Tokumei Sentai Go-Busters !!
ขบวนการจารชน โก-บัสเตอร์!

ประเภท : Action , Hero , tokusastu
สถานะ :
ออกฉายครั้งแรกที่ญี่ปุ่น : 26 กุมภาพันธ์ 2012
ออกฉายตอนสุดท้ายที่ญี่ปุ่น : 10 กุมภาพันธ์ 2013
ผู้ผลิต : Toei
ระยะเวลาในการฉายต่อตอน : 30 นาที
ลิขสิทธิ์โดย : Rose Media and Entertainment

จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อโลกของเรา มี “พลังงานสะอาด”ใช้งานกันอย่างจริงจัง และแพร่หลาย แต่ทว่า ไม่ได้มีเพียงมนุษย์ท่านั้น ที่ต้องการพลังงานเหล่านี้ไว้ใช้ แต่เป็นพวก “ไวรัสคอมพิวเตอร์จากอีกมิติหนึ่ง…
นี่คือพล๊อตหลักๆของ เหล่านักสู้ขบวนการล่าสุดที่กำลังวางจำหน่ายในบ้านเราขณะนี้ กับ
“ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์”

ข้อมูลอย่างเป็นทางการของ Tokumei Sentai Go-Busters

Tokumei Sentai Go-Busters เป็นภาพยนตร์ขบวนการซุปเปอร์เซนไทลำดับที่ 36 เริ่มออกอากาศในประเทศญี่ปุ่น วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2012 และอวสานลงในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2013 ทางสถานีทีวีอาซาฮี ทุกเช้าวันอาทิตย์ เวลา 7.30-8.00 น. ในช่วงซูเปอร์ฮีโร่ไทม์
มีจำนวนออกฉายทางโทรทัศน์ทั้งหมด 50 ตอน โดยมีตอนพิเศษอีก 3 ตอน คือ ไคโซคุ เซนไท โกไคเจอร์ vs. ตำรวจอวกาศเกียบัน , คาเมนไรเดอร์ x ซูเปอร์เซนไท ซูเปอร์ฮีโร่ไทเซน และ โทคุเมย์ เซนไท โกบัสเตอร์ส THE MOVIE

เรื่องย่อ
เรื่องราวของ ขบวนการจารชน โกบัสเตอร์นั้นเริ่มขึ้นเมื่อย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1999 มนุษย์ได้คิดค้นพลังงานทดแทนพลังงานจากธรรมชาติที่กำลังหมดลงทุกขณะ โดยพลังงานทดแทนนั่นมีชื่อว่า “เอเนอร์ทรอน” เป็นพลังงานสะอาด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยแท้จริง การมีเอเนอร์ตรอน ทำให้ชีวิตของมนุษย์นั้นสะดวกสบายมากกว่าเดิม

พลังงานทดแทน ที่ทำให้มนุษย์สะดวกสบาย และ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม…เอเนอร์ทรอน

เอเนอร์ทรอน ศูนย์รวมพลังงานทดแทน ที่ไม่ได้มีแค่อันเดียวในเมืองนี้…

แต่แล้วพลังงานบางส่วนได้ติดเชื้อไวรัสคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้เกิดการสร้างพลังงานความชั่วร้ายที่ถูกเรียกว่า “เมสไซอา” พวกมันมีจุดประสงค์ใน การสร้างโลกสำหรับเหล่าไวรัสคอมพิวเตอร์ โดยพวกมันตั้งกลุ่มของตนขึ้นมาในนามว่า “วาร์กราส” และพวกมันใช้ เมต้าไวรัส ในการรุกรานโลกและทำลายพลังงานเอเนอร์ทรอนให้สิ้นซาก รวมไปถึงการดัดแปลงมนุษย์ให้กลายเป็นหุ่นยนต์ด้วยไวรัส

วาร์กราส กลุ่มไวรัสคอมพิวเตอร์ผู้ชั่วร้าย หมายมั่นจะเอาโลกมนุษย์มาครองให้ได้…

ในปัจจุบัน กลุ่มผู้สร้างเอเนอร์ทรอนได้จัดตั้งองค์กร “ศูนย์จัดการพลังงาน” ขึ้นมาพร้อมกับสร้างทีมสายลับระวังภัยที่มีชื่อว่า “โกบัสเตอร์ส” ซึ่งเป็นกลุ่มบุคคลหรือทายาทที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในการโจมตีของวาร์กราสในปี1999 โดยฝึกฝนเพื่อรับมือกับการรุกรานในอนาคต

“ศูนย์จัดการพลังงาน” องค์กรลับที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อปกป้องเอเนอร์ทรอนขึ้นมาให้รอดพ้นจากการโจมตีของวาร์กราส นำโดย ผบ.สูงสุด คุโรกิ ทาเคชิ

