Timeline ประวัติศาสตร์ Gundam ยุค UC
23 กุมภาพันธ์ 2561 16:42 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

 timeline-history-gundam-uc (0)

“Kidosenshi Gundam” จัดว่าเป็นอนิเมแนวหุ่นยนต์ที่มีความเป็น “ฮาล์ฟ-ไซไฟ” ทุกอย่างในเรื่องสามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์(กึ่งแฟนตาซี) นับเป็นจุดพลิกผันของวงการอนิเมญี่ปุ่นช่วงปลายยุค 70 ที่ยุคนั้น เต็มไปด้วยฉากการต่อสู้ของ“หุ่นอภินิหาร” ที่จัดเต็มทั้ง ลำแสงพิฆาต หมัดจรวด การประกอบร่างแบบยืดๆหดๆตามใจคนออกแบบ และอีกสารพัด จนเกิดภาวะอนิเมหุ่นยนต์เฟ้อตลาด

 

แต่ “กันดั้ม” เลือกที่จะใช้ภาพของสงคราม การต่อสู้ของเด็กหนุ่มในสงครามที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนเริ่ม ไหลไปตามกระแสประวัติศาสตร์ ความขัดแย้งและการเมือง จึงทำให้กันดั้ม กลายเป็นอนิเมดูยาก เข้าใจยาก ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในการออกฉายครั้งแรก แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานนัก มันกลับเป็นอนิเมที่มีคนพูดถึงมากที่สุด อยากดูมากที่สุด ถึงขั้น “ภาคหนังโรง” ที่เอาฉบับทีวีมาตัดต่อใหม่ บัตรขายเกลี้ยงอย่างว่องไว…

 

ความสำเร็จของกันดั้ม ส่วนหนึ่งก็ต้องยกเครดิตให้ทีมงาน และ ผู้ร่างบท รวมไปถึงผู้กำกับจอมตัดต่ออย่าง “โทมิโนะ โยชิยูกิ” (ที่หลังจากนั้นจะได้ฉายาว่า “ฆาตกร” เพราะฆ่าตัวละครทิ้งแบบไม่ใยดีตามท้องเรื่อง) เขาได้วางโครงเรื่อง ที่มีความซับซ้อน มีความลึก ระดับ “ประวัติศาสตร์โลกยุคอวกาศ” กันเลย 

 

 

 Top-Scene-in-Mobile-Suit-Gundam-Series_Cover

ก่อนอ่านบทความนี้ มีเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนก็คือ เรื่องตัวเลขของเวลาที่ปรากฎอันชวนมึน เพราะผู้แต่งเรื่อง โทมิโนะ โยชิยูกิ จะนับ คริสต์ศักราช 2045 เป็นปี  U.C. 0001  ซึ่งมันมีความเหลื่อมล้ำระหว่างปีเกิดขึ้น ถกเถียงกันอย่างมากว่า  “มันนับปี 2045 เป็น U.C. 0001 หรือ มันนับหลังจากปี 2045 กันแน่!?”

 

จนต่อมาในภายหลัง ทาง Official ระบุว่า ศักราช U.C.0001 ได้เริ่มต้นในปี ค.ศ.2046 (พ้นปี 2045 ก็นับ U.C. 0001 เลย อะไรประมาณนั้นครับ) ดังนั้นในปี UC 0079 ที่เป็นจุดเริ่มต้นของสงคราม 1 ปี ก็จะตรงกับ ค.ศ.2152 ในเวลาจริงของเราๆท่านๆนั่นเอง…โดยใน Timeline ที่จะได้อ่านต่อจากนี้ จะเป็นการเล่าสรุปเหตุการณ์ในปีนั้นๆ โดยจะขอข้ามในส่วนของเนื้อเรื่องของกันดั้มภาคนั้นๆ และไซด์สตอรี่บางส่วนยิบย่อยเพื่อความกระชับและเข้าใจง่ายครับ

 

และ ภาค นวนิยาย Hathaway Flash ถูกจัดเป็น Non Canon นะครับ แต่ในบทความนี้ขอใส่มาละกัน  

 

 

—————————————

 

 

A.D. = Anno Domini  คริสต์ศักราช

U.C. = Universal Century ศักราชอวกาศ

 

 ———————————————————————————————————————————————————————

 

timeline-history-gundam-uc (6)

1983 A.D.

- ริคาร์โด มาเซนัส รัฐมนตรีสหพันธ์โลกคนแรก เกิดในปีนี้

 

 

1993 A.D.

- ความขัดแย้ง เกิดขึ้นกระจัดกระจายอย่างกะทันหัน และปะทุขึ้นทั่วโลกจนเกิดภาวะสุ่มเสี่ยง ต่อการคุมสถาณการณ์ และอาจจะบานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม วิกฤติต่างๆที่เกิดขึ้นยังทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับมลพิษที่รุนแรง การขาดแคลนทรัพยากร ความอดอยาก การเพิ่มระดับอาชญากรรม และ ความรุนแรง นับวันยิ่งส่อเค้าไปในทิศทางที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง

 

 

1999 A.D.

- “รัฐบาลสหพันธ์โลก”ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อรับมือกับวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้นกับโลก โครงการ “อาณานิคมอวกาศ” (Space Colony) ถูกร่าง และประกาศการจัดสร้าง โดยในปีนี้ โลก ได้แบ่งการปกครองตัวเองออกเป็น 11 เขต ได้แก่ อเมริกาเหนือ / อเมริกาใต้ / ยุโรปตะวันตก / ยุโรปตะวันออก / เอเชีย / ยูราเชีย / เอเชียตะวันออก / ตะวันออกกลาง / แอฟริกาเหนือ / แอฟริกา และ โอเชียเนีย

 

 

 timeline-history-gundam-uc (7)

2005 A.D.

- การลงมือก่อสร้าง“อาณานิคมอวกาศ” (Space Colony) ได้เริ่มต้นขึ้น และมีกำหนดเสร็จในอีก 40 ปีหลังจากนี้ ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นานาประเทศร่วมทำสัญญา ลงขันในการสร้างโคโลนี่โดยหวังว่าจะมีอนาคตที่สดใสรออยู่…และเริ่มวางเส้นทางว่าจะปล่อยในจุด “ลากรันดจ์พ้อยท์” (Lagrange points) เหนือชั้นบรรยากาศ จุดที่ 1 ถึง 4 

 

 

 

 

U.C. 0001 ~ (หรือ ปี 2045 A.D.)

