คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พล็อตแนวซอมบี้ (Zombie Apocalypse) คือหนึ่งในพล็อตยอดนิยมที่เราเห็นบ่อย ตามสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจอแก้วจอเงิน, การ์ตูนและวีดีโอเกม ซึ่งทั่วโลกต่างก็รังสรรค์หรือต่อยอดจนประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึงบ้านเราก็มีหนังซอมบี้ให้เห็น ล่าสุดกับ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ (Operation Undead) ของ พี่โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่กำลังจะเข้าฉายเร็วๆนี้ และถือเป็นหนังซอมบี้ไทยที่น่าจับตามองอีกเรื่อง

เพื่อต้อนรับการมาของ ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ (Operation Undead) เราจะพาย้อนดู 7 หนังซอมบี้สัญชาติไทย ที่หลายคนเคยได้เชยชมกันครับ….
1.) ขุนกระบี่ ผีระบาด (2004)
ผลงานช่วงปี 2004 หรือปีทองของหนังซอมบี้จากความสำเร็จของ Dawn of The Dead ฉบับ Zack Snyder ที่ทำให้เหล่าซอมบี้ออกมาอาละวาดในสื่อบันเทิงทั่วโลก รวมถึงไยกับผลงานซอมบี้เรื่องแรกของไทยจากฝีมือของ ทวีวัฒน์ วันทา (ที่ในเวลาต่อมาโด่งดังจาก ธี่หยด ที่กำลังจะมีภาคต่อในปีนี้) กับเรื่องราวโหดมันฮา ของ ขุนกระบี่ ศิษย์เอกของ อาจารย์เทพ ที่ต้องทำภารกิจในการช่วยลูกสาวของเศรษฐีที่ถูกลักพาตัวในอพาร์ทเม้นท์ ใจกลางกรุงเทพ แต่ทว่าที่แห่งนี้เกิดการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสที่เปลี่ยนคนกลายเป็นซอมบี้ งานนี้ความอิรุงตุงนังได้บังเกิด

2.) 5 แพร่ง ตอน Back Packer (2009)
ผลงานรวมเรื่องสยองขวัญของค่าย GTH (GDH ปัจจุบัน) ซึ่งเรื่องนี้คือผลงานของ พี่ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่ได้แน็ค ชาลี มารับบทสุดท้าทายฉีกภาพจำเด็กชายจากแฟนฉัน กับเรื่องราวของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นสองคนที่ติดรถบรรทุกโดยสาร ก่อนจะพบว่าคนขับรถและเด็กเดินรถ ที่จริงคอพวกเขาลักลอบพาแรงงานผิดกฎหมาย และนั่นทำให้ทั้งสี่ได้พบกับฝันร้ายที่คาดไม่ถึง
ผลงานแนวซอมบี้ย้อนยุคของคุณชายอดัม – ม.ร.ว. เฉลิมชาตรี ยุคล ที่หยิบฉากหลังในช่วงสงครามระหว่างอโยธยาและหงสา ได้เกิดการระบาดของโรคห่าขึ้นอย่างหนัก และมีตำนานเล่าว่าได้เกิดเหตุการณ์คืนชีพของเหล่าคนตายที่ไล่ฆ่าผู้คนและแพร่เชื้อจนกลายเป็นผีห่าเหล่าผู้รอดชีวิตจึงต้องหาทางจับอาวุธและจัดการพวกมัน
หนังซอมบี้ของแร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง โจอี้บอย และเหล่าพลพรรคก้านคอคลับ (เล่นเป็นตัวเอง) กับเรื่องราวของโจอี้บอยและผองเพื่อนก้านคอคลับไปถ่ายแบบกับเหล่าบรรดาสุดเซ็กซี่จากนิตยสารปลุกใจ เสือป่าชั้นนำ แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเรือดันมาดับอับปางเอาที่เกาะร้างห่างรักและห่างไกลผู้คน ความสนุกสนานดำเนินไปได้แค่เพียงช่วงระยะๆเวลาสั้นๆ แล้วปาร์ตี้ก็ต้องเลิก เมื่อบรรดาชาวเกาะจอมโหดออกมาไล่ฆ่าผู้คนเป็นผักปลา
5.) ผีห่ารัตนโกสินทร์ (2016)
ในช่วงที่ผีห่าอโยธยากำลังเป็นที่พูดถึง ก็มีหนังที่เกิดเหตุการณ์ Twin Films (หนังที่มีพล็อตเหมือนกัน) อย่างผีห่ารัตนโกสินทร์ ที่เป็นผลงานของเด็กๆที่รวมทีมจากนักศึกษาสาขาภาพยนตร์ปี 3 เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ซึ่งหลังปล่อยตัวอย่างก็เป็นที่ฮือฮาและมีการตั้งข้อสังเกตว่าคล้ายกับผลงาน ของคุณชายอดัม จนเป็นกระแสสั้นๆ ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิดเผยและชื่นชมพร้อมให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วทำให้มีการผลิตตัวเต็มก่อนจะออกฉายในโครงการ เด็ก ดัน หนัง ที่ฉายผลงานหนังเด่นจากรั้วลาดกระบัง 3 เรื่อง 3 รส
สำหรับพล็อตเรื่องราวของหนังเรื่องนี้จะเล่าในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์เมื่อหมอหนุ่มต้องเผชิญกับโรคห่าที่เปลี่ยนคนกลายเป็นครึ่งคนครึ่งผีออกมาไล่ฆ่าผู้คน
6.) ซอมบี้ ไทบ้าน (2022)
หนังซอมบี้สไตล์ไทบ้านเรื่องแรกๆ หยิบเอาซอมบี้มาผสมกับเรื่องราวและความเชื่อของคนอีสาน จนเป็นเรื่องราวของสามเพื่อนซี้ที่ต้องเผชิญกับโรคระบาดปริศนาจนทำให้คนในหมู่บ้านกลายเป็นซอมบี้คลั่ง ทั้งสามจึงต้องหาทางเอาตัวรอดจากหมู่บ้านสงบสุขที่กลายเป็นนรกบนดินของเหล่าซอมบี้
7.) อีสานซอมบี้ (2023)
ปิดท้ายกับงานซอมบี้ไทยล่าสุด ว่าด้วยเรื่องราวของผู้จัดการร้านสะดวกซื้อที่ต้องมาประจำสาขาที่ต่างจังหวัด ที่ต้องมาเจอนางเอกที่เป็นพนักงานที่แอบลักลอบเนื้อที่หมดอายุกลับไปบ้าน ก่อนที่พวกเขาจะต้องเผชิญกับเหล่าซอมบี้ งานนี้ทั้งสองคนและผู้รอดชีวิตจึงต้องทาทางเอาตัวรอดในฝันร้ายที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ทั้งหมดนี้คือ 7 หนังซอมบี้ไทยที่มาเล่าสู่กันฟัง ก่อนจะไปสนุกกับหนังซอมบี้ไทยเรื่องล่าสุดอย่าง ช.พ.๑ สมรภูมิคืนชีพ (Operation Undead) ที่จะเข้าฉายในโรงเร็วๆนี้ครับ
@P.PETTY
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]

































