Crimson Desert

ประเภท :  MMORPG
เครื่อง :  PS5 / PC / Xbox Series 

วันวางจำหน่าย : ยังไม่ระบุ ไตรมาสแรกปี 2026

พัฒนาโดย  Pearl Abyss

Pearl Abyss ปล่อยวิดีโอเดโมเกมเพลย์ความยาว 13 นาทีของ Crimson Desert ก่อนงาน Gamescom 2025 ที่เมืองโคโลญจน์ เยอรมนี ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–24 สิงหาคมนี้ โดยเดโมเดียวกันนี้ยังถูกยืนยันว่าจะไปปรากฏตัวต่อที่ PAX West 2025 ณ เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 1 กันยายน เปิดโอกาสให้แฟนเกมได้สัมผัสประสบการณ์ครั้งแรกอย่างใกล้ชิด

หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากโคตรเกมออนไลน์ที่เต็มไปด้วยอินเตอร์เฟซยุ่บยั่บ และกิจกรรมสัพเพเหระในโลกแฟนตาซีสุดเข้มข้นอย่าง Black Desert Online เมื่อหลายปีก่อน

ทางทีมงาน Pearl Abyss ก็ไม่หยุดทำเกมใหม่ เพราะได้เปิดตัวเกม MMORPG ตัวใหม่ที่จะเล่าเรื่องราวย้อนกลับไป “ก่อนเกิดเหตุการณ์ในเกม Black Desert” กับเกมที่มีชื่อว่า “Crimson Desert” ในปี 2019 ที่ผ่านมา และหายไปจากข่าวสารวงการเกม 

ในตอนนี้ตัวเกม Crimson Desert มีการอัพเดทรายละเอียด ออกมาคร่าวๆจากทีมพัฒนาว่า จะเป็นเกมเล่าเนื้อหาที่ลึกซึ้งและแอคชั่นสุดแข็งแกร่ง ที่ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของเกมแอคชั่นผจญภัย Open World

โดยนอกจากจะเป็นเกมออนไลน์แล้ว ตัวเกมยังใส่โหมดเนื้อเรื่องเล่นคนเดียว ให้ผู้เล่นได้ทำความรู้จักโลกทัศน์ และจักรวาลของเกม  Black Desert ซึ่งทางทีมงานตั้งใจว่าเกมนี้จะเป็นเกม “เรือธงเกมใหม่” ที่จะเปิดจักรวาลเกมตระกูล “Desert” อีกด้วย

ตัวเอกของเกม Kliff แห่งตระกูล Greymane ต้องเผชิญกับการซุ่มโจมตีของศัตรูคู่อาฆาตอย่าง Drunken Black Bears จนทำให้กลุ่มของเขาถูกแยกกระจัดกระจาย Kliff ออกเดินทางตามหาเพื่อนร่วมศึก และได้รับข่าวว่า Oongka เพื่อนคนสำคัญของเขาปรากฏตัวอยู่ในแคว้น Calphade

แต่ Calphade กำลังลุกเป็นไฟจากการก่อกบฏของ Cassius Morten ขุนพลภายใต้การปกครองของ Marquis Stefan Lanford ผู้เป็นพันธมิตรของ Greymane โดย Cassius หันไปร่วมมือกับ Black Bears เพื่อโค่นล้ม Lanford ทำให้เมืองอยู่ในสภาพใกล้พ่ายแพ้ Kliff จึงเข้าร่วมสงคราม พลิกสถานการณ์กลับมา และได้กลับมาพบ Oongka อีกครั้ง ก่อนที่ทั้งคู่จะร่วมมือกันโค่น Cassius ลงได้สำเร็จ

เกม Crimson Desert จะมีชื่อตอนแยกย่อยออกไปอีก ในตอนนี้ทีมงานกำลังทำตอนที่มีชื่อว่า “A Saga Written in Blood” ที่จะเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของกลุ่มทหารรับจ้าง ผ่านมุมมองของ “แมคดัฟ บุตรแห่งมาตินัส” (Macduff, son of Martinus) ผู้นำกลุ่ม  โดยเขาจะเป็นคนที่มีความสับสน ขัดแย้งในตัว มีปมประเด็นต่างๆ ทั้งภาระหน้าที่ความรับผิดชอบของความเป็นผู้นำกลุ่มทหารรับจ้าง และความอยู่รอดของลูกน้องผู้ที่ต้องพึ่งพาเขา เขามีอดีตที่น่าเศร้าและไม่ว่าเขาจะพยายามมากแค่ไหนเขาก็หนีไม่พ้นมัน โดยทุกๆการตัดสินใจของผู้เล่น จะส่งผลต่อฉากต่อๆไป และบทสรุปเรื่องราวของแมคดัฟอีกด้วย 

