Dunkirk [รีวิว/ตัวอย่าง]
22 กรกฎาคม 2560 19:09 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Dunkirk (20) 

ชื่ออังกฤษ : Dunkirk
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : ดราม่า / แอคชั่น
ผู้กำกับ :   คริสโตเฟอร์ โนแลน 

แสดงนำโดย : ทอม ฮาร์ดี้ / เคนเนธ บรานาห์ /  เฟียน ไวท์เฮด / มาร์ค ไรแลนซ์ / คิลเลียน เมอร์ฟี่ / แจ็ค โลว์เดน / แอนนูริน บาร์นาร์ด /เจมส์ ดาร์ซี /แบรี่ คีโอแกห์น / ทอม กลินน์-คาร์นีย์ และ แฮรี่ สไตลส์ 
ค่าย : Warner Bros.
ฉาย : 17 กรกฏาคม 2017

บทสัมภาษณ์นักแสดง และความในใจของโนแลน ซับไทย 

Dunkirk (10)

นี่คือภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์จริง โดยฝีมือของผู้กำกับที่ถูกตั้งความหวังจากเหล่านักวิจารณ์ และคอหนังทั่วโลกอย่าง “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ที่หยิบเอาอีกหนึ่งอีเว้นท์ที่เกิดขึ้นในสงครามโลก “ท่ามกลางวิกฤติ ท่ามกลางการทำลายล้าง การอยู่รอดคือชัยชนะ” 

 

 

ยุทธการดันเคิร์ก คืออะไร!?

Dunkirk (12)

ยุทธการดันเคิร์ก จัดเป็นหนึ่งในอีเว้นท์ใหญ่ในสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 4  มิถุนายน พ.ศ. 2483 (ค.ศ. 1940) ซึ่งในตอนนั้นเอง มีเหตุการณ์กองกำลังขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสถูกล้อมไว้โดยหมู่ยานเกราะของกองทัพนาซีเยอรมัน ซึ่งครอบครองอาณาบริเวณตลอดชายฝั่งช่องแคบที่เมืองคาเลส์ ทหารสัมพันธมิตรกว่า 330,000 นายสามารถอพยพผ่านทางทะเลมาได้ ด้วยความร่วมมือของกองเรือราชนาวีอังกฤษ เหล่าสัมพันธมิตร และเรื่องพานิชนาวีทั้งหลายในบริเวณนั้นได้ร่วมกันพาทหารของสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสที่ถอยร่นจากเมืองดันเคิร์ก ขึ้นเรือกลับบ้าน

Dunkirk (15)Dunkirk Review (7)

ในช่วงท้ายของอีเว้นท์นี้ ก็ได้มีการขนย้ายทหารลำเลียงผ่านเรือเล็ก และรอดออกมาได้บางส่วนเท่านั้น เพราะการโจมตีอย่างหนักของกองทัพนาซีเยอรมันถูกสั่งระงับโดย “อดอลฟ์ ฮิตเลอร์” ที่เริ่มจะเห็นใจพวกกองทัพอังกฤษ เพราะเชื่อว่าชาวเยอรมัน และอังกฤษมีความใกล้เคียง คือ เป็น “เผ่าพันธ์ชนชั้นสูง” เหมือนกัน หรือ Master Race อีกทั้งยังหวังว่าอังกฤษจะยอมรับคำขอสงบศึกและเป็นพันธมิตรกับตน แต่อังกฤษปฏิเสธมาตลอดจนจบสงคราม นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของฮิตเลอร์

 

15-thing-about-dunkirk-movie (16)

อ่านเรื่องราวต่อเต็มๆได้ที่ วิกิพีเดีย / อ่านต่อ

 

 

Dunkirk Review

Review 7/10 Rank C

เป็นหนังภาพสวย ขายสถาณการณ์สุดเครียด ที่ไม่เหมาะกับครอบครัว หรือ เสพเอาความบันเทิง

 

Dunkirk Review (2)

 

เป็นหนังสงครามเรื่องแรกอย่างเป็นทางการชองคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่หยิบเอาเหตุการณ์การถอยทัพที่ดันเคิร์กมาเป็นประเด็น บ่อยครั้งที่หนังสงครามจะชูเอาภาพของฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นตัวเอก หรือตัวเล่าเรื่องราว ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เช่นกัน เล่าในมุมฝ่ายสัมพันธมิตรโซนยุโรปแบบ 100% 

 

Dunkirk Review (8)

ในภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่สอง จะเน้นความดุเดือดของภาพสมรภูมิรบ ทำเอามันส์ ยิงแลกกระสุนอย่างบ้าคลั่ง ศพเกลื่อนเสียงระเบิดสนั่นกึกก้องหู แต่ไม่ใช่กับหนังของโนแลนเรื่องนี้

 

ภาพของดันเคิร์ก คือ “การถอยทัพ” เน้นการขายภาพของทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่ “หมดทางสู้” และ “หนีตาย” รวมไปถึงความกล้าหาญของพลเรือนที่เข้าช่วยทหารเสียด้วยซ้ำ แทบจะไม่เห็นการโต้กลับ หรือการต่อสู้เลย ซึ่งส่วนตัวแอดมินคิดว่า เป็นมุมมองการนำเสนอที่แปลก และค่อนข้างต่างจากหนังสงครามในท้องตลาดครับ

 

Dunkirk Review (6)

งานภาพของเรื่องจะถ่ายทำด้วยกล้อง IMAX 65 ม.ม. ผสมกับการถ่ายภาพด้วยกล้อง 65 ม.ม. โดยมีจุดประสงค์ในการเก็บภาพ บรรยากาศต่างๆอย่างครบถ้วน แน่นอนว่างานภาพเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังภาพสวย และ เรียลสุดๆ แน่นอนว่าถ้าลองเอาภาพในเรื่องมาเซฟ Screenshot ก็จะได้ Wallpaper สวยๆได้เลย อันนี้ขอชม!

 

Dunkirk Review (4)Dunkirk Review (9)

การเล่าเรื่องของดันเคิร์ก จะเล่าผ่าน 3 เหตุการณ์ใน 1 วันของการอพยพ ทั้งการช่วยเหลือจากเรือพลเรือน การสนับสนุนทางอากาศด้วยเครื่องบินเพียงสองลำ และการถอยทัพของทหารสามแสนนายที่ดันเคิร์ก แต่ทุกอย่าง “เล่าแบบไม่เรียงไทม์ไลน์”  เล่าสลับไปๆมาๆ แต่สุดท้ายคนดูก็จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้เอง 

 

Dunkirk Review (1)

จุดเสียอย่างใหญ่หลวงของหนังเรื่องนี้คือ “อารมณ์ร่วมชะตากรรมของตัวละคร” เพราะหนังเน้นขายภาพรวมของการหนีตาย สถาณการณ์ที่ตึงเครียดของการอพยพ แอดมินไม่สามารถจำตัวละครฝ่ายทหารได้ดีเท่ากับ “นักบินอังกฤษ” ที่รับบทโดย “ทอม ฮาร์ดี้” (บทโคตรเท่ บอกเลย) และกลุ่มของตาลุงเจ้าของเรือพลเรือนที่แล่นไปช่วยทหารอังกฤษเท่านั้น นอกนั้นไม่มีอะไรให้นึกถึงเลย…ไม่ใช่ว่านักแสดงเล่นไม่ดีนะครับ เล่นดีมาก แต่ภาพรวมของหนังดึงเอาความเด่นไม่ได้เลยจริงๆ

 

15-thing-about-dunkirk-movie (14)

เพลงประกอบของ ฮาน ซิมเมอร์ ที่ใส่ลงมาในหนัง ล้วนเต็มไปด้วยเพลงที่บีบคั้นอารมณ์ และใส่มาถูกจังหวะมาก แม้ว่าเราจะไม่อินกับตัวละคร แต่เพลงประกอบชวนอึดอัด (เสียงนาฬิกาที่ดังติ๊กๆๆๆๆ ในเรื่องก็ปวดประสาทดีใช้ได้เลย) หายใจไม่ทั่วท้องนี่แหละ คือจุดขายที่ดีมากๆของหนังเรื่องนี้  

 

Dunkirk Review (3)

 

สรุป

ก่อนจะไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องตั้งคำถามกับตัวเองให้มากๆว่า “จะไปดูดันเคิร์กเพื่ออะไร?”

 

- ถ้าไปเสพงานภาพสวยๆ สถาณการณ์ที่สมจริง ภาพของสงครามของฝ่ายพันธมิตรที่หมดทางสู้ เชิญไปชมเรื่องนี้ได้เลย…

 

- แต่ถ้าไปดูหวังจะเอาภาพสงครามมันส์ๆ ยิงกันสนั่นจอ หูดับตับไหม้ ไปดูเรื่องอื่นเถอะครับ!!

 

แอดมิน Ak47

 

 

Trailer