หากจะพูดถึงศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นก็ต้องนึกถึง “สยามสแควร์” สถานที่เปรียบดั่งศูนย์กลางของวัยรุ่น ตั้งแต่ร้านอาหาร, เสื้อผ้า, โรงเรียนกวดวิชา ไปจนถึงแฟชั่นหรือเทรนด์ต่างๆที่เด็กวัยรุ่นอย่างเราๆต้องเคยสัมผัส ซึ่งที่แห่งนี้อาจมีเรื่องราวน่าจดจำมากมาย ทำให้ผู้กำกับหลายคนหยิบเอาสถานที่แห่งนี้มาเป็นฉากหลังหรือเป็นฉากสำคัญของเรื่องราวอยู่หลายๆเรื่องตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน
วันนี้เราจะไปดูสยามแสวคร์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันผ่าน 10 หนังดัง ที่มีฉากหลังคือศูนย์รวมวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัย ในการดำเนินเรื่อง รวมถึงเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นที่สยาม ถ้าอย่างั้นเราไปดูกันเลยครับ….

10.) สยามสแควร์ (ฉบับพ.ศ. 2527)
ถ้าจะพูดถึงหนังที่มีฉากหลังเป็นสยามสแควร์ยุคแรกๆ ก็ต้องเป็นหนังเรื่องนี้ ผลงงานของ ศุภักษร ผู้กำกับหนังแนววัยรุ่นชื่อดังในยุคนั้น (ถ้าแฟนหนังสือเขาคือเจ้าของผลงานแนว นิยายรักนักศึกษา) ที่ได้นักแสดงวัยรุ่นยอดยินยมในตอนนั้นอย่าง อนุสรา จันทรังษี ประกบคู่กับ วงศกร รัศมิทัต มือกลองแห่งวงแมคอินทอซ (ร่วมแสดงในเรื่องด้วย) โดยฉากจำในยุคนั้นนอกจากภาพรวมของสยามแล้ว ถ้าพูดถึงยุคนี้ก็ต้องเป็นฉากเล่นสเก็ตซึ่งเป็นเทรนด์นิยมในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างดี
หนังผีไทยระดับตำนานกับการวิ่งลงตุ่ม ว่าด้วยเรื่องราวของปอบที่ออกอาละวาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยในภาคที่ 9 ที่เป็นการกลับมาของปอบหยิบ ตัวละครประจำหนังชุดนี้ที่โผล่มาตั้งแต่สถานีรถไฟหัวลำโพงไปจนถึงสยามสแควร์ (บริเวณห้างสยามเซนเตอร์) ซึ่งเป็นภาพที่แปลกตาจากทุกภาค เพราะส่วนใหญ่จะวิ่งหนีปอบในต่างจังหวัดเป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็กลายเป็นภาพจำของหนังภาคนี้ไปโดยปริยาย

8.) เทวดาเดินดิน
หนังแอ็คชั่นผลงานของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ที่เล่าถึงกลุ่มโจรวัยรุ่นที่ออกทำงานสารพัดตั้งแต่ลักขโมยเล็กๆน้อยๆไปจนถึงปล้นธนาคารซึ่งทั้งสามคนต้องเจอเรื่องราวสารพัดมากมาย โดยหนังเรื่องนี้ได้มาถ่ายที่สยามในฉากปล้นรถ
7.) Hormones The Series ตอน ผู้หญิงไผ่ใครอย่าแตะ
หนังสั้นที่เหมือนเป็นเนื้อเรื่องเสริมจากซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง ที่เป็นกระแสในตอนนั้นอย่าง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น โดยเรื่องราวจะเป็นเส้นเรื่องของ ไผ่ หนุ่มเลือดร้อนกับ สไปร์ท ที่ทั้งสองต้องหนีจากกลุ่มอริที่จะมาหาเรื่องทั้งคู่ก่อนจะขับมอเตอร์ไซค์หนีไปจนได้มีโอกาสสานสัมพันธ์อีกครั้ง
หนังสั้นเรื่องนี้ได้ พี่ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์ ผู้กำกับซีรีส์ฮอร์โมน กำกับด้วยตัวเอง และได้ ต่อ-ธนภพ กับ เก้า- สุภัทสรา กลับมารับบทเดิมของตัวเองอีกครั้ง ซึ่งตัวหนังได้ยกกองไปถ่ายที่บริเวณ Centerpoint ในฉากหลบหนีสุดระทึก
6.) APPWAR แอปชนแอป
หนังเล่าถึงเรื่องราวคู่รักคู่หนึ่งที่มีความชอบอะไรหลายๆอย่าง ก่อนจะรู้ตัวว่าต่างฝ่ายต่างเป็นนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่มีความคล้ายคลึงกันอีก ทำให้ทั้งสองคนจึงต้องพิสูจน์ตัวเองด้วยการพัฒนาแอปเพื่อชิงทุนในการพัฒนาต่อไป โดยต่างฝ่ายทำทุกวิถีทา หนึ่งในนั้นคือการส่งเด็กในบริษัทไปแฝงตัวและเก็บข้อมูลออกมา สงครามของเหล่าสตาร์ทอัพจึงได้อุบัติขึ้น
หนังเรื่องนี้มีหลายฉากที่ไปถ่ายที่สยาม ทั้งบริเวณสยาม วัน และ สยาม เลเซอร์เกม ซึ่งเป็นสถานที่สุดฮิตของสยามสแควร์ก็ว่าได้
5.) Where We Belong
หนังของสองไอดอลชื่อดังวง BNK48 อย่าง เจนนิษฐ์ แลพะ มิวสิค ที่เล่าถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนระหว่าง เบล กับ ซู เมื่ออีกฝ่ายตัดสินใจที่อยากจะไปเรียนต่อ จนเกิดเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นผ่านทั้งสองคน ซึ่งถ้าใครได้ดูก็เป็นอีกเรื่องที่มีฉากหลังเป็นสยามสแควร์เมื่อตอนที่ทั้งสองคนเข้ามายังกรุงเทพฯ

