Tomica Hero Rescue FIRE [เรื่องย่อ / ตัวละคร]

Tomica Hero Rescue FIRE / หน่วยพิฆาตเพลิง เรสคิวไฟร์

ญี่ปุ่น : トミカヒーロー レスキューファイアー(โทมิก้า ฮีโร่ เรสึคิว ไฟย่า)

ผลิตโดย : บริษัท TAKARA TOMY 

ออกอากาศที่ญี่ปุ่น :  4  เมษายน ค.ศ. 2009 – 27  มีนาคม ค.ศ. 2010 เวลา 08.00 น. ทาง ทีวีไอจิ และทางสถานีโทรทัศน์ ทีวี โตเกียว

ออกอากาศที่ประเทศไทย :  -

จำนวน :  51 ตอน

ลิขสิทธิ์โดย : TIGA

อ่าน  “ขบวนการพิทักษ์โลก เรสคิวฟอร์ซ”  คลิก

หลังจากประสบความสำเร็จกับ “ขบวนการพิทักษ์โลก เรสคิวฟอร์ซ” ที่ส่งผลให้ของเล่นจากทางบ.Takara Tomy ขายดีเป็นเททิ้ง ทำให้ทางบริษัทไม่นิ่งนอนใจ ประกาศสร้าง “ภาคต่อ” ที่สมัยนั้นเคลมว่า มันส์กว่า ดุเดือดกว่า วิบัติยิ่งกว่า กับหน่วยงานเดิมเพิ่มเติมคือชุดใหม่และอุปกรณ์สุดแฟนตาซีที่มีชื่อว่า  “หน่วยพิฆาตเพลิง เรสคิวไฟร์”

 หน่วยพิฆาตเพลิง เรสคิวไฟร์ (トミカヒーロー レスキューファイアーโทมิก้า ฮีโร่ เรสึคิว ไฟย่า) เป็นผลงานจากทาง Takara Tomy สร้างขึ้นเพื่อสนับสนุนการขายของเล่นไลน์รถเหล็กจิ๋วโทมิก้า และยานพาหนะขนาดใหญ่ “โทมิก้าเรสคิว” โดยใช้ทีมสร้างหนังชุดเดียวกับเรสคิวฟอร์ซ แต่เนื้อหาจะเน้นหนักไปทางการรับมืออัคคีภัยที่เกิดจากเหล่ามอนสเตอร์ ทำให้พล๊อตต่างๆออกไปในทิศทางแฟนตาซี และแอ็คชั่นเอามันส์มากกว่า

ซึ่งต่างจากเรสคิวฟอร์ซ ที่ยังพอจะมีความสมจริงอยู่บ้าง และสามารถสอดแทรกเนื้อหาการกู้ภัยที่อ้างอิงจากข้าวของ หรือเรื่องใกล้ตัว(คนญี่ปุ่น) จึงทำให้แฟนๆที่ชื่นชอบความกึ่งๆเรียลของการต่อสู้กู้ภัยจากภาคแรก จะรู้สึกผิดหวังกับเรื่องนี้ไปบ้าง…

ถึงจะไม่ได้ออกฉายในไทย แต่ก็มี DVD แบบถูกลิขสิทธิ์ โดยบ. TIGA ซึ่งก็ยังสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า หรือตึกเมก้า สะพานเหล็ก คลองถมครับ…

ดีไซน์ต่างๆ ยังคงอ้างอิงจากของเล่นที่วางขายในภาคแรกมาบ้าง แต่เพิ่มเติม Gimmick ใหม่ๆลงไป โดยแนวคิดของเหล่า “รถเหล็กโทมิก้าเรสคิวไฟร์” คือ “ยานพาหนะสำหรับรับมือกับอัคคีภัยที่รุนแรง และรวมร่างกันได้” ดังนั้นการเล่าเรื่อง รวมไปถึงดีไซน์ต่างๆ ถูกลดสเกลลงมาเหลือเพียง ยานพาหนะที่บรรเทาอัคคีภัยอย่างเดียว อีกทั้งยังมีการแปลงเป็นรูปแบบอื่นๆที่ชัดเจน เช่นยานรบรูปสัตว์ต่างๆ หรือหุ่นยนต์ยักษ์ ซึ่งต่างจากเรสคิวฟอร์ซ ที่รับมือกับภัยพิบัติที่หลากหลายและดีไซน์ที่กระจัดกระจาย ไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

เรื่องย่อ

 เรื่องราวของ “ หน่วยพิฆาตเพลิง เรสคิวไฟร์”  จะเล่าเรื่องราวต่อจาก “ขบวนการพิทักษ์โลก เรสคิวฟอร์ซ” ราวๆ 1 ปี เมื่อหน่วยเรสคิวฟอร์ซต้องทำหน้าที่ปกป้องโลกจากภัยพิบัติต่างๆทั่วโลก ทำให้ญี่ปุ่นไม่มีหน่วยงานที่รับมือกับภัยพิบัติ อีกทั้งช่วงหลายเดือนให้หลัง มีเหตุอัคคีภัยมากขึ้น