โกบัสเตอร์ มีทีมช่าง แผนกวิจัยงานต่างๆ ที่แยกหน้าที่กันชัดเจน นี่สิถึงเรียกว่า“องค์กร”จริงๆ

จนกระทั่งในปี2012 วาร์กราสได้กลับมารุกรานอีกครั้ง โกบัสเตอร์สจึงได้ออกปฏิบัติการอย่างเต็มรูปแบบเพื่อยับยั้งการเผยแพร่เมต้าไวรัสและทำลายวาร์กราสให้หมดสิ้นไปจากโลกและ สร้างหุ่นยนต์ผู้ช่วย “บัดดี้ดรอยด์” เพื่อต่อกรกับ “เมสไซอา” และเหล่าลูกน้องของวาร์กราสเพื่อป้องกันการรุกรานของไวรัสที่มีผลต่อเอเนอร์ทรอน ซึ่งจะส่งผลต่อสันติสุขของมวลมนุษยชาติ…

หนุ่มสาวเอ๋ย…ขอฝากชะตากรรมของโลก ไว้ในมือพวกเธอว์แล้วนะ!!

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม ขบวนการจารชน “โกบัสเตอร์” ได้ตามแผงVCD และ DVD โดย โรสมีเดียแอนด์เอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้เลยครับ

ตัวละครหลัก

Red Buster / ซากุระดะ ฮิโรมุ (20)

เขาเป็นลูกชายของศาสตราจารย์ โยสุเกะ หนึ่งในนักพัฒนาเอเนอร์ทรอนที่หายสาปสูญไป ฮิโรมุเป็นคนที่มุ่งมั่นกับการเป็นโกบัสเตอร์มากๆ
ฮิโรมุ มักจะหาเรื่องแซวโยโกะ เรื่อง “ความอ้วน”ของเธอเป็นประจำจนกลายเป็นการต่อล้อต่ถียงตามสไตล์พระนางในละครหลังข่าวซะอย่างนั้น

ฮิโรมุ มีจุดอ่อนประหลาดๆ คือ “อาการกลัวไก่” ทุกครั้งที่ ฮิโรมุเจอ “ไก่” ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ปีก, รูปภาพ หรือ “ชื่อ”ที่เกี่ยวข้องกับไก่ ฮิโรมุจะมีอาการช๊อกตาตั้ง และไม่สามารถขยับร่างกายในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งที่มาความกลัวไก่ของฮิโรมุ เกิดจากการถูกขังระหว่างการเล่นซ่อนหา จนถูกขังไว้ใน “เล้าไก่” ในวัยเด็กนั่นเอง

เมื่อแปลงร่างเป็นเรดบัสเตอร์ มีความสามารถพิเศษในด้านพลังการโจมตีด้วยความเร็วเป็นหลัก มีหุ่นยนต์คู่หูคือ “ชิตะ นิค” ที่ทำหน้าที่เหมือนพี่เลี้ยง และเพื่อนที่ดีของฮิโรมุ

Blue Buster / อิวาซากิ ริวจิ (28)

ริวจิ เข้ามาทำงานเป็นโกบัสเตอร์ พร้อมๆกับโยโกะ ด้วยสาเหตุคือ เมื่อปี1999 เขาสูญเสียครอบครัวไปในมิติหนึ่ง ดังนั้นการเป็นโกบัสเตอร์ของเขา ก็เพื่อจะพาครอบครัวของเขากลับมานั่นเอง

ริวจิ มีนิสัยใจดี สุขุม และเป็นผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม(แหงล่ะ อายุเยอะสุดในกลุ่มนี่นา) คอยทำหน้าที่เป็นนักวางแผนในการต่อสู้ และ “เป็นกรรมการคอยห้ามปรามการทะเลาะวิวาท”ของฮิโรมุ และโยโกะเสมอๆ

เมื่อร่างกายของริวจิถึงขีดจำกัด เขาจะกลายเป็นอีกคนนึง ที่มีความใจร้อนบ้าเลือด มุทะลุ และไม่ฟังใคร เรียกว่า “อาการโอเวอร์โหลด” จนทำให้เกิดอันตรายต่อรอบข้าง จึงทำให้เขาต้องใช้น้ำแข็งในการประคบร่างกายเพื่อไม่ให้เกิดอาการนี้ขึ้นมา สัญญาณของอาการนี้คือ เมื่อเกิดอาการโอเวอร์โหลดขึ้นมา ร่างกายของเขาจะมี “เสียงคลื่นวิทยุ” แทรกออกมาจากร่างกายเป็นระยะ และไม่สามารถควบคุมความคิดของตนเองได้จนกว่าร่างกายจะเกิดอาการช็อคและหมดสติไป

