คอการ์ตูนแบบแฟนพันธุ์แท้คงจะต้องจะรู้จักชื่อของ ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ทีแฟนประจำจะรู้ว่าเขาโด่งดังจากการ์ตูนกีฬาบาสเกตบอลอย่าง แสลมดังก์ ที่มียอดขายกว่า 100 ล้านเล่มทั่วโลก แม้จะมีผลงานออกมาไม่มากเฉกเช่นนักเขียนชื่อดังร่วมรุ่น แต่ละเรื่องก็ยังคงเป็นที่ประทับใจของแฟนๆเรื่อยมาจนปัจจุบัน
เราไปดูผลงานของ อ.ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ 5 เรื่องระดับคุณภาพ มาฝากทุกท่านครับ

5.) Chameleon Jail (1989-1990)
นี่คือผลงานแรกๆ ของเขาที่ได้เป็นนักเขียนเต็มตัว เรื่องราวแนวสืบสวนเบาสมองของนักสืบคนหนึ่งผู้ที่ภายนอกดูตลกๆ แต่จริงๆเป็นนักสืบมากฝีมือผู้มีความสามารถในการแปลงเป็นคนอื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ จนทำให้ได้สมญานามว่า คาเมเลียนเจล
Chameleon Jail มีทั้งหมด 2 เล่มจบ โดยเล่มแรกมีการ์ตูนสั้นเรื่อง ดาวเด่นคาเอดะ ที่เล่าถึงเรื่องราวของ รุคาว่า คาเอดะ นักบาสหนุ่ม ม.ปลาย ต้องเจอกับอดีตคู่ปรับที่ต้องการจะเอาชนะเขาอีกครั้ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวก่อนที่เขาจะเขียนเรื่อง แสลมดังก์ ในเวลาต่อมา แล้วเป็นผลงานแรกที่ได้รางวัล เทสึกะอวอร์ด ครั้งที่ 35 ไปครอง
จากความสำเร็จของเรื่อง สแลมดังก์ และความชื่นชอบกีฬาบาสเกตบอลของผู้เขียน ทำให้เข็นการ์ตูนบาสอีกเรื่องอย่าง Buzzer Beater หรือ บาสอวกาศทะลุโลก ที่ตีพิมพ์ในปี 1997-1998 มีทั้งหมด 4 เล่ม จบ ก่อนจะถูกสร้างเป็นอนิเมะในปี 2005 จำนวน 13 ตอน และ ภาคสองในปี 2007 จำนวน 13 ตอนเช่นกัน
เรื่องราวเมื่อกีฬาบาสกลายเป็นกีฬาระดับจักรวาล จนโลกที่ถือเป็นจุดกำเนิกกีฬาประเภทนี้ไม่สามารถเทียบชั้นในระดับกับจักรวาล เศรษฐีพันล้านของโลกจึงรวบรวมนักบาสฝีมือดีเพื่อต่อสู้กับทีมจักรวาล และพิสูจน์ว่าพวกเขาคือเจ้าแห่งวงการกีฬายัดห่วงให้จงได้
3.) Vagabond (1998-present)
หนึ่งในผลงานที่ยังคงวาดปัจจุบัน แต่มีข่าวพักหนึ่งว่าได้หยุดเขียนเพราะเรื่องสุขภาพ เรื่องราวของชวิตจริงจากสองยอดซามูไรระหว่าง มิยาโมโตะ มุซาชิ และ ซาซากิ โคจิโร่ เป็นผลงานที่พยายามฉีกแนวจากงานอื่นๆที่ผ่านมา แต่ก็ได้รับความนิยม ต้องติดตามว่าจะกลับมาเขียนต่อได้หรือไม่?
2.) Real (1999-present)
เรื่องราวของคนสามคนในโลกกีฬาวีลแชร์ ทั้งสามคนต่างมีปัญหาแตกต่างกัน แต่เป้าหมายนั้นเป็นหนึ่ง และเป็นผลงานที่ค่อนข้างสมจริงมากที่สุดและดราม่ามากกว่างานที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นอีกผลงานที่หยุดเขียน ก็รอดดูต่อไปว่าเนื่อเรื่องจากนี้จะเป็นเช่นไร
1.)Slam Dunk (1990-1996)
นี่คือการ์ตูนอันดับหนึ่งถ้าเอ่ยชื่อของ ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ และเป็นการ์ตูนที่คนญี่ปุ่นและทั้งโลกต่างชื่นชอบกีฬาบาสเกตบอล แล้วยังกลายเป็นการ์ตูนที่ยังถูกพูดถึงไม่ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วก็ตาม เรื่องราวของ ซากุรางิ ที่เข้าชมรมบาสเพราะตามคนรัก แต่เมื่อเวลาผ่านไป มันเปลี่ยนชีวิตเขาไปในฐานะผู้เล่นของทีมโชโฮคุและได้เจอยอดฝีมือที่ท้าชนมากมาย
เสน่ห์ของการ์ตูนเรื่องนี้มีความเป็น Coming Of Age หรือก้าวช่วงเวลาหนึ่ง บวกกับที่ผู้เขียนหลงใหลในกีฬาบาสเกตบอล จึงนำเอาองค์ประกอบสองอย่างมาถ่ายทอดจนกลายเป็นการ์ตูนกีฬาระดับตำนานที่ครองใจผู้อ่านมาจนทุกวันนี้
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
https://www.posttoday.com/ent/news/475812
https://news.thaipbs.or.th/content/130353
https://en.wikipedia.org/wiki/Takehiko_Inoue
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=iamzeon&month=29-11-2019&group=174&gblog=319
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]