ทำให้ ผบ.”โอซาคาเบะ เรย์จิ” (หรือ R-0 เรสคิวฟอร์ซ) ผู้ก่อตั้งหน่วยงาน “องค์กรดับเพลิงโลก” หรือ “UFDA” (United Fire-Defense Agency /世界消防庁 เซไกโจโบโช) ได้ริเริ่มโครงการ “Super-Fire Specialist Team” หรือ “หน่วยดับเพลิงพิเศษ” (超火災特化部隊 โชกะไซโทกะบุไท) และเริ่มศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อรับมือกับอัคคีภัยปริศนาดังกล่าว เพื่อทดแทนเรสคิวฟอร์ซที่ออกทำงานทั่วโลก…

และผลลัพท์ของผบ.โอซาคาเบะก็คือ “หน่วยพิฆาตเพลิง เรสคิวไฟร์” ที่มีสมาชิกเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ การช่วยเหลือ และการระงับอัคคีภัย 3 นาย ได้แก่  โฮมุระ ทัตสึยะ (โค้ดเนม Fire – 1) / เมกุมิ ยูมะ (โค้ดเนม Fire – 2)  และ ยูคิ ริทสึกะ (โค้ดเนม Fire – 3) โดยทั้งสามคนนี้ จะทำงานภายใต้การดูและของหัวหน้าหน่วย “ไทงะ ริคุ” ผู้ร่วมออกแบบ และสร้างชุด “ไฟเออร์สูท” และมีอำนาจในการออกคำสั่งไม้ตาย Final Rescue  เหมือนกับ หัวหน้าอิชิกุโระ เออิจิ หรือ R-5 แห่งเรสคิวฟอร์ซ

ศัตรูของหน่วยเรสคิวไฟร์ แน่นอนว่าต้องเป็นเหล่าเหตุอัคคีภัย และเหตุไฟไหม้ปริศนาที่เกิดจากกลุ่มวายร้าย “จาคาเอน” ชนเผ่าผู้ที่มอบ “ไฟ” ให้กับมนุษยชาติเมื่อครั้งอดีตหลายล้านปีที่แล้วก็กลับมา เพราะภาวะโลกร้อนจนน้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือที่ใช้คุมขังกลุ่มจาคาเอนเริ่มละลาย และด้วยพลังไฟที่เหนือกว่าภัยทั่วๆไป ทำให้อุปกรณ์บางชิ้นของเรสคิวฟอร์ซ์ เช่น เรสคิวสไตร์คเกอร์ที่ได้รับการซ่อมแซม ก็ไม่อาจใช้งานต่อกรได้เต็มที่ 

แต่ด้วยพลังของ Rescue Vihicle Generation 2 หรือ เรสคิววีเคิ่ลรุ่นที่สองอย่าง “ไฟเออร์ ดราก้อน” ที่แม้ว่ายังอยู่ในการทดสอบก็สามารถเอาชนะ “ไบค์คาเอน” ในศึกเปิดตัวหน่วยงานเรสคิวไฟร์ได้ ด้วยพลังใจ และความกล้าหาญของ Fire 1 

 

การต่อสู้กับเหล่าจาคาเอนผู้หมายจะเผาโลกทั้งใบยังคงดำเนินต่อไปอย่างหนักหน่วง แทบไม่เว้นวัน ทำให้หน่วยเรสคิวไฟร์ต้องพัฒนายุทโธปกรณ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมๆกับการพิสูจน์ตัวเองของเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ไฟแรงอย่างทัตสึยะ และแน่นอนว่าทุกความเคลื่อนไหวของหน่วยงาน ก็อยู่ภายใต้การจับตาดูอยู่ห่างๆของ ผบ.โอซาคาเบะ

 

และเมื่อจาคาเอนได้เพิ่มกลยุทธ์ และอัพเกรดการก่อเหตุอัคคีภัย บวกกับลูกเล่นใหม่ๆของพวกมันอย่างการรวมร่างของ “คาเอนมาจิน” (อสูรเพลิง) 2 ตัวเข้าด้วยกัน แถมเพิ่มการโจมตีจากทางอากาศในเหตุเพลิงไหม้ที่เมืองมาโคริ ที่ๆปีศาจปลาหมึก“อิกะคาเอ็น”ได้ทำการตัดขาดถนน ที่เป็นเส้นทางเชื่อมเกาะ ทำให้เหล่าเรสคิวไฟร์ต่างยืนมองเหตุเพลิงไหม้ด้วยความเจ็บใจ เพราะเรสคิววีเคิ่ลที่มีทั้งหมดเป็นรุ่นที่ใช้งานภาคพื้นดิน…

 

ท่ามกลางความสิ้นหวัง หัวหน้าไทงะ ก็ได้รับการติดต่อจาก “อาโออิ สึบาสะ” (โค้ดเนม Fire-4) และ “วาตาริ จุน” (โค้ดเนม Fire -5)  สมาชิกหน่วย “สกายทีม” แห่ง เรสคิวไฟร์สาขาอเมริกา  ที่มีกำหนดย้ายมายังสาขาญี่ปุ่นพอดี ทำให้เหล่าเรสคิวไฟร์ได้รับการเสริมกำลังทางอากาศ  เข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ได้ 