เมื่อแปลงร่างเป็นบลูบัสเตอร์ มีความสามารถพิเศษด้านพละกำลังโดยเฉพาะพลังหมัดอันรุนแรงและแข็งแกร่ง มีบัดดี้รอยด์ “กอริซากิ บานาน่า” ที่มีนิสัยขี้กังวล และน้อยใจกับเรื่องเล็กน้อยคอยเป็นห่วงริวจิเสมอๆ

Yellow Buster / อุซามิ โยโกะ (16)

สาวน้อยวัยคุกๆ คนนี้ มาทำงานเป็นโกบัสเตอร์ โดยมีเหตุผลเดียวกันกับ ริวจิ และฮิโรมุ นั่นก็คือการ พาครอบครัวของเธอกลับมาจากมิติอีกแห่งหนึ่ง
โยโกะ มีนิสัยห้าวๆแบบทอมบอย และพูดจาโผงผาง ไม่กลัวใคร ใจร้อน มักจะหัวเสียในเรื่องที่ฮิโรมุแซวเรื่องน้ำหนักของเธอ ทำให้เธอไม่พอใจและไม่ยอมรับฮิโรมุในฐานะเพื่อนร่วมทีม ทั้งๆที่ฮิโรมุในสมัยเด็กนั้นใจดี และน่ารักสำหรับโยโกะมากกว่าที่เป็นในปัจจุบัน
เมื่อใดที่โยโกะอยู่ในสภาพที่หมดแรง เธอสามารถเติมพลังงานให้กับร่างกายของเธอด้วยการทานของหวาน เช่น ช็อกโกแล็ต ขนม ไอศกรีม เป็นต้น แต่เมื่อไม่มีของหวานติดตัวจะทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

เมื่อแปลงร่างเป็นเยลโล่บัสเตอร์ มีความสามารถทางด้านพลังเตะและพลังกระโดดอันยอดเยี่ยมที่สุดในกลุ่ม (ดูขาของน้องเขาซะก่อนเถอะ… ใหญ่มาก!!) มีบัดดี้รอยด์ “อุซาดะ เลตัส” ที่มีนิสัยชอบประชดประชัน ปากร้าย แต่จริงๆก็คอยให้คำปรึกษาให้โยโกะบ้างบางครั้ง

Beet Buster / จิน มาซาโตะ (40)

Stag Buster / ซิลเวอร์สแต๊ก

วิศวกรหนุ่มใหญ่วัย40 คนนี้ เป็นสมาชิกของโกบัสเตอร์ โดยเขาไม่ใช่คนจริงๆ แต่เป็น “ร่างจำลองจากฐานข้อมูล” (Avatar – อวาทาร์) ที่ออกมาช่วยโกบัสเตอร์ทุกครั้งที่ตกในอันตราย
เขาเคยหายไปในอีกมิติหนึ่ง เมื่อปี 1999 มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยตอนนั้น เขาอายุ 27 ปี และการหายสาบสูญนั้นเกิดขึ้นในระหว่างที่มาซาโตะกำลังอ่านผลงานวิจัยเรื่องการเคลื่อนย้ายมิติ ภายในศูนย์วิจัยพอดี

เมื่อมาซาโตะได้ติดอยู่ในช่องว่างของมิติ เขาได้รู้ว่ามิติที่เขาและศูนย์วิจัยอยู่นั้นเป็นคนละมิติกัน น่าแปลกตรงที่ในระหว่างการเคลื่อนย้ายมิติมาซาโตะ เป้นคนเดียวที่สามารถคงร่างมนุษย์ไว้ได้ แต่ต้องแลกด้วยการโดนเมต้าไวรัสคุกคาม

มาซาโตะจึงได้อาศัยความรู้ที่มีอยู่ สร้างบัดดี้รอยด์ของตนเองขึ้นมา ซึ่งก็คือ ซิลเวอร์สแต๊ก และยังสามารถแปลงร่างเป็นโกบัสเตอร์ได้ด้วย เพื่อใช้ในการเสาะหาบุคคลและบอกพิกัด พร้อมกับสร้างร่างจำลองขึ้นมา เพื่อสำรวจมิติและสำรวจสภาพแวดล้อมต่างๆมาเป็นข้อมูลวิจัย โดยที่ตัวจริงของเขา ก็ยังนอนในโลงแก้วพิเศษ ที่อยู่ในศูนย์วิจัย โดยทำการติดตั้งโปรแกรมป้องกันการไหลย้อนของข้อมูลขึ้นมา