- ประชากรโลกเพิ่มจำนวนอย่างมากตลอดเวลา 40ปี นับจากการจัดสร้างโคโลนี่ ตอนนี้ประชากรมนุษย์มีสูงถึง9 พันล้านคน โครงการโคโลนี่ก็พร้อมใช้งาน โครงการย้ายถิ่นของมนุษย์ไปสู่อาณานิคมดวงจันทร์และอวกาศเริ่มต้นขึ้นในปีนี้

 

timeline-history-gundam-uc (8)

- “สถานีอวกาศลาพลัส”(The Laplace Space Station) ถูกสร้างขึ้นในรอบวงโคจรของโลก โดยมี “ริคาร์โด มาเซนัส” ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีแห่งสหพันธ์โลกคนแรก แต่ในระหว่างพิธีเปลี่ยนปฏิทินศักราช จากยุคคริสต์ศักราช สู่ ยุคศักราชอวกาศ (U.C.) ก็ได้มีกลุ่มผู้ก่อการร้าย ใช้วัตถุระเบิดที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อทำลายสถานีอวกาศ

 

timeline-history-gundam-uc (9)

- “ไซแอม วิสท์” (Syam Vist) หนึ่งในผู้รอดชีวิตจากเหตุครั้งนั้น ได้ทำการเก็บ  ได้พบกับ “กฎบัตรสนธิสัญญาศักราชอวกาศ” (Universal Century charter)  และในเวลาต่อมา มันถูกเรียกว่า “กล่องแห่งลาพลัส” (Laplace’s Box) ที่ระบุใจความสำคัญของสัญญาฉบับนี้ว่า “ชาวอาณานิคมอวกาศ สมควรได้รับสิทธิ์ในการปกครองตัวเองโดยปราศจากการแทรกแซงใดๆจากรัฐบาลโลก” หรืออีกนัยยะหนึ่งก็คือ “การประกาศเอกราช” และมอบอิสระให้กับชาวอวกาศอย่างแท้จริง แต่ตัวของไซแอม เลือกที่จะเก็บสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเอาไว้เอง…

 

- ในปีนี้ การก่อสร้าง “โคโลนี่ Side 1 (L1) Bunch 1 (Shangri-La)” เสร็จสิ้น และยังมีเหตุการณ์ การก่อตั้งบริษัท The Colony Management Corporation (CMC) ทำหน้าที่จัดการทรัพยากรโคโลนี่ และการบริหารต่างๆ

 

 

timeline-history-gundam-uc (10)

U.C. 0009

- ซีออน ซอม ไดคุน (Zeon Zum Deikun) นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เรียกร้องสิทธิชาวอวกาศ และ พ่อของ “แคสวัล ซอม ไดคุน” หรือ “ชาร์ อัสนาเบิล” เกิดในปีนี้ 

 

 

U.C. 0015

- ประชากรในโนโลนี่ พุ่งสูง ถึง1 ล้าน 5 แสน คน

- เทรนอฟ อิวาน ไมนอฟสกี้ (Trenov Yvan Minovsky) ผู้ค้นพบอนุภาคไมนอฟสกี้ เกิดที่ประเทศยูเครนในปีนี้ 

 

 

U.C. 0016

- สหพันธ์โลกจัดตั้ง สำนักงานการขนส่งการชำระบัญชีชายแดน หรือ  Frontier Settlement Transport Bureau(FSTB)

 

 

timeline-history-gundam-uc (11)

U.C, 0017

- เดกิ้น โซโด ซาบี้ (Degwin Sodo Zabi) เกิดในปีนี้  

 

 

U.C. 0018

- มีเด็กทารกเกิดใหม่ในโคโลนี่ไซด์ 2 (L4) มากถึง 1 ล้านคน และถูกระบุว่าเป็น “ชาวอวกาศ” (Spacenoid) อย่างเป้นทางการ

 

 

U.C. 0020

- ประชากรชาวโคโลนี่ มีจำนวนเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ล้านคน

 

- กองทัพสหพันธ์โลกแบ่งการบริหารจัดการออกเป็นเหล่าทัพ ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ

 

 

U.C. 0022

- สหพันธ์โลกประกาศยุติสงคราม ความขัดแย้งบนพื้นโลกทุกกรณีสำเร็จ

 

 

timeline-history-gundam-uc (14)

U.C. 0025

- ประชากรชาวอาณานิคมอวกาศ เพิ่มขึ้นจากปีจาก 5 ล้าน เป็น 50 ล้านในเวลาเพียง 3 ปี 

 

 

U.C. 0027

- มีการจัดตั้ง “Von Braun” ซึ่งเป็นที่แรกของการตั้งถิ่นฐานบนดวงจันทร์

 

- มีการจัดตั้ง “หน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจดวงจันทร์” (LEDA – Lunar Economic Development Authority) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่ไม่ขึ้นตรงกับรัฐบาลโลก

 

 

U.C. 0030

- สหพันธ์โลกปฏิรูปองค์กรภาครัฐวิสาหกิจการขนส่งระหว่างอวกาศ จากชื่อเดิม “สำนักงานขนส่งการชำระบัญชีชายแดน” (Frontier Settlement Transport Bureau -  FSTB) เป็น “องค์กรกลุ่มธุรกิจการขนส่งอวกาศ” (Space Transport Enterprise Group – STEP) เพราะเปิดให้เอกชนเข้ามามีส่วนในการบริหารจัดการด้วย

 

- ประชากรชาวอวกาศตอนนี้มีจำนวน 500 ล้านคน

 

 

timeline-history-gundam-uc (12)

U.C. 0034

- การก่อสร้างโคโลนี่ไซท์ 2 เสร็จสิ้น

 

- สหพันธ์โลกปรับเปลี่ยนภาคธุรกิจการขนส่ง การค้าระหว่างโลก และอวกาศอีกครั้ง โดยยกสิทธิ์ให้เอกชนที่สหพันธ์จัดหามาดูแลทั้งหมด ภายใต้ชื่อ “บริษัทขนส่งมวลชนอวกาศจำกัด” (Public Corporation of Space Transport PCST)

 

 

 

U.C. 0040

- 40% ของประชากรมนุษย์ประมาณ 5 พันล้านคนอพยพไปอยู่ในอวกาศ

 

 

 

U.C. 0044
- ด้วยแนวคิดเชิงปรัชญาที่ว่า “โลกเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมนุษยชาติควรปล่อยให้ได้รับการพัก” เริ่มแพร่กระจายออกไป ทำให้ครึ่งหนึ่งของประชากรมนุษย์โลกทั้งหมด อาศัยอยู่ในอวกาศ 

 

 timeline-history-gundam-uc (13)

- กองทัพสหพันธ์โลก ได้สร้าง RTX-44 รถถังต่อสู้ภาคพื้นดิน เป็นครั้งแรก

 

- ระบบยกเว้นการเข้าโคโลนีของกลุ่มคนต่างด้าวจากโลก หรือโคโลนีอื่นๆ ถูกนำมาใช้

 

 

 timeline-history-gundam-uc (15)

U.C. 0045

- นิคม Juno อยู่ในวงโคจรของโลกเพื่อช่วยในการก่อสร้างอาณานิคมอวกาศ (ต่อมา จูโน่ถูกเรียกขานว่า Luna II- ลูน่าทู) ระบบโคโลนี่ การวางผังเริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้น และมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์ในปี U.C.0079

 

-สมาคมนักฟิสิกส์ ไมนอฟสกี้ ถูกก่อตั้งที่โคโลนี่ไซท์ 3

 

 timeline-history-gundam-uc (16)

U.C. 0046

- ซีออน ซอม ไดคุน (Zeon Zum Deikun) ได้นำปรัชญา“โลกเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และมนุษยชาติควรปล่อยให้ได้รับการพัก”มาขยายความต่อจนกลายเป็น “ชาวอวกาศควรมีสิทธิอิสระ ในฐานะรัฐที่เป็นอธิปไตย”

 

 

U.C. 0047

- การพัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชั่น Minovsky เริ่มขึ้น

 

 