แต่ว่าสาเหตุการมาญี่ปุุ่นของสึบาสะ ก็คือการมาเอาชิงตำแหน่ง Fire-1 ที่เขาเชื่อว่าสาวเพอร์เฟกต์อย่าง ริทสึกะ จะได้สวมชุดนั้น …แต่ทว่าในความเป็นจริงกลับเป็นคนที่ดูเหลาะแหละ และไม่เอาไหนอย่างทัตสึยะ ทำให้สึบาสะไม่ค่อยพอใจกับพฤติกรรมซักท่าไหร่ แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจ รวมไปถึงการเปลี่ยนริทสึกะผู้เย็นชา ให้กลับมามีรอยยิ้มได้ ทำให้สึบาสะยอมรับในตัวทัตสึยะ และทำภารกิจร่วมกันได้ในที่สุด

 

หลังจากที่ได้ต่อสู้กับ “อูคาเอ็น” หนึ่งในขุนพลของพวกดอนคาเอ็น และเอาชนะได้ด้วยเรสคิววิเคิ่ลลำใหม่ “เอ็กซ์ดราก้อน” ทัตสึยะ หรือ “Fire-1″ ก็ได้รับพลังใหม่จากการร่วมมือของ “ไทงะ อาซึกะ” หลานสาวของหัวหน้าไทงะ ที่เป็นผู้ไขปริศนา “ดาบริวโดเคน” ดาบในตำนานของผู้พิทักษ์โลกจากยุคโบราณ ในอดีตเคยใช้สะกดพลังของดอนคาเอน ทำให้ Fire-1 ได้อัพเกรดเป็น “Fire-1X”(ไฟร์ วัน เอ็กซ์) ด้วยพลังที่สูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไปของเรสคิวไฟร์ ทำให้สามารถกำจัด “ดอนคาเอน”ผู้นำของพวกจาคาเอนลงได้สำเร็จ

 

แต่ทัตสึยะก็หมดสติไปหลังจากการใช้เกราะ Fire-1X ซึ่งนั่นก็ทำให้ทัตสึยะต้องปรับตัวด้วยการฝึกฝนเพื่อใช้รับมือกับหัวหน้าจาคาเอนคนใหม่ “โจคาเอน” และเริ่มเกมการตามหา “ลูกแก้วมังกรสีน้ำเงิน”  ลูกแก้วที่เพิ่มพลังให้กับดาบริวโดเคนในอดีต มีพลังในการโจมตีมหาศาล เมื่อผู้ใดครอบครองจะสามารถดึงพลังแฝงออกมา และพลังที่ปล่อยออกมาจะอยู่ในรูปแบบของมังกรสีฟ้า แต่เมื่อมีลูกแก้วสีน้ำเงินปรากฏมากกว่า1ลูก ลูกแก้วจะเลือกผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์และยุติธรรมเป็นเจ้านายของตน ลูกแก้วสีน้ำเงินโดยปกติจะถูกซ่อนในสถานที่ต่างๆทั่วญี่ปุ่น

 

วันหนึ่ง พวกเรสคิวไฟร์ได้รับการติดต่อจาก “โทโดโรกิ ฮิคารุ” หรือ R-1 จากหน่วยเรสคิวฟอร์ซ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับข่าวลือว่าหัวหน้าไทงะจะออกจากหน่วยไปดูแลฟาร์มปศุสัตว์ที่โอกินาว่าบ้านเกิด ทำให้หลายๆคนกังวลว่าฮิคารุจะมาเป็นหัวหน้าแทนไทงะ…

 

แต่สุดท้ายก็เป็นการเข้าใจผิดกัน เพราะที่จริงแล้ว การมาของฮิคารุ ก็มาเพื่อแค่แวะเอาเรสคิววิเคิ่ล กับอุปกรณ์มาซ่อมบำรุงประจำปี บวกกับการที่สาขายุโรปเองก็ต้องการเรสคิววีเคิลรุ่นปรับปรุงของเรสคิวฟอร์ซไปใช้งานที่สาขายุโรปด้วย… ซึ่งกว่าจะซ่อม และอัพเกรดเสร็จสิ้นก็ใช้เวลาหลายวัน 

 

ในวันพักผ่อนของเรสคิวไฟร์ ก็เกิดเหตุการบุกโจมตีของโจคาเอนที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นฮิคารุก็ติดอยู่ในซากของโรงงานนั้นจากการที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ด้วยจิตใจอันกล้าหาญ และไม่ทิ้งพวกพ้องของทัตสึยะ ทำให้ฮิคารุไว้ใจ จนสามารถร่วมมือกันภายใต้รหัสปฏิบัติการณ์ “ดับเบิ้ลวัน” (R-1 และ Fire-1) และการรวมร่างครั้งพิเศษ ของเรสคิววิเคิ่ลทั้งสองหน่วย (เรสคิวฟอร์ซ / เรสคิวไฟร์) จนเกิดร่างใหม่ “เคลเบรอส ดราก้อน” จนสามารถกำจัดคาเอนมาจินลงได้  พร้อมกับฝากฝังให้ทัตสึยะ และเรสคิวไฟร์ได้ปกป้องญี่ปุ่นต่อไป…