4.) Sisters กระสือสยาม
หนังกระสือตีความใหม่ในแบบฉบับ ปรัชญา ปิ่นแก้ว ว่าด้วยเรื่องราวของตัวเอกที่ต้องสือทอดวิชาปราบเหล่ากระสือที่ยังคงจองล้างจองผลาญจากรุ่นสู่รุ่นรวมไปถึงปกป้องน้องสาวที่มีเชื้อกระสืออยู่ในตัว โดยมีนางพญากระสือต้องการชีวิตของทั้งสองคน
หนังมีบางฉากได้ไปถ่ายที่โรงหนังสกาล่า รวมถึงฉากไล่ล่าสุดมันส์กลางเรื่องที่ว่ากันว่านักแสดงหลักสองคน อย่าง โจ้ พลอยยุคล และ มิวนิค BNK48 ต้องวิ่งสุดชีวิตจนกว่าจะได้ฉากที่เห็นในหนัง
3.) Goal Club เกมล้มโต๊ะ
หนังแนวแอ็คชั่นดราม่า ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบดูบอลเป็นชีวิตจิตใจ จนเมื่อพวกเขาได้เข้าสู่โลกของการพนันบอลแล้วพบว่ามันคือหนทางที่จะไปถึงฝั่งฝัน แต่มันก็นำความสนุกและความคึกคะนองไปสู่ความลุ่มหลงมัวเมาและความหายนะกับพวกเขาในเวลาต่อมา
ฉากที่ อ๊อตโต้ ตัวเอกของเรื่องไปง้อ เจ แฟนสาว แล้วเดินเล่นที่สยามกลายเป็นหนึ่งในฉากจำของหนังเรื่องนี้ พอกลับมาดูอีกครั้งก็รู้สึกว่า สยามสแควร์เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว

2.) รักแห่งสยาม
หนังรักวัยรุ่นที่น่าจดจำของวงการหนังไทย ที่วันนี้กลายเป็นภาพยนตร์ระดับตำนานไปแล้วกับเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องเจอช่วงเวลาต่างๆ ทั้งการค้นหาตัวตน, ความรัก, ความฝัน ผ่านมุมมอง โต้ง และ มิว สองตัวละครเอกของเรื่อง โดยมีฉากหลังคือ สยามสแควร์ เกือบทั้งเรื่อง

1.) สยามสแควร์
ผลงานที่ชื่อเดียวกันเมื่อปี 2527 แต่สยามสแควร์ฉบับของผู้กำกับ ไพรัช คุ้มวัน ที่นำองค์ประกอบหนังรักวัยรุ่น, Comning Of Age และสยองขวัญมาผสมเรื่องราว จนได้ออกมาเป็นเรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่มาติวหนังสือที่โรงเรียนกวดวิชาแห่งหนึ่งในสยามสแควร์ ต้องมาเผชิญกับ “ตำนานวิญญาณเด็กสาวด้ายแดง” อันเลื่องลือของที่นี่ ทำให้พวกเขาต้องเลือกที่จะเตรียมตัวสอบเข้าหรือจะสืบเรื่องราวที่ไร้ซึ่งคำตอบ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
@P.PETTY
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]
































