เมื่อเอ่ยชื่อของผู้กำกับนามว่า ยอง ซาง โฮ แฟนหนังฝั่งกิมจิคงจะนึกถึงภาพจำของผู้กำกับ ที่มีสไตล์โดดเด่นในการเล่าเรื่องที่มืดหม่นและมีประเด็นทางสังคมแฝงอยู่ มักท้าทายแนวทางสร้างสรรค์ใหม่ๆ และเป็นหนึ่งในผู้กำกับเกาหลีใต้ที่มีอิทธิพลในระดับสากล หรือ ผลงานอย่าง Train To Busan ที่สามารถสร้างกระแส K-Zombies เป็นที่พูดถึง
และในปีนี้เขากำลังจะมีผลงานให้ได้เชยชมอีกครั้งอย่าง The Ugly หน้าเกลียด ผลงานสร้างจาก นวนิยายภาพ (Graphic Novel) ที่เขาเขียนและวาดด้วยตัวเองในปี 2018 มาสร้างเป็นภาพยนตร์อย่างเต็มตัว แต่ก่อนที่จะไปรับชม เราจะไปอุ่นเครื่องกับไปดู 10 ผลงานของเขากันก่อนครับ ไปดูกันเลย…
The King of Pigs (2011)
ผลงานลำดับแรกๆของเขาในโลกของภาพยนตร์ ว่าด้วยเรื่องราวของฮวังคยองมิน ที่เคยถูกบูลลี่อย่างโหดร้ายในโรงเรียนเมื่อ 20 ปีก่อน และตัดสินใจกลับมาแก้แค้นในปัจจุบัน โดยเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ทิ้งข้อความให้ จองจงซอก อดีตเพื่อนที่ตอนนี้เป็นตำรวจ จงซอกต้องตามล่าคยองมิน ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญหน้ากับความลับในอดีตที่น่าตกใจและความสงสัยว่าเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
ภายหลังได้มีการสร้างเป็นซีรีส์ฉบับคนแสดงฉายทาง Netflix ในปี2022
The Fake (2013)
เป็นเรื่องราวของชาวบ้านในหมู่บ้านที่กำลังจะถูกน้ำท่วมเพื่อสร้างเขื่อน โดยมีผู้นำโบสถ์ชื่อ ชเว คยองซอก หลอกลวงชาวบ้านเรื่องการย้ายถิ่นฐานและบริจาคเงินเพื่อ “รักษาที่ในสวรรค์” แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่หลงเชื่อยกเว้น คิม มินชอล นักเลงที่เห็นความจริงและพยายามเปิดโปง แต่กลับถูกมองว่าเป็นคนเลว อย่างไรก็ตาม มินชอลถูกผลักดันให้ลงมือเองเมื่อภรรยาของเขาถูกชเวบังคับค้าประเวณี
Seoul Staion (2016)
ผลงานช่วงพีคสุดๆของเขากับเรื่องราวแนวซอมบี้ ทั้ง Seoul Station และ Train To Busan ที่ทำให้ K-Zombies เป็นที่กล่าวขานในโลกภาพยนตร์ โดย Seoul Station จะดป็นเรื่องราวเริ่มต้น ว่าด้วยสามตัวละคร ได้แก่ ซุกคิว (พ่อที่ตามหาลูกสาว), เฮซอน (ลูกสาวที่หนีออกจากบ้าน), และ แฟนหนุ่มผู้เห็นแก่ตัวของเฮซอน. ขณะที่พ่อกับลูกต้องหาทางเอาชีวิตรอดท่ามกลางฝูงซอมบี้และสถานการณ์ที่เลวร้าย ทั้งคู่ต้องพยายามหนีออกจากเมืองที่ถูกรัฐบาลปิดตาย
Train To Busan (2016)
ภาคต่อสายตรงของ Seoul Station แล้วยังเป็นผลงานการกำกับภาพยนตร์คนแสดงครั้งแรกของเขาอีกด้วย เรื่องราวจะเล่าถึงตัวเอก ซอกวู ที่ต้องพาลูกสาวไปเยี่ยมแม่เป็นของขวัญเกิด โดยเดินทางบนรถไฟ ก่อนจะพบว่าเกิดการแพร่เชื้อไวรัสจนทำให้ผู้โดยสารกลายเป็นซอมบี้คลั่ง ทั้งสองและเหล่าผู้รอดชีวิตจึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดโดยมีจุดหมายคือ เมืองปูซาน ที่เป็นปราการด่านสุดท้าย
Psychokinesis (2018)
ผลงานที่ฉีกแนวหันมาลองทำหนังแนวฮีโร่พลังจิต แล้วยังได้ รยู ซึง-รยง นักแสดงเจ้าบทบาทที่มีภาพจำเกี่ยวข้องกับไก่ทอด (ฮ่า!) หนังเล่าเรื่องราวของคุณพ่อที่ทิ้งครอบครัวไปและเพิ่งได้รับพลังจิตเคลื่อนย้ายวัตถุ (พลังไซโคคิเนซิส) จากอุบัติเหตุประหลาด เขาจึงพยายามใช้พลังนี้เพื่อช่วยเหลือลูกสาวที่ห่างเหินกัน และปกป้องเธอรวมถึงชุมชนของเธอจากการถูกไล่ที่โดยบริษัทเอกชนที่ทุจริต