 

 โจคาเอนได้เริ่มแผนการปล้น“ไฟร์ฟินิกซ์”ฐานบัญชาการหน่วยเรสคิวไฟร์ โดยได้จับตัวหัวหน้าไทงะ และเจ้าหน้าที่ในตัวอาคารทั้งหมด โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกับการปลดอาวุธของหน่วย และยอมแพ้แต่โดยดี แต่ด้วยความสามารถของ “คิวสุเกะ” โทรโข่งแปลงร่างของทัตสึยะ จึงสามารถเจาะระบบเปิดทางเข้าออกตัวอาคารได้ และตามไปจัดการกับโจคาเอน 

 

โจคาเอนเปิดฉากดวลกับ Fire-1X โดยแบกรับเอาความเกลียดชังมนุษย์ที่เคยทรยศความเชื่อใจของเขาในอดีตเอาไว้โถมเข้าใส่ Fire-1X ที่พกความเชื่อมั่นในผองเพื่อน ผลสุดท้ายคือ โจคาเอนพ่ายแพ้ แต่ Fire-1X ไว้ชีวิตเพราะเชื่อว่าโจคาเอนเนื้อแท้ไม่ใช่คนเลว แต่เพียงแค่เจอคนเลวที่ปั่นหัวหลอกใช้ ทำให้หน้ากากแห่งความเกลียดชังของโจคาเอนหายไป 

 

ส่วนโจคาเอนที่รอดมาได้ก็กลับไปหา”ดอนคาเอน”ที่กำลังพักฟื้นตัวจากศึกกับเรสคิวไฟร์ครั้งก่อน ก็ได้พยายามกล่อมให้สงบศึก เพราะเชื่อมั่นว่าโลกจะกลับมามีสันติและใช้ไฟไปในทางที่ถูกต้อง แต่ทว่าดอนคาเอนไม่เชื่อจึงได้ลงโทษโจคาเอน ทำให้ทั้งสองต้องสู้กัน ผลลัพท์ก็คือความพ่ายแพ้ของโจคาเอน ร่างของเขาก็จมลงก้นบ่อลาวาในที่สุด…และในตอนนี้ดอนคาเอนก็ฟื้นฟูจนกลายเป็น“ร่างมังกรไฟ”ที่มีพลังเทียบเท่าอดีตกาลนับล้านปีก่อน แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อตามหา “มังกรน้ำเงินทั้ง 5″ (“ลูกแก้วมังกรสีน้ำเงิน”) เพื่อกำจัดทิ้ง เพื่อแผนการครองโลกต่อไป…

 

 

ตอนนี้หน่วยเรสคิวไฟร์ มีลูกแก้วมังกรน้ำเงินในมือ 3 ลูก ขาดแค่ 2 ลูกสุดท้าย ที่ซ่อนอยู่ใกล้กับภูเขาไฟฟูจิ ส่วนอีกลูก ผบ.”โอซาคาเบะ เรย์จิ” (หรือ R-0 เรสคิวฟอร์ซ) กำลังออกตามหาที่หมู่บ้านผู้พิทักษ์ลูกแก้วมังกรในประเทศมองโกเลีย ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับที่ดอนคาเอนในร่างมังกรไฟเข้าโจมตีหมู่บ้านที่ผบ.โอซาคาเบะอยู่ ทำให้เขาต้องออกโรงต่อสู้กับพวกจาคาเอนที่บุกหมู่บ้าน แต่สุดท้ายแล้ว ทังผบ.โอซาคาเบะ และดอนคาเอนไม่พบร่องรอยของลูกแก้วมังกรน้ำเงินเลย 

 

 

ในขณะที่เหล่าเรสคิวไฟร์กำลังต่อสู้กับ 3 ขุนพลของจาคาเอนในทะเลสาบใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิ ที่ๆสถิตย์ของลูกแก้วมังกรน้ำเงินลูกที่ 4 นั่นเอง “อาสึกะ” หลานสาวของหัวหน้าไทงะก็ได้รู้ความจริงว่าสร้อยของเธอคือลูกแก้วมังกรลูกที่ 5 จึงได้มอบพลังให้กับเรสคิวไฟร์ จัดการกับ3ขุนพลจาคาเอนได้ ทำให้ Fire-1X  ได้รับลูกแก้วมังกรน้ำเงินทั้ง 5 ลูกเก็บไว้ในดาบริวโดเคน และพร้อมเจอศึกสุดท้ายกับดอนคาเอนแล้ว 

 

