ชื่อไทย : ออโตมาต้า ล่าจักรกล ยึดอนาคต
ประเภท : Action, Sci-fi, Thriller
อำนวยการสร้าง : แดนนี่ เลอร์เนอร์ (จาก The Expendables 1-3, 300: Rise of the Empire)
กำกับ/เขียนบท : เกบ อิบาเนส (Gabe Ibanez)
นำแสดง : แอนโตนิโอ แบนเดรัส – Antonio Banderas (จาก The Expendables 3, Desperado) และ ไดแลน แม็คเดอม็อตต์ – Dylan McDermott (จาก Olympus Has Fallen, The Messengers)
กำหนดฉาย : 9 ตุลาคม 2557
ภาพยนตร์ที่สร้างมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผลงานการเขียนของ ไอแซ็ค อาซิมอฟ สู่ภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟล้ำอนาคต จากผู้สร้าง 300: Rise of the Empire และ The Expendables
เรื่องราวของ ฌาค โวแคน (รับบทโดย แอนโตนิโอ แบนเดรัส) เจ้าหน้าที่ของ ROC บริษัทไซเบอร์เนติก ที่ผลิตหุ่นยนต์อำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ทั้งโลก โดยภาพยนตร์มีแนวคิดที่ว่า “หากวันหนึ่งที่หุ่นยนต์สามารถพัฒนาความรู้สึกเป็นของตัวเองได้อย่างอิสระและสามารถดูแลตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยมนุษย์อีกต่อไป โลกใบนี้ยังจะต้องมีมนุษย์อีกหรือไม่ ?” เรื่องราวการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงหุ่นกระป๋องไร้ความรู้สึกอีกต่อไปจึงเริ่มต้นขึ้น…
เรื่องย่อ
เรื่องราวแห่งโลกอนาคต ในปี 2044 ที่วิวัฒนาการและเทคโนโลยีมีความล้ำหน้า แต่จำนวนประชากรโลกกลับลดลงเหลือเพียง 21 ล้านคน เนื่องจากผลของเปลวสุริยะที่โลกใบนี้ไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไป

ในยุคสมัยใหม่ ที่ซึ่งโลกจะต้องเผชิญทั้งกับฝนกรดและสภาพภูมิอากาศที่ร้อนระอุ มนุษย์กลับสามารถผลิตและคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการและมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งก็รวมไปถึงความความสำเร็จในการสร้างหุ่นยนต์กลไกอัจฉริยะที่มีความปลอดภัยต่อสิ่งมีชีวิตต่างๆได้เป็นครั้งแรก ภายใต้การป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยการกำหนดโปรโตคอลหรือกฎที่เข้มงวดขึ้น 2 ข้อ คือ…
กฎข้อที่ 1 “หุ่นยนต์ไม่สามารถทำร้ายสิ่งมีชีวิตทุกชนิด”
กฎข้อที่ 2 “หุ่นยนต์ไม่สามารถดัดแปลงตนเองหรือผู้อื่น”

แต่ดูเหมือนยิ่งระดับศักยภาพในการพัฒนาหุ่นยนต์ของมนุษย์ยิ่งก้าวหน้ามากเท่าไร กลับก่อภัยพิบัติให้กับมนุษยชาติมากขึ้นเท่านั้น เมื่อหุ่นยนต์บางตัวเกิดเริ่มมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเองคิดจะแยกตัวออกจากมนุษย์จากการเริ่มดัดแปลงตัวเองและเพื่อนจักรกลอื่นๆ ไปจนถึงการวางแผนการยึดครองโลกจากมนุษย์
ฌาค โวแคน เจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของบริษัทไซเบอร์เนติก ที่ผลิตหุ่นยนต์อำนวยความสะดวกให้กับมนุษย์ทั้งโลก เป็นเพียงบุคคลเดียวที่สังเกตถึงความผิดปกติในพฤติกรรมและท่าทางของหุ่นยนต์รุ่น “ออโตมาต้า พิลกริม 7000” ที่มีแนวโน้มจะมีความคิดและตระหนักรู้ถึงการดำรงอยู่ของตนเอง ก่อเกิดเป็นกระแสความหวาดหวั่นในสังคม จนนำไปสู่ความวุ่นวายต่างๆ ซึ่งชักนำไปสู่เหตุการณ์ “หุ่นยนต์ลักพาตัวคน”
สิ่งที่น่ากลัวสำหรับมวลมนุษย์กำลังจะเกิดขึ้น…
ใครจะเป็นผู้หยุดยั้งเหล่าจักรกลที่พัฒนาตนเองจนมีความรู้สึกนึกคิดเหล่านี้ได้?
ภาาพยนตร์ที่ได้รับการควบคุมดูแล Virtual Effect โดยทีมงานจาก RoboCop และ Hercules เวอร์ชั่น The Rock ที่เนรมิตโลกอนาคตในสไตล์ดิสโทเปียขึ้นมา รวมถึงออกแบบหุ่นยนต์มากมายหลายชนิด ที่ถูกสร้างมาให้เหมาะกับลักษณะของงาน แต่เมื่อหันหลังให้กับมนุษย์ พวกมันก็ใช้ความพิเศษของตัวเองในการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นหนังก็ยังได้ทีมสตันท์จาก The Expendables ทั้งสามภาค มาช่วยการันตีว่าฉากแอ็คชั่นจะต้องออกมาตื่นเต้นเร้าใจอย่างแน่นอน พิสูจน์ความมันส์ใน “Automata ล่าจักรกล ยึดอนาคต” กันได้ 9 ตุลาคมนี้

