เร็วทะลุเร็ว [รีวิว/สนุกไหม/เรื่องย่อ/นักแสดง]
14 พฤศจิกายน 2557 12:17 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(1b)

 

เร็วทะลุเร็ว

VENGEANCE OF AN ASSASSIN

แนว : Action / Martial Art

กำกับ/เขียนบทโดย : พันนา ฤทธิไกร

แสดงนำโดย : ชูพงษ์ ช่างปรุง / พิง ลำพระเพลิง/ โกวิท วัฒนกุล / นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ / นิศาชล ต้วมสูงเนิน / เกศริน เอกธวัชกุล

 วันที่เข้าฉาย :13 พ.ย. 2014

ความยาว : 99นาที

 

 

 

หนังแอคชั่นสายเลือดไทยแท้ๆ ไม่มีฝรั่งเจือปน ที่ทำให้ผมต้องควักเงินเพื่อเข้าไปดูหนังไทยในโรงภาพยนต์ แน่นอนว่าคนที่ปรามาสหนังไทย(ยุคหลังๆ)มาตลอดอย่างผม ยังไปดูได้ แปลว่าต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ (ฮ่าๆ) ว่าแล้ว ก็ตีตั๋วไปดูซะเลย…

 

 

 

เรื่องย่อ

(ขออนุญาติลงข้อมูลจากทาง “สหมงคลฟิลม์” เลยนะครับ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน…จริงๆแล้วหนังมันเดินเรื่องได้งงๆมึนๆ จนผมจับต้นชนปลายไม่ถูกมากกว่าครับ ฮ่าๆ)

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(1) 

“เดี่ยว ชูพงษ์” ศิษย์เอกอีกคนของคุณอาพันนา ก็แสดงนำในเรื่องนี้ ที่บู๊มันส์กว่าเรื่องก่อนๆที่เขาเคยเล่น…และนักบู๊หน้าหล่อ “นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์” ศิษย์เอกคนสุดท้ายของบรมครูสตั๊นท์แมน สองตัวละครหลักของเรื่องนี้

 

เมื่อความหลังแปรเปลี่ยนชะตากรรมของเขา…เมื่อความแค้นพุ่งขึ้นถึงขีดสุด…การไล่ล่าโดยมีชีวิตเป็นเดิมพันจึงเริ่มต้นขึ้น…

 

สำหรับ นที แล้ว เหตุผลเพียงข้อเดียวที่ทำให้ชีวิตของเขาก้าวเข้ามาสู่วิถีแห่งการเป็นนักฆ่าอย่างเต็มตัว ถึงขนาดยอมละทิ้ง ธาร น้องชายเพียงคนเดียว ก็เพียงเพื่อแลกกับข้อมูลคนที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าพ่อแม่ของเขา

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(2)

การเล่นเตะไฟ เป้นอีกหนึ่งฉากที่เสี่ยงอันตรายมากๆ น้องๆหนูๆอย่าเลียนแบบเชียว!!

 

วันหนึ่งเขาได้รับคำสั่งให้ไปคุ้มครอง พลอย หลานสาวของผู้มีอิทธิพล ในขณะที่นทีช่วยพลอยให้รอดพ้นจากการลอบสังหาร แต่แล้วจู่ ๆ เขาก็ได้รับคำสั่งให้เปลี่ยนจากคุ้มครองกลายเป็นฆ่าพลอยซะ แต่นทีก็ทำไม่ลง เหตุการณ์จึงเกิดพลิกผัน นทีถูกซ้อนแผนให้เป็นแพะในคดีลักพาตัว และถูกไล่ล่าจากมือสังหารลึกลับในขณะเดียวกัน นั่นทำให้นทีต้องกลับไปผนึกกำลังกับธารช่วยกันสู้สุดชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอด พร้อมกับตามล่าหาความจริงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังของแผนการทั้งหมดนี้

 

การต่อสู้สุดระห่ำที่มีความแค้นเป็นที่ตั้ง มาพร้อมกับกลยุทธ์การต่อสู้แบบมันส์สะใจคอแอ็คชั่น อย่างแน่นอน “จะสู้ให้ชนะ เราต้องเร็วกว่า แรงกว่า และ ระห่ำกว่า”

 

 

 

บทวิจารณ์

 