แต่ทว่าในตอนนั้นเอง ก็มีลำแสงลึกลับพุ่งผ่านกลุ่มเรสคิวไฟร์จนบาดเจ็บสาหัส และ แสงนั่นก็ยิงผ่านทะลุร่างของ “Fire-2″ หรือ “ยูมะ”ที่เอาตัวเข้าบังทัตสึยะ แสงที่ว่านั่นก็คือ “ดอนคาเอนร่างมังกร” มันได้ลอยไปยังอวกาศ และกลายร่างเป็นดวงอาทิตย์ดวงที่สอง ที่มีความร้อนกว่าดวงอาทิตย์ปกติสามเท่า แผนการเผาโลกทั้งใบของดอนคาเอนได้เริ่มต้นขึ้น…

 

ในตอนนี้เรสคิวไฟร์เหลือเพียง ทัตสึยะ หรือ Fire-1 เพียงคนเดียว สมาชิกที่มีอาการหนักที่สุดก็คือยูมะ ด้วยคำแนะนำของอาสึกะที่ถอดความของศิลาโบราณ ในนั้นบันทึกการต่อสู้กับดอนคาเอนของผู้กล้าในอดีต โดยระบุว่า “ผู้กล้า จะมอบลูกแก้วของตนให้กับเพื่อนทั้งสี่ จนกลายเป็นลูกแก้วแห่งมิตรภาพ ที่สามารถเปลี่ยนดอนคาเอนให้กลายเป็นผลึกน้ำแข็งนิรันดร์ได้” 

 

แต่ในตอนนี้ พลังในการเอาชนะดอนดาเอน ไม่สำคัญเท่ากับชีวิตของเพื่อนพ้อง ทัตสึยะไม่ลังเลที่จะมอบลูกแก้วมังกรน้ำเงินให้กับเพื่อนๆที่กำลังเป็นตายเท่ากัน และเชื่อมั่นว่าทุกคนจะพร้อมหน้ากัน ในระหว่างนี้ ดอนคาเอนได้ส่งลูกสมุนออกอาละวาดทั่วเมือง เพลิงไหม้ครั้งใหญ่สุดของเมืองได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่งานนี้ ทัตสึยะจึงต้องออกทำงานคนเดียว เพื่อปกป้องชีวิตผู้คน และเพื่อนคนสำคัญของเขา…

 

 และด้วยความกล้าหาญของทัตสึยะ ทำให้ลูกแก้วมังกรน้ำเงิน ที่เปรียบเสมือนตัวแทนของจิตวิญญาณของการช่วยเหลือผู้คน ทั้ง 4 ลูก ก็ได้บรรเทาอาการเจ็บของสมาชิกที่เหลือ อีกทั้งยังคืนชีวิตให้กับยูมะที่ตายไปแล้ว ให้กลับมาร่วมต่อสู้อีกครั้ง การต่อสู้กับดอนคาเอนยกสุดท้ายเริ่มขึ้นแล้ว!

 

 

“ถึงเจ้าหน้าที่เรสคิวไฟร์ทุกคน นี่คือภารกิจสุดท้ายของพวกคุณ… Final Mission- เป้าหมาย ทำลายดวงอาทิตย์ดวงที่สอง และกำจัดดอนคาเอนลงให้ได้!!”

 

 

 ทันทีที่คำสั่งของผบ.โอซาคาเบะจบลง ตึกบัญชาการไฟร์ฟินิกซ์ และเรสคิววิเคิลทุกลำได้โบยบินไปสู่ห้วงอวกาศ โดยมีเจ้าหน้าที่ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานนี้มาร่วมยืนส่งพวกเขาไปทำภารกิจสุดท้าย

 

ในห้วงอวกาศ ที่ๆดวงอาทิตย์ที่เกิดจากดอนคาเอนส่องแสง ด้วยคำสั่งไฟนอลเรสคิว ที่ระดมยิงท่าไม้ตายใส่ดอนคาเอน ที่รวมร่างกับ 3 ขุนพลจนกลายเป็นมังกร3หัว แต่ไม่เป็นผล หัวหน้าไทงะจึงขับฐานบัญชาการพุ่งเข้าชนดอนคาเอน และเริ่มตั้งหลักกันใหม่ ในขณะที่ดอนคาเอนก็ได้เริ่มรวมพลังเป็นดวงอาทิตย์อีกครั้ง แต่ด้วยพลังของลูกแก้วทั้ง 5 ที่สมาชิกเรสคิวไฟร์ได้มอบให้ทัตสึยะจึงสามารถหยุดยั้งดอนคาเอนได้

 

 

แต่อยู่ๆทัตสึยะก็ลดดาบลง และเริ่มตั้งคำถามกับดอนคาเอนถึงความปราถนาในการทำลายโลก ดอนคาเอนให้เหตุผลว่า ในช่วงเวลาที่มนุษย์ได้ถือกำเนิดมาบนโลก ตัวมันได้มอบสิ่งที่เรียกว่า “ไฟ” เอาไว้ใช้ขับไล่ความมืด ความอบอุ่น และป้องกันตัวจากสิ่งชั่วร้าย แต่หลังจากที่ดอนคาเอนถูกผนึก และจำศีลอยู่ในแม็กม่าใต้พื้นโลก มันก็ได้รับรู้ถึงความเลวร้ายของมนุษยชาติที่ใช้ไฟไปในทางที่ผิด 

