เรื่องราวของโลกอาชญากรรม ไม่ว่าตั้งแต่ระดับ อันธพาล ไปจนถึงระดับมาเฟีย มันมีเรื่องราวที่น่าสนใจ จนทำให้ผู้สร้างภาพยนตร์ต่างหยิบเรื่องราวของพสกเขามาสร้างเป็นหนังในแบบของตัวเอง บางเรื่องเน้นไปหนักแนวเชือดเฉือน หรือไม่ก็แนวแอ็คชั่น นอกจากภาพยนตร์แล้ว วีดีโอเกมถืเป็นอีกช่องทางที่ทำให้เกิดเกมแนวนี้มากขึ้น ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดู 10 เกมแนว Gangster ที่เข้มข้นไม่แพ้ภาพยนตร์มาฝากกัน เราไปดูกันว่าจะมีเกมอะไรน่าสนใจบ้าง
Scarface: The World is yours (2006)
มาเริ่มกันที่เกมแอ็คชั่นจากหนังมาเฟียสุดฮิตของ อัล ปาชิโน่ ในตำนานที่นำมาสร้างเป็นเกมในปี 2006 โดยบิดเนื้อหาตอนจบที่ให้พระเอกอย่าง โทนี่ มอนตาน่า รอดพ้นจากคมกระสุนของคู่อริที่ถูกส่งมาสังหาร ทำทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่าง ก่อนที่เขาสาบานว่า เขาจะทวงทุกสิ่งกลับคืนมาอีกครั้ง โดยตัวเกมเราจะต้องทำภารกิจและยึดครอบครองเขตธุรกิจเป็นของตัวเองให้ได้ ซึ่งตัวเกมได้ผลตอบรับพึงพอใจ ก่อนที่จะมีแผนสร้างภาคต่อ แต่ท้ายสุดโปรเจคก็ไม่ได้เกิดขึ้น
The Warriors (2005)
อีกหนึ่งเกมแนวชาวแก๊งที่สร้างจากหนังดังสุดคัลท์ ก่อนที่ทางค่ายเกมดังอย่าง Rockstar จะสานต่อเรื่องราวจากหนังให้แฟนเกมได้รู้จักมากขึ้นโดยในเกม เราจะได้เล่นเป็นแก๊ง The Warrior ที่ต้องเผชิญกับเหล่ากลุ่มแก๊งทั้งหลายที่จ้องจะเล่นคุณ (ฮ่า) สไตล์แบบสี่คิงส์ โดยเรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์ก่อนเนื้อเรื่องหลัก รวมถึงมี Flashback ขยายเรื่องราวของเหล่าสมาชิกที่มีที่มาว่าพวกเขารวมตัวกันไดอย่างไร ตัวเกมทเป็นที่ถูกอกถูกใจของแฟนเกม รวมถึงแฟนหนัง แถมทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้นกว่าเดิม
The Godfather (2006)
เกมจากค่ายดังอย่าง Electronic arts หรือ EA ที่หยิบหนังมาเฟียในตำนานมาสร้างเป็นเกม โดยเรื่องราวจะยังคล้ายกับตนฉบับ แต่เราจะได้เล่นเป็นตัวเอกที่ครอบครัวของเขาเคยเป็นส่วนหนึ่งของตระกูล Corleone ที่เราจะได้มีส่วนร่วมกับภารกิจต่างๆในหนัง รวมถึงการไต่เต้าสู่การเป็นเจ้าพ่อคนต่อไป ภายหลังมีการภาคต่อออกมา โดยจุดขายภาคสองนั้นคือการยึดครองธุรกิจนั่นเอง
Empire of Sin (2020)
สำหรับใครที่ไม่ชอบบู๊จับกระสุนถล่มศัตรู แต่ชอบไปในทางวางแผนราวกับ ที่ปรึกษาของตระกูลมาเฟีย ก็ขอแนะนำเกมนี้ครับ ที่เราจะไดสวมบทเป็นหัวหน้าแก๊งที่สมารถสร้างอาณาจักรและธุรกิจของตนเองในช่วงปี1920 ก่อนจะต่อยอดธุรกิจและเขตปกครองจนสามารถจับมือกับกลุ่มอื่นหรือกำจัดคู่อริให้พ้นทาง ซึงทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจผู้เล่นเพียงคนเดียว
City of Gangsters (2020)
