เข้าสู่หน้าหนาว ที่ไม่ได้หนาว และลมนิ่งสนิท ฝุ่น PM2.5 ที่ลอยในอากาศก็เริ่มก่อตัว ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างมาก  ทั้งเรื่องทางเดินหายใน ผิวหนัง อาการระคายเคืองตา เป็นไปได้ ควรหาหน้ากากมาสวมใส่เพื่อป้องกันเวลาออกที่แจ้งด้วยนะครับ

จะว่าไปแล้ว ในโลกของการ์ตูน เราก็จะได้พบเจอตัวละครสวมหน้ากากเสมอๆ ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใส่มาแล้วกันฝุ่นได้มั้ย แต่ใส่แล้วเท่ อันนี้แน่นอนจริงๆ 

1.หน้ากาก ชาร์ อัสนาเบิล

(Gundam)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วแรง 3 เท่า / บ้าสีแดง / คลั่งไคล้สีทอง 

พันเอกหนุ่มผู้สวมหน้ากากปิดบังใบหน้าตลอดเวลา  ประจำการอยู่ในกองกำลังซีออน ได้รับฉายาว่า “ดาวหางสีแดง” เขาคือพี่ชายของ ซาร่า มาส หรือ อัลเทเซีย โดยชื่อเดิมของเขานั้นคือ “แคสวาล” เขาเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมและมีกลอุบายชั้นเลิศ ทำให้มักอ่านเกมสงครามของฝ่ายตรงข้ามได้เสมอ นอกจากนี้ยังพร้อมหักหลังพวกเดียวกันเอง เพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า อีกทั้งยังเป็นคนที่มองการไกลอีกด้วย

2.หน้ากากเสือ

(หน้ากากเสือ)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วอยากจับคนใกล้ตัวทุ่มด้วยเยอรมันซูเพล็กซ์ / รักเด็ก

ดาเตะ นาโอโตะ ที่ครั้งหนึ่งเขาเป็นเด็กยากจน อาศัยอยู่บ้านเด็กกำพร้า วันหนึ่งขณะที่ไปเที่ยวสวนสัตว์ เขาได้เผชิญหน้ากับเสือ และตั้งเป้าเอาไว้ว่า… “เสือ…ข้าต้องแกร่งอย่างเสือ” หลังจากนั้นเขาก็หายไป แต่ความจริงเขาได้เจอคนขององค์กรที่ชื่อ ถ้ำเสือ ที่ฝึกนักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมที่โหดที่สุด ซึ่งนาโอโตะได้ใช้ชีวิตที่บ้านใหม่ ได้รับการเคี่ยวกรำอย่างหนักด้วยการฝึกนรก จนกลายมาเป็นหน้ากากเสือ นักมวยปล้ำมือหนึ่งของถ้ำเสือในที่สุด  แต่เมื่อเขาได้มีโอกาสกลับมาปล้ำที่ญี่ปุ่น เขาจึงกลับมาที่บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ต้องประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายทำให้นาโอโตะตัดสินใจจะช่วยเหลือทุกวิถีทางเพื่อปลดหนี้ให้บ้านหลังนี้  ทำให้นาโอโตะตัดสินใจที่จะไปเส้นทางฝั่งธรรมะเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้าเหล่านี้  ขณะเดียวกันเขาต้องเจอแผนของ Mr.X พร้อมกับส่งนักมวยปล้ำในสังกัดมาเอาชีวิตของนาโอโตะ

3.หน้ากากศิลา

(โจโจ้ ล่าข้ามศตวรรษ)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วเป็นแวมไพร์ / มีแสตนด์ / มุด้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

หน้ากากศิลา คือสิ่งประดิษฐ์สุดลึกลับของกลุ่มลัทธิแวมไพร์แอบซุกซ่อนเอาไว้ในอาณาจักรอัสเตก้า โดยต้นตระกูลโจสตาร์อย่าง “จอร์จ โจสตาร์ที่ 1″ ได้เอามาติดประดับคฤหาสถ์โจสตาร์  ซึ่งความสามารถจริงๆก็คือการเปลี่ยนคนให้เป็นผีดิบ ซึ่ง ดิโอ ลูกบุญธรรมบ้านโจสตาร์ ก็เอามันมาสวม และกลายเป็นวายร้ายของซีรี่ส์นี้ไปเลย หลักๆเลยคือทำให้มีความสามารถเหนือมนุษย์ มีแสตนด์หยุดเวลาด้วย!

