
เพื่อนๆหลายคนอาจจะคุ้นเคยในการซื้อตั๋วเข้าไปชมภาพยนตร์ใหม่ๆในโรงภาพยนตร์ อาจจะมีทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดีในโรงหนัง วันนี้แอดมินขอรวบรวม 7 พฤติกรรมที่ไม่ควรทำในโรงหนังมาฝากครับ ไม่รู้ว่าเพื่อนๆจะเคยเจอแบบแอดมินหรือเปล่านะ?
1. สปอยหนัง

เคยมั้ย ? กำลังดูหนังอย่างลุ้นๆสนุกๆอยู่ดีๆก็มีผู้รู้มาสปอยหนังให้ว่าเดี๋ยวมันจะต้องเป็นแบบนี้ๆ บางครั้งหากเป็นเพื่อนเราก็อาจจะพอหันหน้าหลบได้อยู่บ้าง แต่บางทีมันมาจากคนข้างหลังหรือข้างๆมันลอยเข้ามาโดยไม่สามารถหลีกหลีกหนีได้ ก็ต้องรับสภาพตามนั้น
2. ถีบเบาะ

อีกหนึ่งปัญหาที่หลายๆคนมักเจอได้บ่อยๆ และมักจะมีดราม่าตามมา เมื่อผู้ชมที่อยู่ข้างหลังเราหรือรู้สึกอินกับหนัง อาจจะมีเผลอมาโดนเบาะเราข้างหน้า หากนานๆทีก็คงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ถ้าหากบ่อยไปก็อาจทำให้หงุดหงิดได้เหมือนกัน
3. ความอยากรู้อยากเห็นของเด็ก

ความอยากรู้อยากเห็นเป็นคุณสมบัติที่ดีของเด็กฉลาดที่กล้าตั้งคำถามทันทีที่สงสัย แต่ไม่ควรมาใช้ในโรงภาพยนตร์ในขณะที่รอบข้างเต็มไปด้วยผู้ชม ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ที่พามาต้องสอนให้ลูกรู้จักการใช้ชีวิตในสังคมส่วนรวมโดยเฉพาะในโรงหนัง แต่สิ่งที่ทำให้หงุดหงิดยิ่งกว่าการที่เด็กตั้งคำถามเสียงดังนั้นก็คือ การที่พ่อแม่เงียบเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
4. คุยเสียงดัง

เมื่อเหล่าเพื่อนเกลอมาเจอกันก็ต้องมีการเม้าส์เป็นธรรมดา แต่ไม่ควรจะเกิดขึ้นในโรงหนัง ที่เหล่าผู้ชม ตีตั๋วมาเพื่อดูหนังที่ตัวเองอยากดู และต้องการใช้สมาธิกับหนังที่อยู่ข้างหน้า มากกว่ารับรู้เรื่องราวของผู้ชมอื่นๆในโรงภาพยนตร์
5. เล่นโทรศัพท์

ไม่รู้ว่าไม่สนุก หรือหนังน่าเบื่อหรืออย่างไร ทำให้ผู้ชมบางคนถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดโซเชียลอ่านแก้เซ็ง ถึงแม้มันจะไม่ส่งเสียงรบกวนคนรอบข้าง แต่แสงที่ออกมาจากหน้าจอโทรศัพท์นั้นแหละ รบกวนสมาธิคนรอบข้างอย่างจัง
6. ดูดน้ำ/กินขนมเสียงดัง

ไม่มีอะไรจะเพลินไปมากกว่าการดื่มน้ำและกินขนมขณะดูหนังอีกแล้ว แต่ถ้าหากเป็นการดูหนังในโรงภาพยนตร์ก็ควรกินให้เบาที่สุดหรือค่อยๆดูดน้ำเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดังรบกวนผู้อื่น ผู้ชมบางรายเพลินจนถึงขนาดหยิบแก้วน้ำขึ้นมาเขย่าน้ำแข็งเลยทีเดียว
7. ขำเวอร์ / หัวเราะเสียงดัง

หนังบางเรื่องตลก จนอดขำไม่ได้ ดังนั้นการที่จะหลุดขำออกมาไม่ใช่เรื่องผิด แต่การที่หัวเราะดังๆ และโยกตัวไปมา จนเก้าอี้สะเทือนก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะจะทำให้ผู้ชมรอบข้างเสียสมาธิในการดูหนัง รวมไปถึงการที่หัวเราะเสร็จแล้วพูดบางประโยคออกมาดังๆ เช่น ขำว่ะ หรือ ไม่เห็นน่ากลัวเลยว่ะ ก็เป็นสิ่งที่ไม่สมควรเช่นกัน
เป็นไงกันบ้างครับ สำหรับ 7 พฤติกรรมที่กล่าวมาเพื่อนๆเคยเจอกันบ้างหรือเปล่า หรือเพื่อนๆท่านใดอาจจะเคยทำพฤติกรรมในที่กล่าวมาอาจจะเป็นเพราะไม่รู้ตัว ก็คงต้องคงต้องฝึกและหักห้ามใจ เพื่อสร้างสังคมของการดูหนังในโรงภาพยนตร์ที่ดีครับ
———————————————-
แอดมินน้องเบ้น
บทความที่คุณอาจชอบ…

10 ซีรี่ส์ติดเรทที่เด็กๆไม่ควรดู


10 นักแสดง Hollywood ที่คุณอาจไม่รู้ว่าเป็นเกย์

10 ตัวละครตัวแม่ที่ไม่ควรเข้าใกล้ในโลกภาพยนตร์
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]


