 

เมื่อทัตสึยะได้ยินเรื่องของดอนคาเอน ก็รับรู้ได้ว่า ที่จริงแล้วดอนคาเอนเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายแต่แรก ทำให้ทัตสึยะใช้ดาบริวโดเคน และลูกแก้วมังกรน้ำเงินทั้ง 5 ผนึกร่างของดอนคาเอนให้อยู่ในร่างของผลึกน้ำแข็งนิรันดร์ และส่งมันและพรรคพวกจาคาเอนล่องลอยไปในอวกาศอันแสนไกล ที่ๆยังต้องการ”ไฟ” ในการเริ่มต้นชีวิต…ซึ่งดอนคาเอนได้ทิ้งท้ายว่า ซักวัน มันจะกลับมา…

 

 

 

หลังจากจบเรื่องราวของดอนคาเอน ก็ผ่านไปหลายเดือน…

งานแต่งงานเล็กๆของ “ยูมะ” (Fire-2) กับ “ทามะจัง” สาวสวยแห่งโรงอาหารหน่วยเรสคิวไฟร์ หลังจากที่ตามจีบมานาน ในขณะที่ทุกคนในงานกำลังมีความสุข หัวหน้าไทงะก็ได้แจ้งข่าวร้ายของหน่วยงานเรสคิวไฟร์ เมื่อผบ.โอซาคาเบะ และตัวเขาตัดสินใจที่จะยุบหน่วยงานเรสคิวไฟร์ เพื่อให้ทุกคนได้กลับไปใช้ชีวิตของตัวเอง ถึงเวลาที่ทุกคนต้องแยกย้ายกันแล้ว…

 

 

จุน/ Fire 5  

ได้สมัครเป็นเจ้าหน้าที่ของสำนักบรรเทาทุกข์กู้ภัยโตเกียว โดยเขาสมัครเป็นนักบินและได้ขับเฮลิคอปเตอร์ รุ่น Eurocopter SA 365/AS365 Dauphin 2

 

สึบาสะ / Fire 4

ทำงานเป็นนายแบบ และพรีเซ็นเตอร์ประชาสัมพันธ์การสมัครคัดเลือกบุคคลทั่วไปเข้ามาเป็นพนักงานของUFDA

 

ริทสึกะ / Fire 3 

ริทสึกะทำงานเป็นครูฝึกของUFDA 

 

ยูมะ / Fire 2

ยูมะได้แต่งงานกับทามะจัง มีลูกด้วยกัน 1 คน แม้จะมีครอบครัวไปแล้วแต่ยูมะ ยังคงเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกสอนการดับเพลิงให้กับประชาชน

 

หัวหน้าไทงะ

ได้เป็นอาจารย์สอนวิชาป้องกันภัยให้กับสถาบันUFDA และ หัวหน้าไทงะเป็นคนเดียวที่สามารถติดต่อทัตสึยะที่อาศัยอยู่ต่างระเทศ

 

ทัตสึยะ / Fire 1

ได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกาพร้อมกับคิวสุเกะโดยใช้มอเตอร์ไซต์เป็นพาหนะในการเดินทาง ส่วนหนึ่งที่ได้ไปอเมริกาเนื่องจากได้รับมอบหมายงานจากสาขาอเมริกา และความต้องการที่ออกไปช่วยเหลือผู้คนให้รู้จักคุณค่าของไฟ และการอยู่ร่วมกับไฟอย่างถูกต้อง เพราะเขายังคงคิดถึงคำพูดสุดท้ายของดอนคาเอนมาตลอด …

 

— อวสาน — 

 

 

“Final Mission Clear! … จากนี้ อนาคตของโลกขอฝากกับคนรุ่นใหม่อย่างพวกเธอแล้วล่ะนะ”

ผบ.โอซาคาเบะ  เรย์จิ ผู้ก่อตั้ง UFDA และ หน่วย Rescue Fire

 

 

 

ตัวละคร

Fire-1 / Fire-1X / โฮมุระ ทัตสึยะ  แสดงโดย คุโบ โช 

หนุ่มเลือดร้อนผู้กระตือรือร้นในการช่วยชีวิตผู้คน นึกถึงความสุขของผู้คนมากกว่าตัวเอง  เป็นคนที่จริงใจ ใสซื่อ เสียงดังโวยวาย และมักจะทำอะไรห่ามๆบ้าๆบอๆอยู่เสมอ  เป็นผู้ที่สามารถใช้งานดาบริวโดเคน ดาบที่มีแต่ผู้กล้าในตำนานที่ผนึกดอนคาเอนไว้ได้เมื่อหลายล้านปีก่อน 

