ถือเป็นการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของทีม “อาชญากลปล้นโลก” กับภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่คนทั้งโลกรอคอย หลังประสบความสำเร็จจากกลโกงสองภาคแรกโกยรายได้ไปกว่า 700 ล้านเหรียญ สร้างปรากฏการณ์เมจิกฟีเวอร์ไปทั่วโลก ครั้งนี้ “จตุรอาชา” (The Four Horsemen) จะกลับมาสานต่อมหึมาความทึ่งด้วยการก่อเหตุจารกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน “Now You See Me: Now You Don’t”
เสน่ห์ของหนังคงจะเป็นเหล่าสารพัดมายากล ตื่นตาตื่นใจซึ่งสองภาคแรกทำให้เกิดกระแสพักใหญ่ แต่ความจริงแล้วมายากลยังเป็นสิ่งบันเทิงที่ทำเอาผู้ชมต่างหลงใหลและคาดไม่ถึง เพราะมันคือศาสตร์ที่ใช้ทักษะลวงตาผู้ชมในการทำสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ด้วยความคล่องแคล่วรวดเร็วหรือด้วยอุปกรณ์ช่วยตบตาคนดู ทำให้การแสดงน่าทึ่งราวกับมีเวทมนตร์
เพื่อต้อนรับภาคล่าสุดของ Noew You See Me เราจะแนะนำ 10 หนังแนวมายากลเรียกน้ำย่อยกันก่อนครับ ไปดูกันว่าจะมีเรื่องไหนกันบ้าง…
เริ่มกันที่ผลงานปี 2006 ที่ได้ Edward Norton มาสวมบทบาทเป็นนักมายากลชื่อดัง ที่กลับมาพบว่าคนรักของเขากำลังหมั้นหมายกับมกุฎราชกุมาร บวกกับถูกกีดกันจากฐานะชนชั้นที่แตกต่าง เขาจึงใช้ทักษะการแสดงมายากลของเขาเพื่อดึงดูดคนรักและสร้างความปั่นป่วนให้กับราชวงศ์
The Illusionist (2010)
ภาพยนตร์แอนิเมชั่นสัญชาติฝรั่งเศสในปี 2010 ว่าด้วยเรื่องราว ช่วงตกต่ำของนักมายากลวัยชราคนหนึ่งที่การแสดงของเขากลายเป็นความเชยล้าสมัย งานแสดงตามสถานที่ใหญ่ ๆ กลายเป็นพื้นที่ของวงดนตรีร็อคทันสมัย ส่วนนักมายากลแบบเขาต้องยังชีพด้วยการแสดงในผับเล็ก ๆ แต่ที่นี่เองที่เขาได้พบเด็กสาวคนหนึ่งที่เชื่อว่ามายากลของเขาคือเวทมนตร์ จนเธอได้ติดสอยห้อยตามมาเป็นแม่บ้านแม่ครัวให้เขา
Presto (2008)
แอนิเมชั่นเรื่องสั้นจากค่าย Pixar ว่าด้วยเรื่องราวนักมายากลกับกระต่ายคู่หู ที่วันหนึ่งเขาต้องรีบทำการแสดง จนลืมให้อาหารคู่หูที่กำลังท้องร้อง ทำให้โชว์มายากลที่เขาหวังว่าจะเป็นอีกโชว์น่าประทับใจแก่ผู้ชมกลับลงเอยกลายเป็นตลกจี้เส้นซะอย่างนั้น (ฮ่า!) หนังเรื่องนี้เคยได้เข้าชิงออสการ์ในปี 2008 สาขา อนิเมชั่นสั้นยอดเยี่ยม
The Prestige (2006)
หนังที่ได้สองยอดฝีมืออย่าง Hugh Jackman และ Christian Bale มาเฉือนคมในหนังมายากลว่าด้วยเรื่องราว การต่อสู้ที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยความหลงใหลระหว่างนักมายากลคู่แข่งสองคน โรเบิร์ต แองเจียร์ (Robert Angier) และ อัลเฟรด บอร์เดน (Alfred Borden) ในยุคลอนดอนปลายศตวรรษที่ 19 การแข่งขันที่เป็นมิตรได้เปลี่ยนเป็นความขัดแย้งอันรุนแรงหลังจากโศกนาฏกรรมบนเวที ซึ่งนำไปสู่การทุ่มเททุกอย่างเพื่อค้นหาความลับของกลอันยิ่งใหญ่ที่สุด
ยอดพยัคฆ์ นักมายากล เป็นเรื่องราวของ จาง เสียน นักมายากลชื่อดังที่เดินทางกลับจากอังกฤษมายังจีน และพบว่าคู่หมั้นของเขาถูกนายทหารยศสูงชิงตัวไปเป็นภรรยาน้อย ทำให้เขาต้องใช้กลอุบายและมายากลในการต่อสู้เพื่อทวงความรักคืนกลับมาให้ได้