U.C. 0050

- ประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นมากถึง 1หมื่นล้านคน ซึ่ง 9 พันล้านคนอพยพไปอยู่ในอวกาศ และในปีต่อมาสหพันธ์โลกได้หยุดการก่อสร้างโคโลนี่ใหม่ๆ 

 

 

U.C. 0052

- ซีออน ซอม ไดคุน (Zeon Zum Deikun)  ย้ายไปที่โคโลนี่ ไซท์ 3 เพื่อเผยแพร่อุดมการณ์ของเขา ไดคุน ระบุว่ามนุษยโลก ควรคืนอำนาจการปกครองให้ชาวอวกาศได้ปกครองกันเองได้แล้ว 

 

 

 Fact_Of_Gundam_UC_06

U.C. 0058

- โคโลนี่ไซท์ 3  มุนโซ (Munzo) ประกาศเอกราช และจัดตั้งระบบการปกครองเป็นแบบ “สาธารณรัฐปกครองตนเอง”  และจัดตั้งกองทหารรักษาการณ์อาณานิคมยามรักษาการณ์

 

 

timeline-history-gundam-uc (18)

U.C. 0059

- กองกำลังอวกาศแห่งสหพันธ์โลก (Earth Federal Space Force EFSF) ถูกก่อตั้ง และทำภารกิจแยกออกจากกองทัพสหพันธ์โลก เพื่อเข้าแทรกแซงทางการเมืองของโคโลนี่ไซท์ 3 

 

- แคสวัล เรม ไดคุน / ชาร์ อัสนาเบิล เกิดในปีนี้ 

 

 

 

timeline-history-gundam-uc (19)

U.C. 0060

- กองกำลังอวกาศแห่งสหพันธ์โลก เริ่มต้นสร้างอาวุธขึ้น และเปลี่ยน Luna II เป็นฐานทัพทางทหาร สหพันธ์ฯ เปิดตัวโครงการ “โรดแมปเสริมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ระยะยาว” ในปีนี้

 

กัปตันไบรท์ (Bright Noa) เกิดในปีนี้

 

 

timeline-history-gundam-uc (20)

U.C. 0062

- กองกำลังป้องกันอาณานิคมอวกาศ ถูกยกระดับความเข้มข้นในการติดตั้งอาวุธ จนกลายเป็น “กองกำลังซีออน” (Zeon Elite Force- ZEF)

 

- ยกเลิกระบบยกเว้นการเข้าโคโลนีของกลุ่มคนต่างด้าวจากโลก หรือโคโลนีอื่นๆ

 

- โรงเรียนเตรียมทหารซีออน ถูกก่อตั้งในปีนี้

 

อาเทเซีย ซอม ไดคุน / เซร่า มาส เกิดในปีนี้

 

 

   

U.C. 0063

อามุโร่ เรย์ เกิดในปีนี้

 

 

U.C. 0064

กองกำลังอวกาศแห่งสหพันธ์โลก ดำเนินการตรวจสอบยานอวกาศใหม่ที่พัฒนาขึ้น โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเสริมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ ตามโรดแมปที่วางไว้ในช่วง U.C.0060

 

 timeline-history-gundam-uc (27)

U.C. 0065

- มีการค้นพบทฤษฎีอนุภาคไมนอฟสกี้ แต่ยังไม่สามารถนำมาใช้งานได้จริง

 

- เกิดความแตกแยกของตระกูลไดคุน และตระกูลซาบี้

 

 

 

 

 Fact_Of_Gundam_UC_05

U.C. 0067

- สหพันธโลกปฏิเสธการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชของชาวอาณานิคมอวกาศ สถาณการณ์เริ่มตึงเครียด

 

- ประกาศโครงการสร้าง โคโลนี่ ไซท์ 7  หลังจากที่ไม่มีการสร้างโคโลนี่เพิ่มตั้งแต่ช่วงปี U.C.0050 โดยตั้งใจว่าจะให้เป็นโคโลนี่ที่ปฏิเสธความขัดแย้งทางการเมืองทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็ตาม

 

 timeline-history-gundam-uc (21)

 

U.C.0068 

-ซีออน ซอม ไดคุน เสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุ (คาดว่าอาจจะถูกลอบสังหาร) ในระหว่างการขึ้นปราศรัย  ทำให้อำนาจเบ็ดเสร็จในการปกครองโคโลนี่ ตกมาอยู่ในมือของ เดกิน ซาบี้ (Degwin Sodo Zabi)

 

 

 timeline-history-gundam-uc (17)

U.C. 0069

-เดกิน ซาบี้  (Degwin Sodo Zabi) ประกาศเอกราชและกำหนดให้ไซท์ 3 เป็นอาณาเขตของ “ซีออน”(Zeon) ผู้ติดตาม หรือ ผู้ที่เคยอยู่ฝ่ายเดียวกับ ซีออน ซอม ไดคุน ถูกกวาดล้าง ทำให้ลูกๆของเขา แคสวาล และ อาเทเซีย ต้องลี้ภัยมายังโลกด้วยฝีมือของ จิมบะ ราล (Jimba Ral) นายทหารผู้ภักดีต่อตระกูลไดคุน ต่อมา เด็กทั้งสองได้เปลี่ยนชื่อเป็น เอ็ดเวิร์ด มาส (Edward Mass) และ เซล่า มาส (Sayla Mass) แทนนามสกุลไดคุน

 

-“กองกำลังซีออน” (Zeon Elite Force- ZEF) ได้เพิ่มขีดความสามารถทางการสู้รบด้วยการติดตั้งอาวุธที่มากขึ้น ระดมกำลังพลให้มากขึ้น และกลายเป็น “กองทหารซีออน”  (Zeon Military Force – ZMF) ในที่สุด

 

- คณะกรรมาธิการกองทหารซีออน ได้อนุมัติการสร้างเรือขนส่งชั้นปาปัวเป็นครั้งแรก

 

- ทฤษฎีอนุภาคไมนอฟสกี้ ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง โดยการค้นพบอนุภาค “M” ระหว่างการวิจัย

 

 

U.C. 0070
- สหพันธ์ฯ เปิดตัวโครงการ “โรดแมปเสริมสร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ระยะยาว” อีกครั้ง

 

- ZMF กองทัพซีอ้อนเริ่มทดลองการใช้อนุภาคไมนอฟสกี้ในการรบกวนคลื่นสัญญาณวิทยุ และการสื่อสาร

 

ZMF กองทัพซีอ้อนเริ่มทดลองการสร้างปืนใหญ่อนุภาค ที่อ้างอิงงานวิจัยอนุภาคไมนอฟสกี้ และวิจัยสำเร็จในระยะเวลาไม่นานนัก

 

- คณะกรรมาธิการกองทหารซีออน ได้อนุมัติการสร้างเรือรบอวกาศชั้นชีฟเว

 

กองกำลังอวกาศแห่งสหพันธ์โลก เริ่มต้นวางโครงการสร้างเรือรบอวกาศ ชั้นซาลามิส และ ชั้นแมกเจแลน

 

 

timeline-history-gundam-uc (28)

U.C. 0071

- ZMF เริ่มพัฒนาอาวุธใหม่เพื่อใช้ในเขตอนุภาคไมนอฟสกี้ที่มีความเข้มข้นสูง

 

- เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น Minovsky-Ionescu compact fusion เสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

- กิเรน ซาบี้ (Gihren Zabi) ประกาศทฤษฎี “การอยู่รอดของคนที่เลือก”

