นับตั้งแต่การถือกำเนิดของราชันไคจูอย่าง ก็อตซิลา ทำให้ในหลายประเทศต่างก็มีความพยายามที่จะสร้างหนังสัตว์ประหลาดหรือไคจูออกมาในแบบของตัวเอง หนึ่งในนั้นคือประเทศไทย ที่ต่อยอดตำนานพื้นบ้าน ความเชื่อหรือเหตุการณ์ที่เป็นกระแสในเวลานั้นมาสกัดออกมาเป็นเรื่องราวของสัตว์ประหลาดในแบบฉบับของบ้านเรา

วันนี้เราจะพาไปดู 10 หนังไคจูของบ้านเรากันครับ…

1.) จระเข้ (2523)

หากจะพูดถึงหนังไคจูของไทยในตำนานยุคแรกๆคงต้องยกให้หนังเรื่องนี้ ที่เป็นการร่วมทุนหลายชาติ จนไปสร้างความฮือฮาในเทศกาลภาพยนตร์ระดับโลกที่เมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศส แล้วยังได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำครั้งที่ 22 สาขาออกแบบและสร้างฉากยอดเยี่ยม

เรื่องราวของจระเข้ยักษ์ความยาวกว่า 50 ฟุต ที่โผล่มากลางตลาดน้ำจากการทดลองระเบิดปรมาณูใต้ทะเลลึก จนทะเลเกิดปั่นป่วนส่งผลให้ผู้คนต่างพากันหนีเอาตัวรอดจากการถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมทารุณ แต่เมื่อลูกสาวนักวิทยาศาสตร์ผู้ทดลองปรมาณูเป็นฝ่ายถูกจระเข้คาบไป การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ที่มีเทคโนโลยีและจระเข้ยักษ์ที่มีกำลังมหาศาลจึงได้เริ่มขึ้น
 

2.) กิ้งก่ากายสิทธิ์ (2528)

นี่คือผลงานเรื่องสุดท้ายของ สมโพธิ แสงเดือนฉาย และ บ.ไชโยภาพยนตร์ ที่ขอทำหนังสัตว์ประหลาดที่ดูได้ทุกวัยแล้วทำออกมาในโทนตลก ว่าด้วยเรื่องราว กิ้งก่ากายสิทธิ์ เป็นกิ้งก่าตัวใหญ่ที่เฝ้าแก้วมณีที่ใต้ฐานพระปรางค์วัดอรุณ แล้วจู่ ๆ แก้วมณีนี้ก็ถูกมนุษย์ต่างดาวมาขโมยเอาไป กิ้งก่ากายสิทธิ์จึงต้องไปขอความช่วยเหลือจากยักษ์วัดแจ้ง ขณะที่ตัวเองก็ต้องวิ่งไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อหนีการตามล่าของคนที่ต้องการเอากิ้งก่ากายสิทธิ์ไปออกงานวัด โดยจะต้องผจญภัยกับสิ่งต่าง ๆ เช่น จระเข้กินคน, ฝูงช้างป่ากับเสือ, หมีควายแม่ลูกอ่อน, วิ่งหนีรถไฟ, ยุงยักษ์และผีโครงกระดูกในถ้ำมหาสมบัติ หนังเรื่องนี้เคยมีโอกาสไปฉายที่ประเทศญี่ปุ่น

3.) มาห์ (2534)

หนังไคจูแนวไซไฟเรื่องแรกๆของไทย ที่นำแสดงโดย พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง และ มาช่า วัฒนพานิช เป็นผลงานที่ถือว่ามีความโดดเด่นที่เทคนิคพิเศษในการสร้างสัตว์ประหลาด หนังเล่าเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาที่ม เที่ยวป่าและได้เจอไข่ประหลาดใบหนึ่งในถ้ำ จึงตัดสินใจนำเอาไข่กลับมา เป็นเหตุให้สัตว์ประหลาดซึ่งเป็นเจ้าของไข่ออกตามล่าพวกเขาเพื่อทวงไข่ของมันกลับคืน โดยตัวหนังได้นำกลับมาฉายอีกครั้งเมื่อปี 2563 โดยบูรณะฟิล์มให้คมชัดขึ้นกว่าเดิม

4.) ปักษาวายุ (2547)

อีกหนึ่งหนังสัตว์ประหลาดและเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ยกระดับการถ่ายทำเป็นระบบดิจิตอลให้เทียบกับระดับสากล ในช่วงนั้นหนังยังมีการออกวีดีโอเกมเพื่อโปรโมตหนังเรื่องนี้โดยเฉพาะ
เมื่อโครงการขุดเจาะรถไฟฟ้าใต้ดินของไทยขุดเจอโครงกระดูกสัตว์โบราณโดยบังเอิญ ลีน่า จึงถูกติดต่อให้ไปทำการวิจัยโครงกระดูกนี้ เพราะมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่พ่อเธอเคยค้นพบ ที่นั่นเธอได้พบกับ แทน นายทหารหนุ่มที่ดูแลกองทหารซึ่งได้รับคำสั่งให้มาควบคุมดูแลการขุดค้น ก่อนที่ทั้งคู่จะค้นพบว่าหลุมขุดเจาะนั้นเชื่อมไปยังถ้ำของสัตว์โบราณซึ่งจำศีลอยู่มาเป็นเวลานานนับหมื่นปี

5.) โบอา งูยักษ์ (2549)