ซึ่งมีเรื่องราวเกี่ยวกับการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดของเหล่าทหารรับจ้างในทวีปไพเวลอันกว้างขวาง ที่ได้ถ่ายทอดออกมาโดยเน้นความสมจริงทั้งในด้านของตัวละครและเนื้อหา

ในส่วนของการเป็นเกมออนไลน์ ก็จะเป็นการขยายแผนที่ไปยังพื้นที่ใหม่ๆที่ไม่เคยมีใน Black Desert โดยจะเป็นฉากที่มีบางอย่างเกี่ยวโยงกันกับเกมดังกล่าว ส่วนมอนสเตอร์ภายในเกมจะเป็นมอนสเตอร์เก่าที่นำมาปรับโฉมใหม่บางส่วน และมอนสเตอร์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในเกม Black Desert

CEO Pearl Abyss คุณ Heo Jin-young เผยว่า ในเวลานี้ทีมงานกำลังจดจ่อกับการพัฒนา ‘Crimson Desert’ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาให้เสร็จสิ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 งานและการทดสอบกำลังดำเนินการเพื่อปรับปรุงความสมบูรณ์ของเกม นอกจากนี้ กำลังอยู่ระหว่างการปรึกษากับพันธมิตรต่างๆ เพื่อเตรียมการตลาดล่วงหน้า และกำลังพิจารณาแนวทางที่จะเป็นประโยชน์จากข้อเสนอต่างๆ เพิ่มเติม

6 จุดเด่นและระบบการเล่น Crimson Desert ที่น่าโดน

1. สงครามขนาดใหญ่
เกมเพลย์นำเสนอฉากรบที่เต็มไปด้วยทหารนับร้อยนับพัน NPC ต่อสู้กันแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันของกองทัพ Calphade และกบฏ เสียงปืนใหญ่ เสียงดาบปะทะ และบรรยากาศควันไฟที่สมจริง ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบจริง

2. ภารกิจหลากหลาย 
Kliff ต้องทำภารกิจในสนามรบมากมาย เช่น ยิงปืนใหญ่ ทำลายหอคอยศัตรู ไปจนถึงช่วยเหลือพันธมิตรที่กำลังเสียเปรียบ

3. การเคลื่อนไหวและการเดินทาง 

Kliff สามารถเรียกม้าประจำตัวเพื่อเพิ่มความเร็ว ใช้ทักษะ “Crow’s Wing” เพื่อร่อนบนอากาศ และใช้ “Axiom Force” เพื่อเคลื่อนที่เชิงกลยุทธ์พร้อมทำคอมโบการต่อสู้ที่พลิกเกมได้

4. Combat System
ผู้เล่นสามารถเลือกสไตล์การต่อสู้ที่ชอบได้หลากหลาย ทั้งการบล็อก หลบ หรือใช้คอมโบทักษะโจมตีผสมธาตุจาก “Axiom Bracelet” เช่น ธนูไฟที่ระเบิดเมื่อโดนเป้าหมาย หรือดาบน้ำแข็งที่สามารถแช่แข็งศัตรูให้แตกกระจายได้

นอกจากนี้ Kliff ยังมีอาวุธลับอย่าง “Artillery Whistling Arrows” ลูกธนูที่เรียกการสนับสนุนจากพันธมิตรโจมตีเป้าหมายหรือทำลายสิ่งปลูกสร้างเชิงยุทธศาสตร์ เช่น หอคอยของศัตรู

5. Boss Fights
เกมเพลย์ยังเผยการต่อสู้กับบอสตัวมหึมาแห่งกองทัพ Black Bear ที่ใช้พละกำลังบดขยี้ผู้เล่น และบอสสุดท้ายของเดโมคือ Cassius Morten ผู้ถือค้อนและโล่ทรงพลัง ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะใช้การโจมตีแบบตรงไปตรงมาหรือรอจน Cassius เข้าสู่สภาวะสตั๊นแล้วใช้ทักษะพิเศษ ยกเสาซากอาคารขึ้นมาเป็นอาวุธเพื่อโจมตีครั้งใหญ่

6. Graphics
โลกทวีป Pywel ถูกนำเสนอด้วยเทคโนโลยี BlackSpace Engine ของ Pearl Abyss สภาพแวดล้อมแบบ Open-world เต็มไปด้วยภูมิประเทศที่สมจริง แสงธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และบรรยากาศการรบที่เต็มไปด้วยรายละเอียดระดับสูง

ตัวเกมกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา มีกำหนดเปิดให้เล่นในระบบ PS5 / PC / Xbox Series ในไตรมาสแรกปี 2026

แอดมิน AK47

#CrimsonDesert #PearlAbyss  #OpenWorldRPG #MMORPG