 

- EFF สร้างเครื่องบินขับไล่ใช้ในอวกาศ  FF-S3 Shaverfish เป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ทั่วไป

 

 

 timeline-history-gundam-uc (29)

U.C. 0072

-เริ่มมีการสร้าง “ฐานดาวเคราะห์น้อย Axis” เพื่อเป็นทางสำหรับสถานีดาวพฤหัส

 

-เทรนอฟ ไมนอฟสกี้ ย้ายข้างมาทำงานให้กับทางสหพันธ์โลก หลังเกิดคดีอื้อฉาวระหว่างงานวิจัย

 

- ZMF เริ่มสร้างรถถัง YMT-05 Hildolfr ที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนรูปแบบได้

 

 

 timeline-history-gundam-uc (23)

U.C. 0073

- ฝ่ายซีอ้อน ประสบความสำเร็จในการสร้าง “ตัวต้นแบบโมบิลสูท” หุ่นยนต์ติดตั้งอาวุธรูปร่างมนุษย์ ในรหัสเครื่อง “MS-01″ แต่ก็ยังเป็นเครื่องทดสอบ และใช้งานจริงในวงจำกัดแคบๆเท่านั้น

 

 

U.C. 0074

- ฝ่ายซีอ้อน ประสบความสำเร็จในการสร้าง “โมบิลสูท MS-05 Zaku I” หุ่นยนต์รบติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นขนาดเล็กที่อิงกับหลักการอนุภาคไมนอฟสกี้ ภายใต้ข้อตกลงระหว่างผู้ประกอบการผลิตชิ้นส่วนจักรกลรายใหญ่ และทางซีอ้อน  จนกลายเป็น บ.ซีโอนิคส์ (Zeonics)

 

timeline-history-gundam-uc (22)

 - แคสวัล ไดคุน ที่ได้สวมอ้างใช้ชื่อเพื่อนนักเรียนทหารที่ตายไปว่า “ชาร์ อัสนาเบิล” เริ่มสร้างผลงานในฐานะนักเรียนนายร้อย

 

-หน่วยสำรวจพลังงานที่ดาวพฤหัสของฝ่ายซีอ้อน ได้เดินทางกลับมาพร้อมกับแก๊ซฮีเลียม / ไฮโดรเจน และก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาล และมันมากพอที่จะใช้ในการสู้รบกับทางสหพันธ์ได้ด้วย

 

 

U.C. 0075

- ฝ่ายซีอ้อน นำ MS-05 Zaku I เข้าประจำการ และมีการฝึกซ้อมการใช้โมบิลสูท และยุทธวิธีทางทหารประยุกต์ใช้

 

- ฝ่ายซีอ้อน มีการพัฒนาเรือรบอวกาศชั้นมุไซ เพื่อใช้เป็นเรือรบในการขนส่งโมบิลสูทเข้าสู่แนวรบ

 

 

 

U.C. 0076

-ฝ่ายซีอ้อน นำ MS-05 Zaku I เข้าสายการผลิตจำนวนมาก (Mass Product)  และนอกจากนั้นยังออกชุดแต่งเสริมสำหรับทำภารกิจบนพื้นโลก ใต้ทะเล และบนท้องฟ้า ที่มีแรงดึงดูดของโลกด้วย

 

 timeline-history-gundam-uc (24)

U.C. 0078

-ฝ่ายซีอ้อน เริ่มวิจัย และต่อยอด MS-05 Zaku I  ให้กลายเป็น   MS-06 Zaku II

 

- สาธารณรัฐซีอ้อน ประกาศให้มีการ “รัฐระดมพล” (state of national mobilization) เพื่อเข้าทำสงคราม แบ่งออกเป็นกองกำลังโจมตีจากอวกาศ นำทัพโดย โดเซิล ซาบี้ (Dozle Zabi) และกองทัพโมบิลสูทที่สั่งการโดยคิซิเรีย ซาบี้(Kycilia Zabi)

 

 

 Fact_Of_Gundam_UC_14

- โปรเจคท์ V เริ่มต้นขึ้น หลังจากที่ นายพลเรวิล แห่งสหพันธ์ ได้หลบหนีจากการคุมตัวของฝ่ายซีอ้อน ในระหว่างถูกคุมตัว เขาก็เห็นถึงความน่ากลัวของโมบิลสูท และได้สั่งให้เริ่ม Project V ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการสร้างโมบิลสูทสเปคสูง ไว้รับมือกับกองทัพซีอ้อน โดยเริ่มโครงการสร้างที่ไซท์7

 

-มีการริเริ่ม โปรเจคท์ RX โครงการลับสุดยอด ทำควบคู่กับ โปรเจคท์ V  สำหรับโมบิลสูทของฝ่ายสหพันธ์ โดยเป็นการร่วมมืออย่างลับๆกับ บริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และเวชภัณฑ์ ที่ยังไม่ออกตัวแรงในขณะนั้น (เพราะตัวเองก็ขายอะไหล่ MS บางส่วนให้กับทางซีอ้อนด้วย)

 

 

 

Fact_Of_Gundam_UC_12

U.C. 0079

สงครามหนึ่งปี – The One Year War (กันดั้มภาคแรก)

- ซีอ้อนเข้ารุกคืบอย่างหนักด้วยอุปกรณ์ที่ก้าวหน้ากว่าฝ่ายสหพันธ์ 1 ก้าว อย่างโมบิลสูทที่น่าเกรงขาม แผ่อำนาจไปทั่วอวกาศ และลามมายังพื้นโลก การต่อสู้ของสหพันธ์กับซีอ้อน เต็มไปด้วยความหนักหน่วง และโศกนาฎกรรม ในช่วงสัปดาห์แรกของสงคราม มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์ อาวุธชีวภาพ และอาวุธทางเคมี คร่าชีวิตผู้คนจำนวน 2หมื่นล้านคน ในระยะเวลาอันสั้น 

 

 

Fact_Of_Gundam_UC_10

- ซีอ้อน ได้บังคับให้ โคโลนีออกจากวงโคจร เพื่อที่จะทำลายฐานทัพจาโบร สำนักงานใหญ่ของกองทัพสหพันธ์ ในรหัสปฏิบัติการว่า Operation British  แต่กลับพลาดเป้า โคโลนีพุ่งชนโลก แถบออสเตรเลียทั้งหมดถูกทำลาย และส่งผลต่อภูมิอากาศของโลกอย่างมาก แต่ก็ยังรุกคืบไล่ตีฐานทัพของสหพันธ์โลกตามจุดต่างๆ

 

 

- สถาบันฟลานาแกน (The Flanagan Institute) ก่อตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบปรากฏการณ์ Newtype ที่ทำให้คลื่นสมองในมนุษย์ทำงานมากผิดปกติจนบางครั้งสามารถเห็นอนาคตในเสี้ยววินาที หรือสื่อสารทางจิตได้

 

1100-MG-Gundam-RX-78-2-Ver.-3-(50)