ร่างจำลอง (Avatar – อวาทาร์) ของมาซาโตะ เมื่อได้รับการโจมตีจากวาร์กราสมากครั้งเท่าใด ร่างกายจริงในโลงแก้วของเขาจะกลายสภาพเป็นข้อมูลมากเท่านั้น ทำให้เขาต้องต่อสู้โดยให้ไม่ให้เกิดการบาดเจ็บหรือหลีกเลี่ยงการต่อสู้เท่าที่สามารถทำได้ (จึงออกมาสู้ในแต่ละครั้ง จะมาแบบ แปปๆ จบ หรือมาสร้างจังหวะให้โกบัสเตอร์ทั้งสามโจมตีมากกว่า)

สุดท้าย มาซาโตะ ก็สละชีวิตตนเองโดยเร่งแปรสภาพร่างกายส่วนที่เหลือในโลงแก้วให้กลายเป็นข้อมูลด้วยวิธีโอนข้อมูลเมสไซอาห์การ์ด หมายเลข 13 จากภายในร่างกายของฮิโรมุมายังตนเอง เพื่อทำลายเมสไซอาห์การ์ด และเมื่อทำลาย “เอนเตอร์” ร่างอวาทาร์ของพวกวาร์กราสได้สำเร็จ เขาได้สูญสลายไปพร้อมกับมิติ

บีทบัสเตอร์ สแต๊กบัสเตอร์…แอคชั่น!!

Gobuster Powered Custom ร่างอัพเกรดของเหล่าโกบัสเตอร์ที่แข็งแกร่งขึ้น!!

Enter (เอนเทอร์) วายร้ายสุดแสบ จอมป่วนของเรื่อง ที่สุดท้าย ก็ต้องสลายไปพร้อมกับมาซาโตะ

ของเล่น

ในส่วนของเล่นเอง ก็มีมากมายหลายแบบหลายราคา ของเล่น Role Play ก็เยอะ แต่ทางทีมงานขอแนะนำ “Bandai Candytoy Minipla Gobuster Oh” หาซื้อได้ที่ 7-11 ในราคากล่องละ 129 บาท แต่ใช้หลายๆกล่องหน่อยนะครับ จึงจะได้ร่างสมบูรณ์

งานนี้พิเศษสุด เมื่อทีมงานเมทัลบริดได้รีบสินค้าตัวอย่างจาก บริษัท Big One มาริวิวให้เห็นกันจะจะ แถมมีกิจกรรมแจกฟรีให้ 1 ชุด สำหรับคนที่ชื่นชอบ โก-บัสเตอร์ ด้วย แต่มีจำนวนจำกัดนะ สนใจก็ตามไปดูกันเลยครับ

แจกฟรี… Minipla Gobuster Oh [BANDAI] Click

ใน 1 กล่องจะมีชิ้นส่วนมาให้ 1 ชิ้น เอามาต่อกับกล่องอื่นๆให้เป็นหุ่นร่างสมบูรณ์

ใครมีฝีมือในการทำสีโมเดล ก็สามารถแยกชิ้นส่วนมาทำสีได้ด้วยนะ สวยงามไม่แพ้ของเล่นราคาแพงๆเลย

ก็ถือเป็นปกติของทุกปีครับ ที่บ้านเราจะได้ดูหนังขบวนการกันอย่างต่อเนื่อง (ถึงจะช้ากว่าญี่ปุ่นไปสองซีรี่ยส์ก็ตาม) สำหรับแอดมินแล้ว ขบวนการโกบัสเตอร์ ได้แฝงแนวคิดของการใช้พลังงานทดแทน ความหมายดีๆของคำว่ามิตรภาพ และคำว่า ความผูกพันธ์ของคนในครอบครัวได้อย่างน่าสนใจครับ แต่ถ้าใครคิดจะดูเอามันสื ก็สามารถครับ แต่แอดมินว่า เรื่องนี้จะดูสนุกจริงๆ ก็ตอนท้ายๆแหละครับ (ซักราวๆตอนที่ 35-ตอนจบ) เพราะทุกอย่างจะเริ่มแย้มๆปมของตัวละคร และการมาของตัวละคร “มาซาโตะ” ก็สร้างปมประเด็นของเรื่องออกมาด้วย (ถ้าเล่าต่อ เดี๋ยวจะเป็นการสปอยล์)

ถ้าอยากหาหนังขบวนการที่มีปมชวนดราม่านิดๆ มีแนวคิด คอนเซปท์ที่ไม่ซ้ำใคร และดูสนุกๆ ก็แนะนำเลยครับ สำหรับขบวนการจารชน “โกบัสเตอร์” ตอนนี้ก็หาดูได้ตามแผงVCD และ DVD โดยบ. โรสมีเดียแอนด์เอนเตอร์เทนเม้นท์

By Admin Ak Fourtyseven