นี่คือเกมแนวซิมซิตี้ในโลกของมาเฟีย ซึ่งไม่ได้เน้นเรื่องราว แต่เป็นการเน้นการบริหารจัดการของแก๊ง ตั้งแต่ธุรกิจของแก๊ง ไปจนถึงออกแบบเส้นทางด้วยตัวเอง เพื่อหลบซ่อน ลักลอบ และแอบแฝง ไปยังพื้นที่ต่างๆได้ทั่วเมือง ซึ่งนี่คือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนชื่นชอบเกมนี้มาก
Yakuza (2005)
เกมแนวยากูซ่าของทางค่าย Sega นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2005 จนถึงปัจจุบัน จนมีภาคหลักและภาคเสริมมากมาย เรียกว่าเป็นอีกซีรีส์เกมที่เข้าขั้นตำนานอีกเกม เนื้อหาราวกับหลุดไปยังภาพยนตร์แนวยากูซ่า และละครอาชญากรรมญี่ปุ่น หากใครชอบแนวยากูซ่า ต้องหามาเล่นให้ได้ครับผม
Sleeping Dog (2012)
เกมแอ็คชั่นที่ฉากหลังเป็นฮ่องกงผ่านเรื่องราวของนายตำรวจได้รับภารกิจให้เข้าไปแทรกซึมองค์กรอาชญากรรมที่ทรงอิทธิพลโดยเราต้องแฝงตัวอย่างแนบเนียนพร้อมกับส่งรายงานให้ตำรวจ และทำภารกิจของแก๊งอาชญากรรมไปพร้อม ๆ กัน โดยจุดเด่นของเกมที่น่าสนใจคือระบบการต่อสู้ ภาพรวมของเกมนี้มีกลิ่นอายชวนนึกถึงหนังแนวเจ้าพ่อฮ่องกงเต็มเปี่ยม
GTA: VICE CITY (2002)
อีกหนึ่งซีรีส์เกมสุดฮิตจาก เกมชุด GTA กับฉากหลังยุค 80’s ผ่านตัวละคร ทอมมี่ ตัวเอกที่ถูกหักหลังจากก๊งของตัวเอง ก่อนจะหาทางจัดการและวางแผนจะครอบครอง Vice City ด้วยตัวของเขาเอง ซึ่งกลิ่นอายของเกมมีความเป็นหนังฮอลลีวู้ดโดยเฉเพาะหนังเรื่อง Scarface แถมยังได้ดาราระดับแม่เหล็กมากมายมาให้เสียงพากย์
MAFIA 2 (2010)
เกมจากซีรีส์มาเฟีย ที่แฟนๆต่างยกให้เป็นเกมที่บอกเล่าเรื่องราวมาเฟียไม่แพ้ภาพยนตร์ กับเรื่องราวของ Vito ที่ต้องเข้ามาพัวพันกับโลกมาเฟียในเมือง Empire Bay ที่มีการหักหลังและชิงอำนาจ ซึ่งตัวเกมเรียกว่านอกจากจะยกฉากหลังยุค 40-50แล้ว เรื่องราวก็เข้มข้นเหมือนกำลังดูหนังมาเฟียก็ว่าได้
GTA: San Andreas (2004)
นี่อาจจะเป็นเกมแนว Gangster ที่หลายคนเคยได้เล่นแน่นอน จุดเด่นคือตัวระบบการเล่นและเรื่องราวที่เข้มข้น ทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัย เราจะได้เล่นเป็น CJ ชายหนุ่มที่ต้องสูญเสียแม่จากสงครามระหว่างแก๊งเขาจึงกลับมาเพื่อช่วยพี่และแก๊งกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมเจอเรื่องราวต่างๆที่ไม่อาจคาดเดาได้เลยทุกวินาที
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
https://www.imdb.com/list/ls022493964/
https://www.watchmojo.com/articles/top-10-mafia-gangster-games/mafia-ii-2010
https://gamerant.com/best-games-where-you-play-as-gangster/
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]





