แนะนำตัวละคร
1. ฌาค โวแคน (Jacq Vaucan) รับบทโดย แอนโตนิโอ แบนเดรัส (Antonio Banderas)
เจ้าหน้าที่ของ บริษัทไซเบอร์เนติก ที่ผลิตหุ่นยนต์อำนวยความสะดวกให้กับมนุยษ์ โดยเขามีหน้าที่ตรวจสอบสินค้าก่อนส่งให้กับลูกค้า ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้เขาได้พบแผนการลับของหุ่นยนต์ ที่กำลังรวมตัวกันเพื่อทำร้ายล้างโลก โดยหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า “ออโต้มาต้า พิลกริม 7000″ เขาจึงหาทางทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งทุกอย่างก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะสายเกินไป

2. คลีโอ (Cleo) รับบทโดย เมลานี กริฟฟิธ ( Melanie Griffith)

3. วาเลนส์ (Wallace) รับบทโดย แมคเดอร์มอตต์ (Dylan McDermott)

4. โรเบิร์ต (Robert Bold) รับบทโดย โรเบิร์ต ฟอร์สเตอร์(Robert Forster)

5. Rachel Vaucan รับบทโดย Birgitte Hjort Sørensen
ตัวอย่างภาพยนตร์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : nangdee.com , joblo.com
By : Admin_Ano
-
รางวัลสุดยอดเกมแห่งปี Game Awardsเปิดโผผู้เข้าชิง The Game Awards ทุกสาขาอย่างเป็นทางการ
-
Resident Evil 9 : Requiem [Preview / สั่งซื้อแผ่นเกม / ราคา / วันวางขาย]27 กุมภาพันธ์ 2026
-
BEYBLADE X : ผู้ใหญ่ vs เด็ก Mindset ที่ดี… “ใส่เต็มที่ มีประโยชน์ในด้านพัฒนาการเด็ก”เชื่อว่าตามงานแข่ง BEYBLADE X มีหลายครั้งที่เห็น ผู้ใหญ่ลงสนาม แล้วต้องไปเจอกับคู่ต่อสู้เป็นน้องๆเด็กๆ คงมี หลายคนคงแอบมีเสียงในหัวดังขึ้นมาแบบอัตโนมัติว่า “ถ้าชนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเก่งแต่กับเด็ก… แต่ถ้าแพ้ก็จะถูกมองว่ากระจอกซะงั้น” ซึ่งเป็น Mindset แบบเดิมที่หลายคนยังติดอยู่ และจริงๆ มันค่อนข้าง “ผิดฝั่ง” กับความจริงของสนามเบย์เบลดพอสมควร การแข่งขันเบย์เบลด แม้จะถูกมองว่าเป็นกิจกรรมสำหรับเด็ก แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นพื้นที่เรียนรู้ทางสังคมที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นทุกวัยสามารถมีส่วนร่วมภายใต้กติกาเดียวกัน อุปกรณ์ใกล้เคียงกัน และโครงสร้างการแข่งขันที่บางรายการไม่มีการแบ่งแยกอายุ ซึ่งมันก็ส่งผลให้เกิดคำถามสำคัญในบริบทแบบไทยๆเราว่า “ผู้ใหญ่เนี่ย ควรแข่งขันเต็มที่กับเด็กขนาดนั้นเลยหรือเปล่า?” แม้แต่ตัวแอดมินผู้เขียนเอง ก็เคยมีความคิดนี้ในหัวครับ จนกระทั่งได้ตกตะกอนหลายๆอย่าง และนั่งพิจารณาตามความเป็นจริงที่ประสบพบเจอ จนออกมาเป็นบทความที่จะพามา ปรับทัศนคติ และเพิ่มมุมมองของ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ เด็ก และผู้ปกครองในบริบทของการแข่งขัน BEYBLADE X ซึ่งทางแอดมิน อยากจะเสนอไอเดียที่ว่า “การแข่งขันแบบ ไม่ออมมือกับเด็กๆ” เป็นแนวปฏิบัติที่เหมาะสมกว่า และเป็นประโยชน์ต่อพัฒนาการเด็กในหลายมิติครับ 1. เลิกได้เลิกนะ…ไอ้วัฒนธรรมความคิดในสังคมไทย: “ชนะเด็ก รังแกเด็ก ไม่สมเป็นผู้ใหญ่เอาซะเลย!” ทัศนคติที่พบได้ทั่วไปในสังคมไทย […]
