4.หน้ากากทักซิโด้

(เซเลอร์มูน)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วชอบอยู่บนที่สูง / ใส่แล้วหล่อ / ใส่แล้วต้องเตรียมพร๊อพดอกกุหลาบ / ชอบพูดประโยคเดิมๆอย่าง “จังหวะนี้ล่ะ เซเลอร์มูน!“

หน้ากากทักซิโด หรือ เจ้าชายเอ็นดิเมียน แฟนหนุ่มของอุซางิ และยังเป็น “เอ็นดิเมียน” เจ้าชายแห่งโลกมนุษย์ที่กลับชาติมาเกิดใหม่ เขาแปลงร่างเป็น หน้ากากทักซิโด เพื่อช่วยเหล่านักรบสาวต่อสู้กับเหล่าร้าย มักจะมาในตอนที่เซเลอร์มูนพลาดท่า การโจมตีด้วยดอกกุหลาบของเขา เปิดช่องให้เซเลอร์มูนสวนกลับได้แทบทุกครั้ง

5.หน้ากาก เกรท ไซย่าแมน

(ดราก้อนบอล Z)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วจะมีท่าประจำตัวเพี้ยนๆ / รสนิยมแย่ลง / บินได้ / ปล่อยพลังได้

 โกฮัง โตเป็นหนุ่มและใช่ความเก่งกาจที่มี รับบทเป็นซุปเปอร์ฮีโร่คอยช่วยปราบโจรในชื่อ เกรทไซย่าแมน และได้รู้จักกับสาวสวยลูกของ มร.ซาตาน ที่ชื่อ บีเดล ที่ชักชวนให้ โกฮัง เข้าร่วมศึกชิงเจ้ายุทธภพครั้งที่ 25 เพื่อหวังจะให้มาปราบพ่อของเธอ  ทำให้โกฮังต้องถอดหน้ากาก และใส่แว่นดำ + ผ้าโพกหัวแทน เพราะยังไม่อยากให้ตัวตนของเกรทไซย่าแมนถูกเปิดเผย

6.หน้ากาก คาคาชิ

(นารูโตะ)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วกลัวการถูกสปอยล์เนื้อหานิยาย / เหม่อลอย / มาสาย / ชอบอ่านนิยาย18+ / เก่ง / เป็นโฮคาเงะ

ฮาตาเกะ คาคาชิ เป็นโฮคาเงะรุ่นที่6ของหมู่บ้านโคโนฮะ มีฉายาว่า “เนตรวงแหวน คาคาชิ” หรือ “ก๊อปปี้นินจา คาคาชิ” ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ)   ซึ่งเป็นหนึ่งนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ คาคาชิได้รับเนตรวงแหวนจากอุจิวะ โอบิโตะเพื่อนร่วมทีมก่อนจะเสียชีวิต โดยได้รับการผ่าตัดจากรินในระหว่างภารกิจ

คาคาชิเอง ก็จัดได้ว่าเป็นอัจฉริยะนินจาแห่งยุคเช่นกัน ด้วยความสามารถที่สูงมาก จึงทำให้ได้รับภารกิจระดับสูงบ่อยครั้ง

7. หน้ากาก ลูลูช วี บริทาเนีย

(Code Geass)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วบ้าอำนาจ / ชอบวางแผนบงการผู้คน / ใส่แล้วมีอาการหวงน้องสาว / ตาย

