ชื่ออังกฤษ : 47 Meters Down
ชื่อภาษาไทย : 47 เมตรเตอร์ ดาวน์ / ดิ่งลึกเฉียดนรก
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : Horror, Thriller
ผู้กำกับ : Johannes Roberts
ค่าย : Mono Film
ฉาย : 13 กรกฎาคม 2017

อีกหนึ่งความท้าทายที่หลายคนใฝ่ฝันจะได้สัมผัสกับการมองเห็นเพชรฆาตอย่างปลาฉลามอย่างใกล้ชิด แต่จะมีใครคิดบ้าง ว่าคุณอาจจะได้ใกล้ชิดกับปลาฉลามแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เรื่องย่อ ภาพยนตร์ 47 Meters Down

ลิซ่า และ เคท สองสาวพี่น้องที่ตกลงไปเที่ยวพักผ่อนหน้าร้อนที่แม็กซิโก กับโชว์สุดท้าทายในการเข้าไปอยู่ในกรงท่ามกลางปลาฉลาม ขณะที่ทั่งคู่กำลังตื่นตาตื่นใจกับเหล่าฝูงปลาและเพชรฆาตอย่างปลาฉลามอยู่นั้น…

เชือกที่ยึดติดกับกรงเหล็กที่พวกเธออยู่เกิดขาดขึ้น ทำให้กรงเจ้ากรรมพาร่างของพวกเธอดำดิ่งลงไปใน 47 เมตรของผิวน้ำทะเล ซึ่งเพชรฆาตรที่พวกเธอเฝ้าคอยจะได้เห็น เฝ้ารอพวกเธออยู่

ในขณะที่อากาศอ็อกซิเจนของพวกเธอเริ่มเหลือน้อย พวกเธอก็เริ่มจะหนักได้ว่า ความหวังในการเอาตัวรอดของพวกเธอก็เริ่มเหลือน้อยเช่นกัน
ตัวอย่างภาพยนตร์ 47 Meters Down
ตัวละครจากภาพยนตร์ 47 Meters Down

ลิซ่า รับบทโดย Mandy Moore

เคท รับบทโดย Claire Holt
ภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ 47 Meters Down

Score : 8 / 10
“ภาพยนตร์ที่จะพาคุณตกอยู่ในความหวาดกลัวกับความมืดดำใต้ท้องทะเล”
ต้องบอกก่อนเลยว่าแอดเป็นคนที่ค่อนข้างจะกลัวใต้ทะเลลึกเอามากๆ เพราะว่ามันทั้งมืดทะมึนมองไม่เห็นอะไรนอกจากสีดำ บวกกับยังกลัวพวกปลาฉลามอีก เพราะครั้งหนึ่งตอนเล็กๆ แอดเคยลองไปจับซากกระดูกของปลาฉลามที่พิพิธพันธ์สัตว์น้ำ ฟันของพวกมันคมยังกับมีดโกน ถ้าโดนกัดทีนี่มีเนื้อหลุดแน่ๆ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า… ภาพยนตร์เรื่องนี้การันตีด้วยรายได้ที่มาถึง 900 ล้านบาทภายหลังจากฉายในอเมริกาเพียง 10 วัน เนื้อหาได้เล่าถึงการไปเที่ยวหย่อนใจของสองพี่น้องลิซ่า และ เคทที่ชายทะเลในประเทศเม็กซิโก แล้วจู่ๆ นึกครึ้มยังไงก็ไม่ทราบถึงได้ไปลองทริปการเที่ยวชมฉลามแบบติดกรง เอาตัวเปล่าลงไปล่อปลาฉลามใต้ทะเล ตอนแรกก็ดูตื่นเต้นบันเทิงดี แต่ดันซวยตรงที่เครนของเรือที่ใช้ดำน้ำเกิดหักขึ้นมา ทำให้พวกเธอตกลงไปใต้ก้นทะเลความลึก 47 เมตร หรือประมาณตึก 15 ชั้น และต้องตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากทั้งออกซิเจนที่จำกัด ความหวาดกลัวจากฝูงฉลามที่รอจะขย้ำพวกเธอทุกเมื่อ..
ตัวหนังทำออกมาได้สมจริงจนให้คนชมรู้สึกถึงความกดดันจากทัศนียภาพที่มืดดำ และต้องตามลุ้นอยู่ทุกๆ ซีนว่าพวกเธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์เช่นนี้ได้อย่างไร และช่วงที่ปลาฉลามที่โผล่ทุกๆ ครั้งเป็นอะไรที่ระทึกใจมากๆ เหมือนยังหนังผีเลยทีเดียว ส่วนเพลงประกอบในเรื่องก็สร้างความระทึกได้ไม่แพ้กัน แต่ที่น่าอึ้งจะอยู่ตรงที่ “ตอนเฉลย” ท้ายเรื่องว่ารอดยังนี่แหละ ที่ทำเอาคนดูถึงกับร้อง “ห๊ะ!?” กันเลยทีเดียว (จบแบบนี้เลยเหรอ?)
สรุปคือ ภาพยนตร์เรื่องนี้จัดเป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่ง และยังเป็นเหมือนหนังคอยเตือนใจว่า “การดำน้ำโดยเอาตัวเองไปล่อฉลามในกรงแคบๆ นั้นมันช่างน่ากลัวกว่าที่คิด” ทางที่ดีแล้ว… ถ้าการป้องกันและควบคุมอุปกรณ์ไม่อยู่ในระดับที่ปลอดภัย ก็ไม่ควรทำอะไรแบบนั้น เพราะปลาฉลามเป็นสัตว์ดุร้ายที่ถ้าคุณอยู่ในถิ่นของมัน… คุณก็คือ “เหยื่ออันโอชะ” นั่นเอง
และทั้งนี้… ทางทีมงาน metalbridges.com ต้องขอขอบคุณทาง MONO FILM ที่ได้เปิดโอกาสให้ทีมงานได้ไปชมความระทึกของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างสูงครับผม ^^
แอดมินน้องเบ้น / @Save สาย Pay
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]




