Fire-2  / เมกุมิ ยูมะ แสดงโดย คาวาดะ ยู

ชายหนุ่มอารมณ์ดี ดูปกติมนุษย์ที่สุดในกลุ่ม  มีความเข้าใจในตัวผู้อื่น และมักจะมองภาพรวมก่อนตัดสินใจ จึงถูกทัตสึยะเรียกว่า”พี่ใหญ่” เสมอๆ แต่สุดท้าย ก็เออออตามลูกบ้าของทัตสึยะทุกครั้งไป ยามว่างถ้ามีเวลาจะขลุกอยู่ที่โรงอาหารของหน่วยเรสคิวไฟร์ เพื่อตามจีบทามะจัง จนสามารถขอแต่งงานได้ในที่สุด และเป็นคนเดียว ที่ฟื้นกลับมาจากความตายได้ด้วยพลังของลูกแก้วมังกรน้ำเงิน

Fire-3 / ยูคิ ริทสึกะ  แสดงโดย นาคามูระ ยู

สาวดุหน้านิ่งประจำทีม เป็นแนวหน้าขาลุยที่ทัตสึยะยังต้องยอมสยบ  เก่งทั้งด้านการต่อสู้ทุกชนิด ทั้งมือเปล่าและอาวุธ รวมไปถึงความสามารถด้านวิทยาศาสตร์เคมีในระดับสูง จนถูกตั้งฉายาว่า “Miss Perfect” และยังเป็นสาเหตุที่สึบาสะย้ายมาที่ญี่ปุ่น เพื่อเอาชนะเธอให้ได้…ในตอนแรก เธอเองก็ไม่ชอบหน้าทัตสึยะที่เป็นคนโวยวายเสียงดัง ขาดความรอบคอบ แต่ด้วยจิตใจที่ดี และกล้าหาญชนิดที่เธอไม่เคยเจอมาก่อน ก็เริ่มยอมรับ และสนใจในตัวทัตสึยะมากขึ้น…

 

Fire-4 / อาโออิ สึบาสะ  แสดงโดย ฟุคุยามะ คาซึคิ

หัวหน้าสกายทีมสุดหล่อ แห่งเรสคิวไฟร์สาขาอเมริกา เป็นคนที่มีความสุขุม เยือกเย็น เคยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นและคู่แข่งของริทสึกะ แล้วก็แพ้มาตลอด แต่ลึกๆแล้ว สึบาสะแอบรักริทสึกะเพียงแต่ไม่เคยได้บอกกับริทสึกะไปตรงๆ แถมในเข็มกลัดของเขามีรูปที่ถ่ายคู่กับริทสึกะไว้เป็นที่ระลึกในการเป็นเรสคิวไฟร์

 

Fire-5 / วาตาริ จุน  แสดงโดย มิสุโนะ มาซาโนริ

หนุ่มแว่นเตี้ยสุดเนิร์ด ผู้เป็นโอตาคุคลั่งเครื่องยนต์และอากาศยาน คู่หูของสึบาสะตอนอยู่เรสคิวไฟร์สาขาอเมริกา  เป็นคนเฮฮา เข้ากับทุกคนง่าย และประทับใจในตัวทัตสึยะมาก ถึงขั้นเรียกว่า “ลูกพี่” ซึ่งทัตสึยะเองก็เอ็นดูเหมือนน้องชายแท้ๆเช่นกัน ด้วยบุคลิกที่ติงต๊อง บ้าๆบอๆเหมือนกัน ทำให้ทัตสึยะเข้าขากับจุนในช่วงหลังๆ

 

ไทงะ ริคุ  แสดงโดย ฟุจิชิเงะ มาซาทาคะ

หัวหน้าหน่วยเรสคิวไฟร์ เป็นคนมุ่งมั่น ทำงานจริงจัง แต่มักจะเซ็งกับพฤติกรรมนอกลู่ของทัตสึยะอยู่บ่อยครั้ง แต่เห็นเงียบๆแบบนี้ ลูกบ้าเพียบใช้ได้เช่นกัน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในทีมวิจัยชุด ไฟร์สูท ทั้ง5ชุดด้วยตัวของเขาเอง แต่เนื่องด้วยระบบไฟร์สูทและร่างกาย เกิดการต่อต้านไม่สอดคล้องกับระบบที่ใช้ ทำให้ริคุไม่สามารถต่อสู้ในฐานะเรสคิวไฟร์ได้ เขาจึงได้ตัดสินใจที่จะเป็นกัปตันหน่วยนี้ และเฟ้นหาผู้ที่มารับหน้าที่แทน

 

 

 

R-0 (R-Zero) / โอซาคาเบะ เรย์จิ แสดงโดย ฟูจิโอกะ ฮิโรชิ 
เรสคิวฟอร์ซ คนแรกของUFDA ปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือเรสคิวฟอร์ซ ในเหตุการณ์ภาคหนังโรงเรสคิวฟอร์ซ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผบ.UFDAและเป็นผู้ก่อตั้งหน่วยเรสคิวไฟร์

 

 

ซึงิยามะ ทามามิ / ทามะจัง แสดงโดย นาคามูระ ชิสึกะ

เจ้าของร้านอาหารในโรงครัวของหน่วยเรสคิวไฟร์ เป็นคนออกจะใสๆแบ๊วๆ โดยมีรอยยิ้มกระชากใจชาย แน่นอนว่ายูมะเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย แต่ก็เป็นคนที่มุ่งมั่น และไฟแรงใช่น้อยเลย