พนา ชายหนุ่มที่รักการถ่ายภาพได้หายตัวไปในป่าอย่างลึกลับ กลุ่มเพื่อนของเขาจึงเข้าป่าเพื่อตามหาด้วยการโดยสารไปกับบอลลูนเพื่อจะได้เห็นภูมิทัศน์ของป่าอย่างชัดเจน แต่ลมพายุที่รุนแรงทำให้บอลลูนตกลงในป่าลึกแห่งหนึ่งท่ามกลางฝนที่ตกหนัก พวกเขาจึงตัดสินใจเข้าพักแรมในถ้ำลับที่พบกลางป่า โดยหารู้ไม่ว่าได้ย่างกรายเข้าสู่อันตรายที่ยากจะต้านทาน

6.) โคตรเพชฌฆาต

แม้ว่าหนังไคจูบ้านเราส่วนใหญ่จะเล่าถึงจระเข้ และมีฉากหลังเป็นริมคลองอันเป็นวิถีชีวิตผู้คนที่คุ้นเคย โดยหนังเรื่องนี้หยิบจากเหตุการณ์จริงที่คลองบางมุดเมื่อจระเข้ยักษ์ออกทำร้ายชาวบ้าน ทำให้นายตำรวจหนุ่มที่สูญเสียแฟนกับนายทหารที่พักรบจึงต้องร่วมมือกับชาวบ้านเพื่อจัดการจระเข้ยักษ์ตัวนี้ลงให้ได้

7.) นาคี ๒ (2561)

สร้างจากละครสุดฮิตว่าด้วยเรื่องราวของ สร้อย (อุรัสยา เสปอร์บันด์) หญิงสาวดอนไม้ป่า ที่เติบโตมาพร้อมความเชื่อของหมู่บ้านที่มีความศรัทธาต่อเจ้าแม่นาคี สร้อยได้ช่วยยายของเธอขายดอกไม้ถวายเจ้าแม่ และเป็นผู้ดูแลเทวาลัย อันเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้าน สร้อยจึงมีความผูกพันกับเจ้าแม่นาคีมาตั้งแต่เด็กๆ

แต่หลังจากที่ ร.ต.อ ป้องปราบ (ณเดช คุกิมิยะ) ได้ถูกย้ายเข้ามาประจำการที่ ส.ภ ดอนไม้ป่า ก็เกิดคดีลึกลับ สะเทือนขวัญแก่หมู่บ้านมากมาย โดยสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นคดีที่มีความเงือนงำและคลี่คลายไม่ได้ จนชาวบ้านเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นฝีมือของเจ้าแม่นาคีแน่ๆ เจ้าแม่นาคีได้กลับมาอาละวาดอีกครั้ง

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้ชาวบ้านแน่ใจว่า สร้อย เป็นร่างประทับของเจ้าแม่นาคี แม้แต่สารวัตรป้องปราบนั้นก็ไม่เคยเชื่อเรื่องราวลี้ลับที่เหนือธรรมชาติแบบนี้ แต่ยังลังเลกับคำกล่าวหาที่สร้อยได้รับ จนทำให้เขานั้นเริ่มสืบหาเรื่องราวความจริง และเบื้องหลังในคดีลึกลับในดอนไม้ป่าแห่งนี้

8.) LEIO โคตรแย้ยักษ์ (2565)

ผลงานลำดับที่สองจากค่าย เนรมิต ฟิล์ม ที่แจ้งเกิดจากหนังวัยรุ่นเลือดพล่าน 4Kings ที่ขอท้าทายหนังสัตว์ประหลาดใชวนให้นึกถึงหนัง The Tremors เมื่อกลุ่มคนที่กำลังทำภารกิจเพื่อเป้าหมายบางอย่างในทุ่งที่แห้งแล้ง แต่กลับกลายเป็นการปลุกสัตว์ประหลานใต้ดินคืนชีพอีกครั้ง

9.) The Lake บึงกาฬ (2565)

เมื่อเมย์ (รับบทโดย วันใหม่) พบไข่ยักษ์ปริศนาและได้เก็บกลับมา จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่เปลี่ยนเมืองทั้งเมืองให้กลายเป็น “หายนะ” ตัดขาดผู้คนจากโลกภายนอก เจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่บังเอิญเข้ามาทำการวิจัยในไทย จึงต้องระดมกำลังทุกอย่างที่มี เพื่อจับสัตว์ประหลาด “ไทจู” คลั่งตัวนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะ “สายเกินไป”

10.) 100 ร้อยขา (2565)

ในยุคแห่งวิกฤตโรคระบาด ผู้ที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศจำเป็นต้องถูกกักตัวอยู่ในสถานที่กักกันโรคของรัฐเป็นเวลา 14 วัน และนี่คือเรื่องราวลึกลับที่เกิดขึ้นภายในสถานที่กักกัน กับการเผชิญฝูงสัตว์ประหลาดในตำนานตัวใหม่อย่างตะขาบยักษ์หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “ตะบองพลำ” ตะขาบยักษ์ในตำนานไทยความยาวกว่า 18 เมตร เรื่องราวความสยองจึงเริ่มขึ้นที่โรงแรมแห่งนี้ ทางรอดทางเดียวคือไขปริศนาว่าใครคือผู้แอบแฝง ห้ามออกจากห้อง ล็อกประตูหน้าต่างให้ดี พวกมันกำลังออกล่า!

ทั้งหมดนี้คือ 10 หนังไคจูสัญชาติไทยที่นำมาฝากครับ ใครชอบเรื่องไหนหรือมีที่อยากแนะนำลองแชร์กันได้ครับ..

@P.PETTY