เป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบหลายๆๆๆปีเลยก็ว่าได้ครับ (เรื่องสุดท้ายที่ดูคือ องค์บาก ซึ่งเป็นหนังของคุณอาพันนาเช่นกัน) เหตุผลที่แท้จริงของการตีตั๋วไปดูเรื่องนี้เพราะว่า “เป็นหนังเรื่องสุดท้ายของคุณอา พันนา ฤทธิไกรกำกับไว้” และก็เสียชีวิตในเวลาต่อมา บทความนี้จึงเหมือนเป็นการ “คารวะครั้งสุดท้าย” แก่ผู้เป็น “บิดาวงการสตั๊นท์แมนเมืองไทย”ท่านนี้ แต่หนังดีไม่ดีอันนี้ว่าไปตามเนื้อผ้านะครับ…ไม่มีอวยหรืออคติใดๆ…

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(2b)

ผลงานชิ้นสุดท้ายของบรมครูสตั๊นท์แมนเมืองไทย ก็ยังหนีไม่พ้นวังวนของคำว่า “บทไม่สน เอามันส์เข้าว่า” จนออกมา “เละเทะ ทั้งเนื้อหา และ ของประกอบฉาก”

 

ตัวหนังใส่ประเด็นการล่าล้างแค้นแบบง่ายๆ เดาทางได้ไม่ยาก ดังนั้นในส่วนของเนื้อหา ผมสามารถสรุปได้เลยว่า “มันเร็ว…สมกับชื่อหนังจริงๆ” ทุกอย่างดูไร้น้ำหนัก ไร้เหตุผล นึกจะทำอะไรก็ทำ เอาแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม เพื่อให้เนื้อเรื่องเหมือนจะ “แถ” ต่อไปให้ถึงฉากบู๊ และจบๆเรื่องไป… ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ผมว่า “มันก็เป็นเรื่องปกติของบู๊หนังแนวนี้ในบ้านเรา”ครับ (มาตรฐาน “ต้มยำกุ้ง” นั่นแหละ)

 

บวกกับแอคติ้งการแสดงสีหน้าท่าทางของนักแสดง ที่ราวกับ “ท่องบทอาขยาน” ให้คนดูได้ฟังกัน ก็ถือว่าเป็น “การสร้างเสียงหัวเราะ” กับผู้ที่ได้ชมเป็นอย่างดีครับ (ประชด!) และการใส่บทชวนดราม่าในฉากบู๊ มีหลายจุดที่ “ไม่ไหวจะเคลียร์” เพราะมันไม่ทำให้ผมมีอารมณ์ร่วมใดๆเลย นอกจากอมยิ้มไปกับการ “ล้น” ของนักแสดงหน้าใหม่ (และหน้าเก่าบางท่าน ที่ยังแข็งเหมือนตอไม้ จนเป็นบุคลิกไปแล้ว)

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(3b)

แต่เอาล่ะ เราไม่ได้มาดูหนังดราม่าระดับโนแลน หรือ บทอลังการงานสร้างเหมือนเจมส์ คาเมรอน เพราะนี่คือ “หนังบู๊แอคชั่นสายพันธุ์ไทยแท้ๆ” ดังนั้น “คิวบู๊” จึงถือเป็นจุดขายหลักของเรื่องนี้ ผมพยายามคิดนะว่า “ก็นี่มันหนังแอคชั่นอ่ะ ไม่ต้องดราม่านักก็ได้ เตะๆต่อยๆ คนดูเดี๋ยวสนุกไปเองแหละมั้ง”

 

พอมานั่งดูเข้าจริงๆ กลับรู้สึกว่า “หนังมันโม้…แต่ไม่สุด” คำว่า โม้ในที่นี้ผมหมายถึง หลายๆอย่างมันดูจงใจมากๆ ทั้งการที่ “ถังน้ำมัน” ไปกระจุกอยู่ในพื้นที่ๆทำการสู้รบกัน (ผลลัพท์ก็ไม่ต้องสืบครับ…) หรือจะเป็นการเอาของสองอย่างที่ไม่น่าจะมา “ชน” กันได้ ก็ยังมีให้เห็น ราวกับเป็น Signature ของคุณอาพันนาไปแล้ว… (นึกถึงฉาก “เรือหางยาวพุ่งชนคอปเตอร์”ในองค์บากได้ ชัดเจนสุดละ…)

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(3)

อันนี้ภาพจากเทรลเลอร์ CGยังดูได้นะ พอไปดูเต็มๆเท่านั้นแหละ…ผมงี้แทบตะโกนว่า WTF!!