ลูลูช เป็นรัชทายาทลำดับที่ 17 แห่งจักรวรรดิบริทาเนีย แต่ถูกพระบิดาเนรเทศไปยังประเทศญี่ปุ่นกับน้องสาวเพื่อเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง เขาจึงโกรธแค้นพ่อตัวเองมาก และเมื่อโตขึ้น เขาได้รับพลังที่ชื่อว่า “กีอัส” มาจาก ซีทู หญิงสาวปริศนา เป็นพลังที่สามารถสั่งการให้ใครทำอะไรก็ได้ตามต้องการ เขาใช้พลังนี้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธที่ชื่อว่าภาคีอัศวินดำและเป็นผู้นำของในนามแฝงว่า “ซีโร่” มีเป้าหมายเพื่อล้มล้างจักรวรรดิบริทาเนีย

8. หน้ากากเซนต์หญิง

(เซนต์เซย่า)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วหวงตัวเป็นพิเศษ / หลงรักคนที่เห็นหน้าจริงง่ายกว่าปกติ / มีความซาดิสม์ชอบความรุนแรงบ้าง / ใส่แล้วอกหัก

เซนต์หญิงในการ์ตูนเซนต์เซย่า ถูกวางให้เป็นตัวละครสมทบ พร้อมกฎแปลกๆอย่าง ห้ามให้ผู้ชายเห็นหน้า ถ้าเห็นหน้าตาแล้วต้องฆ่า ไม่ก็จับทำสามีเอาซะเลย (กรณีคุณไชน่า กับเซย่า)  ซึ่งในภาคที่ถูกวาดมาในยุคหลังๆกฏนี้ก็เริ่มหย่อนๆไปแล้ว บางคนเป็นเซนต์แต่ไม่ใส่หน้ากากเลยก็มี 

9. หน้ากาก เพื่อน

(20th Century Boy)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วถูกลืม  / ใส่แล้วคนสงสัยว่าตัวจริงเป็นใคร / กูตาลาลา … ซือตาลาลา …

บุคคลปริศนา เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มเพื่อนในวัยเด็กของเคนจิผู้ซึ่งรู้เรื่องบันทึกคำทำนาย และในปี 1997 เขาวางแผนอันแยบยลให้เคนจิทำตามบันทึกคำทำนายโดยให้เคนจิเป็นฝ่ายฮีโร่ ในขณะที่เขาเล่นเป็นบทผู้ร้าย แต่ทว่าทุกอย่างกลับตาลปัตร “เพื่อน”กลับกลายเป็นฮีโร่ ในขณะที่เคนจิกลับกลายเป็นอาชญากร

ซึ่งตัวจริงของ “เพื่อน”  มีสองคน ได้แก่ “ฟุคุเบะ”(โดนยิงตาย) และ “คัตสึมาตะ “ (สวมรอยเป็น ฟุคุเบ เป็นตัวละครที่โผล่มาในเล่มแรก เล่มเดียว แล้วคนก็ลืมไปเลยว่ามีตัวละครนี้อยู่)

10. หน้ากาก เฮนไต คาเมน

(เทพบุตร หลุดโลก)

ผลข้างเคียง – ใส่แล้วรั่ว / บ้า / มีคุณธรรม

เด็กหนุ่มขี้อายชื่อ เคียวสุเกะ พ่อเป็นนักมวยปล้ำ แม่เป็นสาวบาร์ ที่แปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโรที่เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ เคียวสุเกะต้องพรางตัวแบบวิตถารโดยสวมถุงน่องตาข่าย สวมกางเกงชั้นในสตรี และใช้กางเกงในสตรีอีกตัวหนึ่งครอบศีรษะเป็นหน้ากาก โดยจะยิ่งมีพลังในการต่อสู้มากขึ้นถ้าได้สวมกางเกงชั้นในที่เพิ่งสวมมาใหม่ๆ

——————————

ก็เป็นบทความอ่านเอาขำๆ สนุกๆ ต้อนรับฝุ่น PM2.5 ไม่ว่าคุณจะใส่หน้ากากอะไรก็ตาม ขอให้มันกันผุ่นและสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวคุณ  ดูแลรักษาสุขภาพด้วยนะครับ อันนี้ฝากกันจริงจังเลย