Peninsula (2020)
หลังจากความสำเร็จของหนังซอมบี้ทั้งสองเรื่องในปี 2016 อีกสี่ปีต่อมา ยอง ซาง โฮ กลับมาเติมเต็มให้กับหนังซอมบี้ของตัวเองด้วยสเกลใหญ่ขึ้นและลองอะไรใหม่ๆเข้าไป จนกลายเป็นเรื่องราวของ Peninsula นั่นเอง โดยหนังจะเล่าต่อจากเหตุการณ์ 4ปี หลัง Train to Busan ซึ่งตอนนี้ เกาหลีกลายเป็นดินแดนแห่งความตายไปเรียบร้อย
จองซอก อดีตทหารที่หนีไปฮ่องกงได้รับภารกิจกลับมาเพื่อนำเงินที่ถูกทิ้งไว้ แต่เขากลับพบว่ายังมีมนุษย์กลุ่มอื่นที่รอดชีวิตอยู่ด้วย พร้อมกับเผชิญหน้ากับเหล่ากองโจรที่อดีตเป็นกองกำลัง 631 งานนี้ไม่ใช่แค่เอาชีวิตรอดจากซอมบี้อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงเหล่ากองโจรอำมหิตที่พร้อมจะล่าชีวิตได้ทุกเมื่อ
Hellbound (2021)
ซีรีส์ฉายทาง Netflix สร้างจากงานเว็บตูนที่เขาเขียนเองเล่าถึงโลกที่เผชิญหน้ากับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ เมื่อสัตว์ประหลาดจากนรกปรากฏตัวขึ้นเพื่อลากตัว “คนบาป” ไปลงนรก การมาถึงของสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดความเชื่อและลัทธิใหม่ชื่อว่า “สัจธรรมใหม่”(The New Truth) ที่นำโดย จองจินซู (รับบทโดย ยูอาอิน) ซึ่งตีความว่านี่คือการพิพากษาจากพระเจ้า เรื่องราวติดตามตัวละครอย่างนักสืบ, โปรดิวเซอร์รายการทีวี, และทนายความ ที่พยายามไขความจริงเบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ท่ามกลางสังคมที่แตกแยก
JUNG_E (2023)
ผลงานแนวไซไฟ เป็นเรื่องราวในอนาคตที่มนุษย์ต้องอพยพไปอยู่ในสถานีอวกาศ เชลเตอร์ หลังจากโลกประสบวิกฤตสภาพอากาศ ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองที่ยาวนานกว่า 40 ปี เรื่องจะเน้นไปที่เทคโนโลยี AI และการสร้างหุ่นยนต์นักรบจากสมองของสุดยอดทหารอย่าง ยุนจองอี ซึ่งเป็นต้นแบบของหุ่นยนต์นักรบ AI
Parasyte: The Grey (2024)
ซีรีส์ทาง Netflix ที่ดัดแปลงจากมังงะญี่ปุ่นชื่อดังเรื่องราวว่าด้วยสิ่งมีชีวิตปรสิตลึกลับจากนอกโลกบุกโลกและเข้าควบคุมสมองมนุษย์เพื่อสังหารมนุษย์ด้วยกันเอง ตัวเอกคือ จองซูอิ หญิงสาวที่ปรสิตตัวหนึ่งล้มเหลวในการเข้าควบคุมสมอง แต่กลับมาอาศัยอยู่ในมือของเธอแทน ทำให้เธอต้องอยู่ร่วมกับปรสิตอย่างประหลาด ในขณะเดียวกัน ซอลคังอู ก็ตามล่าปรสิตเพื่อหาน้องสาวที่หายไป และ ชเวจุนคยอง ได้ก่อตั้ง “ทีมเกรย์” ซึ่งเป็นหน่วยเฉพาะกิจเพื่อต่อสู้กับปรสิตเหล่านี้ ซีรีส์จะติดตามการอยู่รอดของซูอินที่ต้องอยู่ตรงกลางระหว่างความเป็นมนุษย์และปรสิต รวมถึงการต่อสู้ของมนุษย์กับปรสิตที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และนับเป็ฯจักรวาลเดียวกับในมังงะด้วย
Revelations (2025)
ผลงานล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีฉายทาง Netflix เป็นเรื่องราวของบาทหลวงหนุ่ม (รยูจุนยอล) ที่เชื่อว่าตนมีภารกิจศักดิ์สิทธิ์ที่พระเจ้ามอบหมายให้ และนักสืบหญิง (ชินฮยอนบิน) ที่ต้องต่อสู้กับภาพหลอนจากอดีต ทั้งสองต้องร่วมมือกันเพื่อไขคดีคนหายที่เชื่อมโยงกับอดีตอันดำมืดของทั้งคู่
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
https://en.wikipedia.org › wiki › Yeon_Sang-ho
https://www.imdb.com/name/nm3613566/
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































