเดือนแห่งฮาโลวีน เลยขอพาทุกท่านไปดู 8 เกมที่สร้างจากหนังสยองขวัญสุดฮิตทั้งในอดีตและปัจจุบันมาฝากันครับ…
1.) Land of the Dead: Road to Fiddler Green (2005)
เกมแนวซอมบี้จากหนังของผู้กำกับระดับบรมครูอย่าง จอร์จ โรเมโร่ ที่กลับมาสานต่อเรื่องราวซอมบี้ในรอบ 20ปี โดยตัวเกมเราจะได้สวมบทเป็น ชาวไร่ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากวันที่ซอมบี้ครองเมือง ก่อนจะไปยังจุดหมายนั่นคือเมือง Fiddler Green ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเรื่องราวในตัวหนัง
2.) Saw: The Video Game (2009)
หากใครชื่นชอบเกมหฤโหดของเจ้า Jigsaw แล้วอยากสัมผัสประสบการณ์ชวนระทึกสุดแสนจะบีบคั้น ก็ต้องเกมชื่อเดียวกับหนัง ซึ่งตัวเกมเราจะต้องเล่นเป็นนักสืบที่ถูกจับให้มาเล่นเกมมรณะ ซึ่งแต่ละปริศนาของเกมนี้ก็แทบจะถอดแบบมาจากหนัง ตัวเกมยังมีภาคต่อตามมาที่โหดเป็นทวีคูณ
3.) Jaw Unleashed (2006)
ฉลามโหดระดับตำนานของโลกภาพยนตร์ที่นอกจากจะจุดประกายให้กับหนังบล็อกบัสเตอร์แล้ว หนังเรื่องนี้สร้างกระแสจนมีเรื่องเล่าว่า ไม่กล้าลงเล่นทะเลไปหลายเดือน ซึ่งใครจะไปคิดว่าฉลามสุดโหดจะมีเกมเป็นของตัวเองในปี 2006 ลงให้กับ Ps2 และ PC โดยเราจะได้เล่นเป็นฉลามโหดไล่ล่าเหยื่อ
4.) The Blair Witch Project (2019)
อีกหนึ่งเกมสยองขวัญที่สร้างจากหนัง ตำนานเรื่องแม่มดแบลร์นี้มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองใกล้ ๆ กันนี้ที่ชื่อ แบลร์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐแมริแลนด์ ซึ่งมีเด็ก ๆ ได้หายตัวไปและมีเหยื่อถูกฆาตกรรมหลายราย สำหรับเวอร์ชั่นเกมจะเล่าเรื่องราว 2ปีหลังเหตุการณ์ในหนัง ซึ่งเราจะมีกล้องวีดีโอและไฟฉาย แถมคู่หูอย่างเจ้าหมาชื่อ “ Bullet “ คอยเป็นเพื่อนในการสืบคดีครั้งนี้
5.) The Thing Remaster (2024)
ผลงานภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิคของผู้กำกับ John Carpenter ออกฉายครั้งแรกในปี 1982 ก่อนที่จะถูกสร้างเป็นเกมในปี 2002 โดยเราจะได้เล่นเป็น หน่วยรบพิเศษของสหรัฐอเมริกาในการเข้าตรวจสอบเหตุการณ์ที่สืบเนื่องจากภาพยนตร์หลักในศูนย์วิจัยหมายเลข 31 กลางหิมะอันหนาวเหน็บ ทว่าพวกเขาและทีมทหารกลับพบว่าตัวเองได้ติดอยู่ในนั้นและอาจรับเชื้อสุดอันตรายจาก ‘มัน’ ที่ซุกซ่อนในความมืด ผู้เล่นจะต้องประคับประคองความรู้สึกกลัว และมีชีวิตรอดเพื่อหาเบาะแสของเหตุการณ์ทั้งหมด ซึ่งตัวเกมกำลังจะนำมาถูกรีมาสเตอร์ใหม่อีกครั้ง เนื่องในโอกาสครบรอบ 42ปีของหนังเรื่องนี้
เกมสยองขวัญแนวเอาชีวิตรอดสไตล์ Dead by Daylight สร้างจากหนังสยองระดับตำนานของ Sam Raimi ที่เราจะได้เลือกเล่นเป็นตัวละคร ที่เล่นได้ถึง 4 คน ร่วมมือกัน เพื่อหาชิ้นส่วนสำคัญที่ใช้ในการปิดประตูมิติ ไม่ให้พวกผีร้ายเข้ามายังโลกมนุษย์ หรือเราอาจจะได้เล่นเป็น Kandarian หน้าที่ของฝ่ายนี้คือตามฆ่าพวกฝั่งผู้รอดชีวิตให้หมด
7.) Texas Chainsaw Massacre (2023)
นี่คือหนึ่งในไอค่อนสายเชือดที่หลายคนจำได้ดีอย่าง The Leatherface ซึ่งในปี 2023 ก็ได้ร้างออกมาเป็นเกมแนวมัลติเพลย์เยอร์ที่ถือเป็นการเล่นสุดฮิต โดยที่เราจะเล่นเป็นเหยื่อหรือสิงหาสับ ซึ่งใครเล่นเป็นไอเลื่อยหฤโหดถือว่าสนุกอย่าบอกใคร หรือถ้าเล่นเป็นผู้ถูกล่าก็ต้องหาวิถีทางที่จะเอาชีวิตรอดออกไป
8.) Friday the 13: The Game (2018)
ตำนานศุกร์13 อีกหนึ่งตำนานนักเชือดระดับชั้นครู ซึ่งตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เราเป็นเจสันหรือผู้ถูกไล่ล่า และเป็นเกมที่สร้างจากหนังสยองขวัญที่หลายคนชื่นชอบ เพราะสามารถดึงบรรยากาศจากตัวหนังให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์สุดสยองกันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือ 8 เกมสยองขวัญที่สร้างจากหนังสยองขวัญชื่อดัง ที่นำมาฝากกัน ใครชอบเกมไหนหรือมีเกมสยองขวัญจากหนังดังที่อยากแนะนำก็แชร์กันเข้ามาได้เลยครับผม
@P.PETTY
-ข้อมูลประกอบ
https://gamerant.com/best-horror-games-based-on-horror-movies/
https://www.denofgeek.com/movies/horror-games-based-on-scary-movies/
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]



