 

 

R-1  / R1-Max/ โทโดโรคิ ฮิคารุ  แสดงโดย อิซุคะ เคนตะ

ฮิคารุ ที่ย้ายไปประจำการที่ยุโรป ก็ได้เดินทางกลับมาญี่ปุ่นเพื่อเอาอุปกรณ์ และเรสคิววิเคิลของเรสคิวฟอร์ซ มีโอกาสได้ร่วมกันต่อสู้กับทัตสึยะในฐานะ R-1 ภายใต้ภารกิจ “ดับเบิ้ลวัน” 

เรสคิว วีเคิล

ยานพาหนะในเรื่องจะมี Gimmick ที่ต่างจากภาคแรกพอสมควร เพราะจะออกไปทางอุปกรณ์ดับเพลิง + สัตว์ + ประกอบร่าง + หุ่นยนต์ยักษ์ ที่ดูจะมึนๆไปบ้าง แต่ในเรื่อง CG ทำออกมาสวยสะใจมากๆ งานดีไม่มีเผา เพราะเอาซีนซ้ำมาเล่นเหมือนภาคแรกนั่นเอง 55+

 ไฟร์ ดราก้อน / โดเซอร์ดราก้อน / เทอร์โบดราก้อน ของ Fire 1-2-3 ที่สามารถเข้าช่วยผู้ประสบภัย และต่อสู้กับจาคาเอน จากบนพื้นดินได้

เจ็ท ฟอลคอน / เฮลิ ฟอลคอน ของ Fire 4-5 ที่เข้ามามีบทบาทในการรับมือกับศัตรูที่สามารถบินได้ หรืออัคคีภัยที่ยากต่อการเข้าถึง

 เกรท ไวเวิร์น GX พาหนะกู้ภัยขนาดใหญ่พิเศษ ที่รวมเอาเรสคิววิเคิลทั้งหมดของหน่วยมาต่อกันจนเป็นร่างมังกรยักษ์ และยังสามารถแปลงเป็นปืนใหญ่ให้ เรสคิวคิง หุ่นรบของ Fire-1 ได้ 

 

จัดเป็นอีกเรื่องที่มีฉากต่อสู้ บู๊เอามันส์ ซึ่งสวนทางกับ Theme เรื่อง และดีไซน์ที่ไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นัก เพราะในตอนนั้นผู้คนยังจำภาพการทำภารกิจแบบกึ่งๆเรียล แต่พอมาภาคเรสคิวไฟร์แล้ว กลับมี Theme ที่เน้นไปทางแฟนตาซี อภินิหารซะเยอะ ทั้งๆที่เป็นโลก หน่วยงานหลัก และตัวละครบางส่วนก็ใช้ชุดเดียวกัน  ทำให้แฟนๆที่จำภาพภาคแรกมาอาจจะพากันส่ายหน้านิดหน่อย

 

ยิ่งการมาของพวกหุ่นยนต์ยักษ์ ยานรวมร่างหางยาวเฟื้อย ลูกแก้วมังกรมหัศจรรย์ ยิ่งพาให้ Theme แและเนื้อหา ความสมเหตุผลบางอย่าง ดิ่งลงเหวอย่างเห็นได้ชัด แต่โดยรวมแล้ว เรื่องนี้ดูง่าย ย่อยง่ายกว่าภาคแรก มีปมประเด็นดราม่าแทรกมาช่วงท้ายๆเรื่องซะเยอะ แค่เสพแอคชั่นมันส์ กับ CG สวยๆ และขาเนียนๆของ Fire3 ก็เพลินแล้วครับ 555+

 

 

อีกจุดหนึ่งที่ไมม่พูดถึงเลยเดี๋ยวจะหาว่าไม่ครบ นั่นก็คือ เพลงประกอบในเรื่อง ภาคนี้ได้ยกระดับความแกรนด์ ความมันส์ของเพลงด้วยการได้กลุ่มศิลปินวง Jam Project ที่ควบร้องทั้งเพลงเปิด 2 เพลง + เพลง Insert อีกด้วย เชื่อว่าใครได้ฟัง ต้องมีความพลุ่งพล่านบางอย่างแน่นอน!

ใครที่สนใจจะหามาชม ก็ลองหาDVD แบบถูกลิขสิทธิ์ โดยบ. TIGA ซึ่งก็ยังสามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้า หรือตึกเมก้า สะพานเหล็ก คลองถมครับ…หรือสอบถามแอดมินเพจ TIGAได้เลยครับ

แอดมิน Ak47

 +

+

+

+

แถมภาพสวยๆของ  นาคามูระ ยู (中村 優) หรือ Fire-3 เอาไว้ให้ดูกันเพลินๆ

ปิดท้ายด้วยภาพของ นาคามูระ ชิสึกะ (中村 静香) หรือ  ทามะจัง ตัวประกอบสาวคัพ F เอาไว้ให้ดูกันเพลินๆ

 

 

เพลงเปิด Op1 

เพลงเปิด Op2