 

ส่วนคำว่าไม่สุด ผมหมายถึง “การบู๊บนฉากCGที่ไม่เนียน” มันทำให้หนังดรอปความน่าเชื่อถือลงไปเป็น “หนังแผ่นสะพานเหล็ก”ซะอย่างนั้น ซึ่งในหลายๆฉากของเรื่อง ก็ยังจะดันทุรังยัดการใส่ “CGระดับนักศึกษา”ลงไปแบบพร่ำเพรื่อ ใส่แล้วเนียนไม่ว่า นี่มัน “เผางาน” กันชัดๆ!! นี่ยังไม่นับฉาก Slow Motion ที่ยัดมาเยอะยังกะหนัง Transformers ของไมเคิล เบย์ ที่บางซีนก็เท่ใจหาย บางซีนก็ใส่มาทำไมก็ไม่รู้!?

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(4)

ส่วนที่ดีที่สุดของหนัง คือฉากบู๊ ดูรูปก็บอกได้3คำเลยว่า “มันส์ สุด ตีน” จริงๆ!!

 

อ่านไปๆมาๆ เหมือนผมจะติซะเยอะ แต่ต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ยังมีความดีให้ได้เห็นและได้ยินกัน คือ เรืองของฉากแอคชั่นที่ทีมสตั๊นท์ และ การออกแบบท่าทางต่างๆ ทำออกมาสนุกสะใจ และบางทีทำเอาผมอุทานออกมาได้เลยว่า “คิดกันมาได้!?” รวมไปถึงการใส่ฉากที่มีการถ่ายทำแบบ Long Take (ยิงยาวไม่ตัดต่อภาพ) ก็ทำออกมาให้ผมนั่งเอ๋อไปพักนึงเลย เพราะ “ทึ่งในการออกแบบสตอรี่บอร์ด”มากๆ และคิวบู๊ที่นักแสดงทุ่มพลังออกมาใส่ในงานนี้

 

รวมไปถึงระบบเสียง ที่ “หนัก”และ “แน่น” ที่ยังพอฉุดอารมณ์ในฉากบู๊ที่ยังพอให้เชื่อได้ว่า “หนักแน่น”จริงๆ เสียงตุ้บตั้บ ผัวะโครม สารพัด ที่ทำออกมาไม่แพ้หนังฝรั่งหลายๆเรื่องเลย

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(4b)

“จะออกไปแตะขอบฟ้า…แต่ดูเหมือนว่าหนังจะล่มไม่เป็นท่า และไม่ได้ไปต่อไป…”

 

Movie Rank C คะแนน 7/10

 

ข้อดี : ฉากบู๊มันส์ เร้าใจมากๆ / ฉากยิง Long Take ที่อุดมไปด้วยจินตนาการของผู้สร้าง ทำออกมาน่าทึ่งมากๆ / ระบบเสียงที่สูสีหนังต่างประเทศ

 

ข้อเสีย : พล๊อตเดาทางง่ายมาก ขาดความซับซ้อนใดๆ / ไม่สมเหตุผลในหลายๆจุด นึกจะใส่อะไรก็ใส่มาในหนัง / ตัวหนังเดินเรื่องเร็วมาก จนต้องกลับไปอ่านเรื่องย่อบนหน้าเวป เพราะจับต้นชนปลายไม่ถูก / CG ที่ไม่เนียน เข้าขั้น “หายนะของวงการ” / แอคติ้งของนักแสดงที่ย่ำแย่เกินเยียวยา เพราะเล่นแล้วไม่ทำให้คนดูเชื่อเลย

 

 

 

VENGEANCE-OF-AN-ASSASSIN-(5)

ถึงหนังจะเต็มไปด้วยความขาดๆเกินๆของหนังแต่ก็ถือเป็นหนังที่ดูสนุกนะ ส่วนตัวค่อนข้างชอบเลยล่ะ ถ้าเราลองนั่งดูแบบ “ไม่ต้องพกสมอง” แล้ว “เสพความมันส์เข้าว่า”อย่างเดียว ผมว่า ตั๋วหนังราคาไม่กี่ร้อย ก็ตอบโจทย์ได้นะครับ

 

ส่วนตัวผม “ถือว่าเป็นหนังดี…แต่ยังห่างชั้นกับคำว่ายอดเยี่ยม”  ก็เท่านั้นเองครับ…

 

 

By Admin Ak Fourtyseven

 

 

Trailer