ภาพยนตร์สารคดีที่ออกฉายในปี 2010 ซึ่งติดตามชีวิตของเหล่านักมายากลวัยรุ่น 6 คนจากทั่วโลก ขณะที่พวกเขาฝึกซ้อมและเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์มายากลเยาวชนโลกที่ลาสเวกัส โดยตัวหนังจะพาผู้ชมไปสำรวจชีวิตส่วนตัวของพวกเขา ทั้งการฝึกซ้อมอย่างหนัก ความทุ่มเท และการเสียสละเพื่อไล่ตามความฝัน นอกจากนี้ยังนำเสนอเรื่องราวเบื้องหลังของการสร้างสรรค์ลูกเล่นใหม่ๆ และความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน
The Incredible Burt Wonderstone (2013)
เรื่องราวของ นักมายากลซูเปอร์สตาร์ในลาสเวกัส ที่เคยรุ่งเรืองคู่กับแอนตัน มาร์เวลตัน แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มร้าวฉานเมื่อต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งหน้าใหม่ที่เล่นกลได้น่าตื่นเต้นและอันตรายกว่า การแสดงของพวกเขาเริ่มจืดจางลง ทำให้พวกเขาต้องพยายามกอบกู้การแสดงและมิตรภาพของพวกเขากลับคืนมาอีกครั้ง
Death Defying Acts (2007)
ภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องราวของนักมายากลชื่อดัง แฮร์รี่ ฮูดีนี่ โดยหนังจะเล่าตอนที่เขาที่เดินทางมาอังกฤษในปี 1926 และได้พบกับแม่ม่ายชาวสกอตแลนด์ชื่อ แมรี่ แม็คการ์วี่ ซึ่งเป็นนักต้มตุ๋นที่ใช้ลูกสาว ช่วยในการหลอกลวงผู้อื่น เพราะมองเห็นโอกาสที่จะได้เงินรางวัลจำนวนมาก จึงวางแผนที่จะหลอกลวงฮูดีนี่ แต่ทว่าเขากลับเริ่มหลงเสน่ห์เธอ และเกิดเป็นเรื่องรักที่ซับซ้อนและอันตรายมากขึ้นกว่าที่คาดไว้
เรื่องนี้เล่าถึงหนุ่มนักมายากลข้างถนนที่แอบรับงานผิดกฎหมายให้แก๊งมิจฉาชีพเพื่อหาเงินมาดูแลน้องสาว แต่งานนี้มันกลับทำให้น้องสาวต้องตกอยู่ในอันตราย เขาจึงต้องนำมายากลที่ตัวเองถนัดมาใช้เพื่อช่วยน้องให้ได้ โดยงานนี้แหวกแนวตรงที่หนังเล่าเรื่องมายากลผ่านสังคมคนผิวสี แถมยังเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่ไม่ได้เป็นนักมายากลมืออาชีพเหมือนเรื่องอื่นๆ และมันก็ไม่ใช่แค่มายากลอย่างเดียว แต่หนังยังเพิ่มความสนุกด้วยการใส่เรื่องการใช้พลังจิตเข้าไปอีกด้วย
“อาชญากลปล้นโลก” ภาพยนตร์แฟรนไชส์ทว่าด้วยกลุ่มนักมายากล 4 คนที่เรียกตัวเองว่า “จตุรอาชา” หลังจากประสบความสำเร็จจากกลโกงสองภาคแรกโกยรายได้ไปกว่า 700 ล้านเหรียญ สร้างปรากฏการณ์เมจิกฟีเวอร์ไปทั่วโลก ครั้งนี้ “จตุรอาชา” (The Four Horsemen) จะกลับมาสานต่อมหึมาความทึ่งด้วยการก่อเหตุจารกลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนใน “Now You See Me: Now You Don’t” ซึ่งจะเป็นภาคล่าสุดที่กำลังจะได้ชมในปีนี้
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
https://www.imdb.com/list/ls025791338/
https://pantip.com/topic/38987063
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