- “กันดั้ม” (Gundam) หุ่นรบรุ่นใหม่ล่าสุดปรากฎตัวที่โคโลนีไซท์ 7 มันเป็นหุ่นรบที่ใช้แร่เหล็กดวงจันทร์ ลูน่าไทเทเนียม ในการผลิต มันมีประสิทธิภาพสูงมากจนน่าเกรงขาม และได้รับฉายาว่า “ปีศาจสีขาว” ทั้งที่จริง มันเป็นหุ่นที่ถูกบังคับโดยเด็กหนุ่มที่ชื่อ อามุโร่ เรย์ นั่นเอง โดยตัวกันดั้ม เป็นหุ่นที่ติดตั้งอาวุธประเภท“ลำแสง” (Beam) ทั้งบีมไรเฟิล และ บีมเซเบอร์ 

 

RX-78NT-1

-สหพันธ์โลกเริ่มเอาแปลนของกันดั้ม มาลดสเปคลง ผลิตเป็น Gundam Ground รุ่RX-79 (G) และ RX-78NT-1 Gundam “Alex” เริ่มวิจัยในฐานทัพออกัสต้า ที่อเมริกาเหนือ 

 

 timeline-history-gundam-uc (25)

-หน่วยรบ 08 Team ของ ชิโร่ อามาดะ เข้าสู่สมรภูมิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

 

timeline-history-gundam-uc (26)

-ร้อยตรี อิโอ เฟลมมิ่ง ได้ใช้ FA-78 Full Armor Gundam (Thunderbolt Ver.) เข้าสู้รบกับ  MS-06R Zaku II High Mobility Type (Reuse “P” Device) ของ ร้อยตรีดาริล ลอว์เรนซ์ นายทหารผู้พิการในเขต อวกาศอัศนีบาต ผลคือเสมอกัน แต่ร้อยตรีอิโอถูกจับเป็นเชลยศึก แต่ก็รอดมาได้จากความวุ่นวายในการต่อสู้ ที่ อาบาวคู

 

- สงครามหนึ่งปีสิ้นสุดลง สหพันธ์เป็นฝ่ายชนะ บุคคลในตระกูลซาบี้ล้วนตายในสนามรบ  , ชาร์ อัสนาเบิล หายตัวไป

 

- สหพันธ์โลกและ สาธารณรัฐ Zeon ก็ได้รับการจัดตั้งขึ้นใหม่ หลังลงนามในข้อตกลงสันติภาพที่กรานาดา

 

-หลังจบสงครามหนึ่งปี เทคโนโลยีของซีออนหลายอย่างถูกเหล่าผู้ผลิตโมบิลสูท และโรงงานผลิตเครื่องจักร เข้าแย่งชิง และเอาไปต่อยอดมากมาย รวมไปถึง “สันนิบาตทะเลใต้” (ภาค Thunderbolt) องค์กรพระสงฆ์ที่สหพันธ์ต้องปราบปรามด้วย

 

-ร้อยตรี อิโอ เฟลมมิ่ง ได้รับการโปรโมทเป็น “วีรบุรุษสงครามแห่งภราดรภาพมัวร์” และเข้าร่วมกับกองเรือรบ “สปาร์ตั้น” พร้อมกับ “RX-78AL Atlas Gundam” กันดั้มรุ่นพิเศษที่ใช้เทคโนโลยีข้อต่อแบบหุ่นฝ่ายซีอ้อน ก็เข้าประจำการ ในภารกิจกวาดล้างพวกซีอ้อน และกลุ่มต่อต้านต่างๆ

 

 

 

U.C. 0080

- สหพันธ์โลกและรัฐบาลไซปรัสลงนามในสนธิสัญญาด้านความปลอดภัย 

 

- กองกำลังสหพันธ์ฯ ประกาศว่าอดีตกองกำลังรักษาการณ์แห่งแอฟริกาใต้ได้รับการปลดอาวุธแล้ว

 

 

U.C. 0081

-เด็กน้อย มิเนอว่า ซาบี้ ทายาทของตระกูลซาบี้ อยู่กับกองทัพซีอ้อนที่อยู่บริเวณ Axis

 

-ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูกองกำลังสหพันธ์พลเรือน บริษัท อนาไฮม์อิเล็กทรอนิกส์ จึงได้เริ่มต้นโครงการพัฒนา Gundam ต้นแบบตัวใหม่เป็นความลับสุดยอด

 

 

U.C. 0082

- สหพันธ์แอบจัดตั้งห้องทดลอง Newtype เป็นของตัวเอง โดยยึดเอาการทดลองของทางซีอ้อนมาต่อยอด และหาจุดบกพร่องเพื่อทำการแก้ไข

 

- แผนการฟื้นฟูพื้นที่อาณานิคมครั้งแรกเริ่มต้นที่โคโลนีไซท์ 4 ไปยังไซท์ 3

 

 timeline-history-gundam-uc (30)

U.C. 0083

- เดลัส ฟรีต ร่างแผนปฏิบัติการรบที่สำคัญเรียกว่า Operation Stardust

 

-ผู้นำ Axis มหาราจา คาร์น (Maharaja Karn) เสียชีวิต และให้ลูกสาว ฮามาน คาร์น รับช่วงต่อในการดูแล “มิเนอร์ว่า ซาบี้”  

 

 

Exif_JPEG_PICTURE

GP02A Gundam สร้างเสร็จที่โรงงานของบริษัทอนาไฮม์ ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม Von Braun หลังจากนั้น 3 เดือน GP01 Gundam Full Burnern ถูกสร้างเสร็จ และในอีก4เดือน GP03 Gundam ก็สร้างเสร็จเช่นกัน

 

- กันดั้มรุ่นใหม่ GP01  และGP02A มีกำหนดเข้าประจำการที่ เรือรบอัลเบี้ยน (Albion) ออกเดินทางจากฐานทัพธอริงตั้น ของกองกำลังสหพันธ์ออสเตรเลียเพื่อทำการทดสอบภาคสนาม

 

timeline-history-gundam-uc (32)

-ร้อยตรี อนาเวล กาโต้ เข้าร่วมกับกองทัพที่เหลือของซีอ้อน และเริ่มภารกิจชิง Gundam GP02A และ หัวรบนิวเคลียร์ ทำให้เรือรบอัลเบี้ยนต้องไล่ตามไป (เข้าเนื้อเรื่อง Mobile Suit Gundam 0083: Stardust Memory)

 

-หลังเรื่องราวของการต่อสู้ในเนื้อเรื่อง Mobile Suit Gundam 0083: Stardust Memory ลูกเรืออัลเบียนบางคนถูกศาลทหารดำเนินการตัดสินโทษในช่วงความขัดแย้งดังกล่าว รวมไปถึง “โค อุรากิ” ด้วย

 

timeline-history-gundam-uc (33)

-มีการเรียกร้องให้ พลเรือจัตวา จาติมอฟ ไฮเมม (Jamitov Hymem) จัดตั้งกองกำลังสหพันธ์ในรูปแบบกองเรือรบพิเศษ ที่เรียกว่า “ทีทานส์” (Titans) เพื่อไล่ตามกวาล้างกองกำลังซีอ้อนเดิม

 

 

U.C. 0084

- ความจริงเกี่ยวกับการตกของโคโลนี และรายละเอียดของโครงการพัฒนา Gundam จะถูกลบออกจากบันทึกของทางการ คำให้การ เอกสาร บันทึก ตำราทั้งหมดที่เกี่ยวข้องถือเป็นโมฆะ ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆในประวัติศาสตร์

 