ผลเสียของ PM2.5

ในปัจจุบันประชาชน 9 ใน 10 คนกำลังเผชิญกับคุณภาพอากาศที่มีมลพิษเกินค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก World Health Organization (WHO) กำหนดไว้ ทั้งนี้ WHO ยังอัพเดทสถานการณ์ว่าในแต่ละปีมีผู้คนประมาณ 7 ล้านคนเสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศอีกด้วย มลพิษทางอากาศที่มีอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุด คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ในปีพ.ศ. 2561 มีพื้นที่ 28 แห่งจาก 53 แห่ง (ใน 29 จังหวัด) ที่มีความเข้มข้นของ PM2.5 เฉลี่ยรายปีเกินมาตรฐานในบรรยากาศของประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กและพื้นที่เมืองทั้ง 53 แห่ง และยังมีความเข้มข้นของ PM2.5 เฉลี่ยรายปีเกินค่าตามคำแนะนำองค์การอนามัยโลกซึ่งกำหนดไว้ที่ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร

PM2.5 มาจากทั้งแหล่งกำเนิดปฐมภูมิ เช่น การคมนาคมขนส่ง การผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล การเผาในที่โล่งและอุตสาหกรรมการผลิต และแหล่งกำเนิดแบบทุติยภูมิ ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาเคมีในบรรยากาศโดยมีสารกลุ่มซัลเฟอร์หรือกลุ่มไนโตรเจนและแอมโมเนียเป็นสารตั้งต้น ดังนั้น การปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์และออกไซด์ของไนโตรเจนจากแหล่งกำเนิดต่างๆ โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากฟอสซิลและการผลิตทางอุตสาหกรรม เมื่อเกิดการรวมตัวกันในบรรยากาศจะมีผลต่อการก่อตัวของ PM2.5 ขั้นทุติยภูมิอีกด้วย

ฝุ่น PM2.5 ถูกพิจารณาว่าเป็นมลพิษที่มีผลกระทบกับสุขภาพมากที่สุดในบรรดามลพิษทางอากาศโดยทั่วไป เนื่องด้วยขนาดที่เล็กมาก PM2.5 สามารถเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจของมนุษย์ได้ และจากนั้นก็ไปทั่วร่างกาย เป็นสาเหตุของผลกระทบด้านสุขภาพทั้งระยะสั้นและระยะยาวมากมาย จากข้อมูล State of Global Air ระบุว่า PM2.5 ก่อให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของประเทศไทยประมาณ 37,500 ราย นี่คือวิกฤตด้านสาธารณสุขโดยที่ เด็ก คนสูงวัยและกลุ่มประชากรเสี่ยงในสังคมได้รับผลกระทบมากที่สุด

ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีขนาดเล็กกว่า 1 ใน 25 ส่วนของเส้นผ่านศูนย์กลางของ เส้นผมมนุษย์ สามารถแพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ถุงลมในปอดและกระแสเลือดโดยตรง ส่งผล อันตรายต่อกระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆในร่างกายและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรัง

จากการศึกษาโดย Institute for Health and Evaluation, University of Washington สนับสนุนโดย ธนาคารโลก พบว่า มลพิษทางอากาศเป็นปัจจัยร่วมที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆเนื่องจากมีส่วนประกอบของสาร เคมีหลายชนิดทั้งที่เป็นสารระคายเคืองไปจนถึงสารก่อมะเร็งจึงเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหลอดเลือดในสมอง โรคหัวใจขาดเลือด โรคมะเร็งปอด และโรคติดเชื้อเฉียบพลันระบบหายใจส่วนล่าง สำหรับก๊าซโอโซนเป็นสารระคายเคืองปอด ทำให้ปอดติดเชื้อง่าย จึงเป็นปัจจัยร่วมอันก่อให้เกิดโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง

ที่มา greenpeace