- หลังการจัดระเบียบใหม่โคโลนี ทางสหพันธ์ได้ลงมติให้โลกยังคงมีสถานะการปกครองอยู่

 

timeline-history-gundam-uc (34)

- ชาร์ อัสนาร์เบิล กลับมาที่โลก ซึ่งตอนนั้นตัวเขาถูกระบุว่าเป็นบุคคลผิดกฎหมาย ตามทะเบียนทหารของสหพันธ์  แต่เขาก็กลับเข้าไปโดยแฝงตัว และใช้ชื่อปลอมว่า ควาทโทร บาจิน่า

 

 

timeline-history-gundam-uc (35)

U.C. 0085

- ทีทานส์ใช้แก๊สพิษเพื่อสลายการชุมนุม ที่ชาวอวกาศรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากรัฐบาลโลก ใน โคโลนี่ 30 ของเขตไซท์ 1 ทำให้ประชากรในนั้น 3 ล้านคนต้องตาย เป็นการจุดชนวนให้ชาวอวกาศไม่พอใจอย่างมาก

 

- การต่อต้านต่อต้านสหพันธเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จนมีการจัดตั้ง “กลุ่มต่อต้านสหพันธ์โลก” หรือ “AEUG”  (Anti-Earth Union Group) 

 

timeline-history-gundam-uc (36)

-Gundam TR-1 Hazel Custom ได้รับภารกิจขับไล่พวกซีอ้อนที่เหลือรอดใกล้ Konpeito 

 

 

timeline-history-gundam-uc (37)

U.C. 0086

ร้อยตรี แม็กซิม่า กุน่า (Maximar Gunar) แห่งกองทัพสหพันธ์ ได้มอบหมายให้  “อัสวาน” ทดสอบอุปกรณ์การเคลื่อนเคลื่อนที่ความเร็วสูงสำหรับ RMS-117 Galbaldy Beta เพื่อใช้ในการต่อต้านพวกAEUG

 

-ดาวเคราะห์ Axis เริ่มเดินทางกลับไปยังวงโคจรโลก

 

 

timeline-history-gundam-uc (39)

U.C. 0087

- เรือรบอากาม่า (Argama) ของฝ่าย AEUG เข้าโจมตีโคโลนีไซท์ 7 และชิงเอาโมบิลสูทรุ่นต้นแบบ  RX-178 Gundam Mk.II (เข้าเนื้อเรื่อง Mobile Suit Zeta Gundam)

 

AEUG ยกทัพโจมตีฐานทัพที่จารโบร ในอเมริกาใต้ ทำให้พวกทีทานส์ย้ายฐานไปยัง กริปส์ และ ดาวเคราะห์น้อยที่รู้จักกันในนาม อา บาว คู (A Baoa Qu) ในบริเวณใกล้เคียงของ Luna II 

 

-กองกำลังโมบิลสูทของ AEUG หนีออกจากเครื่องบินขนส่ง Audhumla และเข้าร่วมกับ กลุ่มต่อต้าน Karaba 

 

timeline-history-gundam-uc (38)

-ทีทานส์ส่ง MRX-009 Psyco Gundam เข้าโจมตีฮ่องกง

 

-ทีทานส์มีความคิดที่จะใช้แก๊สพิษอีกครั้ง กับโคโลนี 25 ที่ตั้งในไซท์ 2

 

-AEUG ส่งผู้แทนไปเจรจากับกองกำลังรักษาการณ์ที่ตั้งอยู่ใน Axis แต่การหารือยุติลงเพราะวันรุ่งขึ้น กองกำลัง Axis ไปเข้ากับพวกของทีทานส์

 

-กองกำลัง AEUG และ Karaba ร่วมทำหน้าที่โจมตีฐานทัพที่ตั้งใน คีรีมันจาโร ของสหพันธ์ 

 

-ทีทานส์ ใช้ปืนใหญ่เลเซอร์ Gryps 2  ทำลายโคโลนี18 ที่ตั้งในไซท์ 2

 

-ทีทานส์ ใช้แก๊สพิษอีกครั้งใน โคโลนี21 ที่ตั้งในไซท์ 2 ประชากรในนั้นเสียชีวิตทั้งหมด

 

 

 

U.C. 0088

timeline-history-gundam-uc (40)

- การเจรจาระหว่าง กองกำลัง Axis และ ทีทานส์ พังทลาย จาติมอฟ ไฮเมม (Jamitov Hymem) ถูกสังหารและ พัพติมัส ซีร๊อคโค่ (Paptimus Scirocco) เข้าควบคุมทีทานส์ด้วยตัวเอง

 

AEUG เริ่ม “ยุทธการ Maelstrom” เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่ และยึดเอา Gryps 2 จากทีทานส์

 

 Top Scene in Mobile Suit Gundam Series_07

AEUG / ทีทานส์ และ กองกำลัง Axis เปิดฉากสงคราม3ทัพ ในบริเวณ Gryps 2 ผลลัพท์หลังจบสงครามคือ AEUG สูญเสียกองเรือส่วนใหญ่ ,Char Aznable หายสาบสูญอีกครั้ง กองกำลัง Axis ถอนตัว และ ทีทานส์ถูกกวาดล้าง พัพติมัส ซีร๊อคโค่ ถูกสังหาร โดย คามิว บีดัน นักบินของ Z Gundam

 

 timeline-history-gundam-uc (41)

กองกำลัง Axis ได้เปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็น “นีโอซีอ้อน” (Neo Zeon) พร้อมยกระดับการต่อสู้ และจัดระเบียบกองทัพเพื่อนำแนวคิดของชาวอวกาศกลับคืนมา และเริ่มบุกโลกทั้งทางบกและอากาศ (เข้าเนื้อเรื่อง Mobile Suit ZZ Gundam)

 

timeline-history-gundam-uc (42)

เกิดการกบฎเปซัน (Pezun Rebellion)  และทางสหพันธ์โลกใช้เวลาเกือบครึ่งปี จึงสลายการรวมตัวของกบฏกลุ่มดังกล่าว โดยมีกำลังสำคัญคือโมบิลสูทรุ่นที่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามใหญ่ครั้งก่อนอย่าง ORX-013 Gundam Mk.V , FAZZ  รุ่นทดสอบ รวมไปถึง โมบิลสูทกันดั้มไทป์อื่นๆ ที่อยู่ในระหว่างทดสอบหาข้อผิดพลาดจากการใช้งานจริง

 

- ทัพใหญ่ของ นีโอซีอ้อน บุกเข้าสู่โลก MSZ-010 ZZ Gundam ได้ช่วยชีวิต เอพิโอ พูรุ (Elpeo Plé)

 

-เรือรบอากาม่า ออกจากชายฝั่งตะวันตกของแอฟริกา ทีม Gundam ถูกแยกออกจากเรืออากาม่า เพื่อโจมตีทัพนีโอซีอ้อนที่เข้ายึดพื้นที่ในดาการ์ 

 

timeline-history-gundam-uc (43)

-ฮามาน คาร์น และ มิเนอว่า ซาบี้ มาที่ดาการ์ พร้อมประกาศชัยชนะ 

 

นีโอซีอ้อน มีแผนใช้โคโลนีพุ่งชนที่เมืองดับลิน และยังจัดส่งกองกำลังไปดับลินเพื่อข่มขู่ไม่ให้มีการอพยพ หรือรับความช่วยเหลือจากกองกำลังของสหพันธ์ แต่สมาชิกของ Gundam Team สามารถควบคุม Audhumala ได้ ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถช่วยชีวิตพลเรือนที่ ดับลินได้ทันเวลา แต่เหตุการณ์นี้ ทำให้ ฮายาโตะ โคบายาชิ , พูรุ และ ลูกเรือ Karaba บางส่วนเสียชีวิต

 

- เรือ เนลอากาม่า (Nahel Argama) เตรียมตัวขึ้นสู่สมรภูมิบนอวกาศอีกครั้ง 

 

 

timeline-history-gundam-uc (44)

U.C. 0089

- เรือเนลอากาม่าออกตัวเข้าสู่การรบโดยไม่รอทัพสหพันธ์ หรือทัพของ AEUG สนับสนุน และให้ จูโด้ อาชิตะ (Judau Ashata) แทรกซึมเข้าสู่ Core 3 และพยายามที่จะจับตัว มิเนอร์ว่า ซาบี้

 

- ฮามาน คาร์น และ โทโต้ เกลมมี่ เข้าสู่สนามรบ และได้ทำลาย La Vie en Rose ที่เข้ามาช่วยเนลอากาม่า

 

- การสู้รบถึงจุดสิ้นสุด AEUG เอาชนะ Neo Zeon ได้ โทโต้ เกลมมี่ , คาร์ล่า ซูน, มาชิมเร่ เซโร , ราคัน ดาคารัน , พูรุ 2 และ ฮามาน คาร์น เสียชีวิตในการรบ ส่วนมิเนอร์ว่า ซาบี้หายสาบสูญ 

 

- การขนส่งพลังงานของดาวพฤหัส ดำเนินการต่อ โครงการ Jupitris II ได้เริ่มต้นขึ้น

 

- ทางสหพันธ์โลกได้เข้าทำการจัดระเบียบการจัดการดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ เพื่อไม่ให้ซ้ำรอย Axis อีก พร้อมทั้งออกมาตรการคว่ำบาตรเหล่าโคโลนีที่ให้สนับสนุนการเคลื่อนไหวของชาวอวกาศ หรือกบฎกลุ่มต่างๆ

 

 timeline-history-gundam-uc (45)

U.C. 0090

- องค์กรต่อต้านสหพันธ์กลุ่มใหม่ๆ เช่น EGUM และ NSP (New Summer Project) เริ่มมีบทบาท 

 

- อาณานิคมอวกาศ Sweetwater ได้รับการออกแบบใหม่ให้กลายเป็นสถานที่ลี้ภัย

 

-กองทัพสหพันธ์ ได้มีการจัดตั้งหน่วยพิเศษชุดใหม่ที่เรียกว่า “ลอนโดเบล” (Londo Bell) เพื่อจัดการกับการเคลื่อนไหวของชาวอวกาศที่ต่อต้านสหพันธ์

 

 

U.C. 0091

- กลุ่ม NSP (New Summer Project) ประกาศยุติบทบาท จากมาตรการที่เข้มข้นในการกวาดล้างเหล่าผู้เห็นต่าง

 

- กองเรือของนีโอซีอ้อน เริ่มเคลื่อนทัพจากดาวพฤหัส

 

 

 

timeline-history-gundam-uc (46)

U.C. 0092

สำนักงานกองทัพสหพันธ์ย้ายไปอยู่ที่เมืองลาซาประเทศทิเบต  และได้มีการออกคำสั่งให้ “กัปตัน ไบรท์ โนอา” เข้าประจำการที่ “เรือรบราไคลั่ม” (Ra Cailum) สังกัดลอนโดเบล

 

-กองเรือของนีโอซีอ้อน ที่นำทัพโดย ชาร์ อัสนาเบิ้ล ได้เข้าครอบครองเขตลี้ภัย Sweetwater

 

 

 

 timeline-history-gundam-uc (30x)

U.C. 0093

ชาร์ อัสนาเบิล ประกาศสงครามกับสหพันธ์โลกผ่านสื่อทุกชนิด พร้อมกับพากองเรือรบของนีโอซีอ้อน เข้าควบคุมดาวเคราะห์น้อยที่ 5 Luna และทำให้มันพุ่งชนกับกองบัญชาการกองกำลังสหพันธ์ในลาซาประเทศทิเบต (เนื้อเรื่อง Mobile Suit Gundam: Char’s Counterattack)

 

 

-ในขณะเดียวกัน กองกำลังสหพันธ์ ก็มีการเปิดโต๊ะเจรจาสันติภาพนอกรอบ ที่อาณานิคม Londenion ของ ไซท์ 1 แต่ไม่เป็นผล

 

timeline-history-gundam-uc (47)

- ช่วงท้ายสงคราม นีโอซีอ้อนเข้าควบคุม Axis เตรียมพุ่งเข้าชนโลก แต่อามุโร่ เรย์ และทหารทั้งหมดพยายามดัน Axis ให้พ้นวิถีที่จะพุ่งชนโลกได้สำเร็จ 

 

-ชาร์ อัสนาเบิล และ อามุโร่ เรย์ หายสาบสูญ และไม่มีใครล่วงรู้ชะตากรรมของสองคนนี้อีกเลย

 

timeline-history-gundam-uc (48)

-หลังจากสงครามนีโอซีอ้อน หน่วยงานข่าวกรองและสถาบันวิจัยภายในกองกำลังสหพันธ์ กำลังก่อตั้ง “สถาบันพัฒนาวิจัยยุทธนาวี” หรือ SNRI (ซานารี่-Strategic Naval Research Institute) และวิจัยโมบิลสูท ที่สามารถควบคุมการผลิตได้ด้วยตัวเอง เพราะที่ผ่านๆมา ทางสหพันธ์ได้ใช้บริการของบริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ มาตลอด และก็เกิดข้อมูลรั่วไหล ถูกขโมย หรือถูกทำลายก่อนส่งมอบงานหลายต่อหลายครั้ง (บริษัท ซิมแมดส์ , ซีโอนิคส์ หรือบริษัทอื่นๆ ก็เอาเทคโนโลยีของอนาไฮม์มาต่อยอดปรับปรุง หรือแม้กระทั่งซื้อขายแปลนต้นแบบกัน มีส่วนที่ทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้)

 

 

timeline-history-gundam-uc (51)

U.C. 0096

-อนาไฮม์ อเลคโทรนิคส์ ได้ทำการวิจัยโมบิลสูทร่วมกับมูลนิธิวิสท์ ในโปรเจคท์  UC โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การพัฒนา RX-0 Unicorn Gundam โมบิลสูทที่ติดตั้ง  psycoframe เต็มรูปแบบ แต่ระหว่างการทดสอบ MSN-06S Sinanju Stein หุ่นรบประสิทธิภาพสูงจากการเก็บข้อมูลของ Sazabi และ Nu Gundam ในสงครามนีโอซีอ้อน ก็ถูก ฟูล ฟรอนทัล และกลุ่มปลอกแขนเสื้อ (The Sleeves) ขโมยไป 

 

- เกิดข้อพิพาทกรณีกล่องแห่งลาพลัส  (เนื้อเรื่องMobile Suit Gundam Unicorn)

 

timeline-history-gundam-uc (5)

-มิเนอร์ว่า ซาบี้ ปรากฎตัวอีกครั้งในนาม  ออเดรย์ เบิรนส์ โดยเจตนาคือ มาเจรจากับ ฟูล ฟรอนทัล ผู้นำกลุ่มปลอกแขนเสื้อ หรือ The Sleeves ที่เชื่อมั่นในอุดมคติของ ชาร์ อัสนาเบิล และฟื้นฟูกองกำลังนีโอซีอ้อน แต่การเจรจาไม่เป็นผล

 

 

 

U.C. 0100

- สาธารณรัฐซีอ้อนประกาศยุติบทบาทการเคลื่อนไหวทางการเมือง การทหารทั้งหมด คืนอำนาจให้ประชาชน และสหพันธ์โลกก็ประกาศยุติสงครามทั้งหมดเช่นกัน เพื่อยุติความบาดหมาง แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนที่อยู่บนโลก และอวกาศอย่างเท่าเทียม

 

 

U.C. 0102

- จากบทเรียนของสงครามครั้งก่อน ทาง SNRI เสนอให้รัฐบาลสหพันธ์โลก “ลดขนาดโมบิลสูทลง” แต่มตินี้ไม่ผ่านสภาสหพันธ์โลก…

 

 

timeline-history-gundam-uc (54)

U.C. 0103

- องค์กรต่อต้านสหพันธรัฐ “มาฟตี้” (Mufti) ทำลายดาวเทียมสอดแนมวงโคจร (เนื้อเรื่องในนวนิยาย Mobile Suit Gundam: Hathaway’s Flash  **ถูกจัดเป็น Non Canon บางคนจะนับไทม์ไลน์ช่วงนี้ หรือไม่นับก็ได้**)

 

 

U.C. 0104

- รัฐบาลสหพันธ์โลก ก่อตั้ง “หน่วยสืบราชการลับ Man-Hunter Agency” (MaHA) มีหน้าที่สืบค้น สอดแนม และวางมาตรการระวังผู้ที่มีแนวโน้มต่อต้านรัฐบาล

 

 

U.C. 0105

- โมบิลสูท Penelope ที่ติดตั้งด้วย MCS เดินทางจากพื้นผิวดวงจันทร์ไปยังประเทศออสเตรเลีย ในขณะที่กลุ่มมาฟตี้ เริ่มเคลื่อนไหวชัดเจนมากขึ้น ในเหตุก่อความไม่สงบในแต่ละครั้ง รวมไปถึงการโจมตีโรงแรม Tasaday ในออสเตรเลีย 

 

timeline-history-gundam-uc (53)

- มีการต่อสู้กันระหว่าง Ξ Gundam และ Penelope ที่ทะเลใกล้เกาะ Halmahera ใน Moluccas ประเทศอินโดนีเซีย

 

- มีการเรียกร้องให้รัฐบาลสหพันธ์โลก ลดบทบาทของ “หน่วยสืบราชการลับ Man-Hunter Agency”  พร้อมทั้งมีการเรียกร้องให้เพิกถอนการแก้ไขอำนาจสืบสวนของสหพันธรัฐอย่างไม่เป็นธรรม 

 

-  เกิดการโจมตีสภาคองเกรสระดับกลาง ของสหพันธ์สมาชิกในแอดิเลด ออสเตรเลีย 

 

timeline-history-gundam-uc (52)

- RX-105 Ξ Gundam ถูกหยุดการทำงาน และสามารถจับกุมตัวผู้นำกลุ่มมาฟตี้  “มาฟตี้ นาบียู เอริน”  (Mufti Nabiyu Erin) หรือตัวจริงก็คือ “ฮาซาเวย์ โนอา” ลูกชายของ กัปตันไบรท์ โนอา และ มิไร ยาชิม่า บุคคลที่อยู่ในยุคสงคคราม 1 ปีนั่นเอง

 

ฮาซาเวย์ โนอา ถูกตัดสินให้ประหารชีวิต การเคลื่อนไหวของกลุ่มมาฟตี้ ไม่มีการออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มเติม

 

- จากความเสียหายของบ้านเมือง สิ่งปลูกสร้าง ชีวิต และทรัพย์สินทั้งของรัฐบาล และเอกชน ที่โมบิลสูทขนาดใหญ่กำลังเครื่องสูง พ่วงออปชั่นสุดโหด ได้สร้างไว้ในสงครามหลายต่อหลายครั้ง ทำให้รัฐบาลสหพันธ์โลกเริ่มออกมาตรการ “โมบิลสูทขนาดเล็ก” ขึ้น อีกทั้งยังพยายามบีบบังคับให้ บริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ ที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาทางธุรกิจกับรัฐบาลสหพันธ์ ปรับลดขนาดลงเช่นกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยบของทาง SNRI ที่เคยยื่นมติโมบิลสูทขนาดเล็กเข้าที่ประชุมสภาเมื่อหลายปีก่อน…

 

 

U.C. 0106

- รัฐบาลสหพันธ์ มีกำหนดเปิดโครการสร้างโคโลนีอีกครั้ง หลังจากสูญเสียโคโลนีไปจากสงครามเมื่อหลายสิบปีก่อน และเพื่อรองรับประชากรมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น

 

- บริษัท Buch Aerodynamics ได้แอบสร้างกองกำลังพิเศษที่เรียกว่า Crossbone Vanguard

 

 

U.C. 0108

- เปิดตัวโมบิลสูทขนาดเล็ก Dessa type ผลงานของ Buch Aerodynamics เป็นครั้งแรก

 

 

timeline-history-gundam-uc (49)

U.C. 0111

- SNRI ประสบความสำเร็จในการสร้างกันดั้ม Formula ซีรี่ส์ “F90 Gundam” ตัวเล็กประสิทธิภาพสูงรุ่นแรก 

 

- รัฐบาลสหพันธ์ ได้ตัดสินใจเกี่ยวกับการพัฒนาโมบิลสูทยุคใหม่  โดยเลือก “MS Formula” ซีรี่ส์ (F90) ของ SNRI แทน MSA-120 ของบริษัทอนาไฮม์

 

 

 

timeline-history-gundam-uc (50)

U.C. 0116
- SNRI เปิดตัวโมบิลสูทขนาดเล็ก F91 Gundam

 

 

 

*****ยังไม่จบ เดี๋ยวมาต่อ…อยากอ่านต่อเร็วๆ มาคอมเม้นท์ทิ้งไว้ได้เลย****

 

 

แอดมิน AK47

 

 

เครดิตข้อมูล

Mobile Suit Gundam: The Origin 

 Mobile Suit Gundam: The Origin 

Gundam Archives on Gundam.Info

Universal Century on GundamOfficial (Archived)

 

 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

เรื่องย่อ Mobile Suit Gundam ฉบับ TV Series ทุกภาค

List of Mobile Suit Gundam on TV Series_02

 

 

รวมข้อมูลของกันดั้มยุค U.C. ที่ควรรู้

 

 

รวมข้อมูลของ GUNDAM รหัส RX-78 ทั้ง 31 ตัว!

 

10 ฉากในความทรงจำของกันดั้มแต่ละภาค

Top Scene in Mobile Suit Gundam Series_06

 

Mobile Suit Gundam F91 [เรื่องย่อ / MS]

F91 (23)

 

 

10 การตายของตัวละครสุดสะเทือนใจใน Gundam Series

top gundam epic death scenes_Cover