แนว : Action , Drama

ดัดแปลงจากบทประพันธ์ดั้งเดิมของ :Masashi Kishimoto

ผู้กำกับ : Tsuneo Kobayashi

บทโทรทัศน์ : Masashi Kishimoto

ผลิตโดย :Studio Pierrot/ Shueisha / TV Tokyo

ฉายที่ญี่ปุ่น :6 ธันวาคม 2014

กำหนดฉายในไทย : 26 กุมภาพันธ์ 2015

เรื่องราวของเจ้าหนูนินจาผู้อาภัพ สู่การเป็นฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ในวิถีแห่งนินจาก็ได้ปิดฉากลงไปแล้วในฉบับหนังสือการ์ตูน กับ “นินจาคาถา นารูโตะ” ที่อยู่คู่กับเด็กจนถึงทุกวั้นนี้ นับเวลาก็ผ่านมา 15 ปีเต็มๆ แต่ถึงอย่างนั้น บทสรุปของเรื่องราวของนารุโตะ อาจจะสร้างความคาใจเล็กๆแก่ผู้ที่ได้อ่าน และดูเหมือนว่า อ.มาซาชิ ผู้วาด อยากจะเล่าเรื่องราวที่หายไปในช่วงก่อนตอนอวสานของการ์ตูนที่เขาวาดมากับมือ จึงได้เกิด “โปรเจคท์สั่งลา” กับอนิเมชั่นฉายโรงที่มีชื่อชวนใจหายแก่แฟนๆว่า“THE LAST : Naruto the Movie นารูโตะ เดอะ มูฟวี่ ปิดตำนานวายุสลาตัน”

เรื่องย่อ

หลังจากจบศึกสุดท้ายในช่วงสงครามโลกนินจา ระหว่างซาสึเกะ และนารุโตะ ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ตอนนั้น เป็นช่วงฤดูหนาวของหมู่บ้านโคโนฮะ…แน่นอนว่านารุโตะในวัยหนุ่ม ที่พ่วงตำแหน่ง “ฮีโร่ของหมู่บ้าน” ย่อมได้รับความสนใจจากสาวๆเป็นพิเศษ แต่นารุโตะก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เพราะเขาคิดถึงคนที่รอเขาอยู่… “ฮินาตะ” แต่ความกล้าของฮินาตะอันน้อยนิด ก็ไม่อาจสื่อไปถึใจของนารุโตะได้

เรื่องราวคู่รักนินจา ที่หลายๆคนลุ้นกันมานานนับปี จะมีจุดลงเอยอย่างไรกันนะ!?

ทันใดนั้น “โอสึสึกิ โทเนริ” ชายผู้อ้างว่าเป็นทายาทของ “คางุยะ” นางมารร้ายแห่งดวงจันทร์ที่ดับสูญไปจากสงครามครั้งก่อน ก็ปรากฎตัวขึ้น พร้อมกับใช้วิชาเซียนหกวิถี ดึงเอาดวงจันทร์หมายจะมาชนโลก และมีเป้าหมายในการจับตัวฮินาตะไป แต่นารุโตะมาถึงทันเวลาเสียก่อน โทเนริจึงหายไป

โทเนริ ชายหนุ่มปริศนาที่จะมาทำลายโลกด้วยวิชาเซียนหกวิถี และชิงตัวของฮินาตะไปด้วยจุดประสงค์บางอย่าง…

“โฮคาเงะรุ่นที่หก” หรือ “ฮาตาเกะ คาคาชิ” ได้ออกคำสั่งรวมพลนินจาผ่านศึก เพราะได้รับรายงานมาว่าดวงจันทร์เข้าใกล้โลกมากขึ้นทุกทีถ้าช้าเกินการ อาจทำให้โลกทั้งใบถึจุดจบได้ในที่สุด

พวกนารุโตะ และพลพรรคนินจาโคโนฮะ จะหยุดโทเนริได้สำเร็จหรือไม่ ศึกนี้จะเป็นศึกสุดท้าย ที่มีชะตากรรมของโลก และความรักของนารุโตะกับฮินาตะเป็นเดิมพัน! 

ตัวละคร

แอดมินคงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมาก กับตัวละครหน้าเดิมๆ ที่เหล่าแฟนๆนารุโตะไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นใคร (เพราะเปลี่ยนแค่ทรงผมเสื้อผ้าเท่านั้น) ดังนั้น ขอแนะนำแค่ตัวเด่นๆที่มีบทบาทในมูฟวี่ชุดนี้ละกันครับ

อุซึมากิ นารุโตะ

 หลังจบศึกกับซาสึเกะ เขาก็กลายเป็นนินจาหนุ่มที่เป็นที่นิยมของสาวๆในหมู่บ้านไปแล้ว แต่เจ้าตัวเองกลับไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพราะในใจของเขาเริ่มเอนเอียงไปหาฮินาตะอย่างเต็มที่แล้ว และการมาของโทเนริ ก็เป็นเครื่องมือพิสูจน์รักแท้ของทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี

ฮิวงะ ฮินาตะ

ผู้ใช้เนตรสีขาวจากตระกูลฮิวงะ มีความรู้สึกดีๆ ให้กับนารูโตะมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่โรงเรียนนินจา และความรู้สึกนั้นก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ด้วยความอ่อนโยน ขี้อาย และน่ารักนั่นเอง ที่ทำให้ถูกจัดว่าเป็นหญิงสาวในฝันของใครหลายๆคนเลยก็ว่าได้ แต่เห็นว่าเวลาเอาจริงขึ้นมา “ต่อให้โหมดเซียนของนารุโตะก็ไม่แน่ว่าจะหยุดฮินาตะได้!?” จัดว่าเป็น “ว่าที่มนุษย์เมียที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี” ไปแล้ว…

อุจิฮะ ซาสึเกะ

อดีตศัตรูตัวฉกาจ ที่เป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของนารูโตะมาตลอดแต่หลังจบสงครามโลกนินจา เขาก็ออกเดินทางรอบโลก ปัจจุบันเขามีดวงตาข้างขวาเป็นเนตรวงแหวน และตาข้างซ้ายเป็นเนตรสังสาระ

ฮาตาเกะ คาคาชิ

  “ครูคาคาชิ” ของเหล่านักเรียนนินจาโคโนฮะผู้เฉื่อยชา แต่หลังจากการต่อสู้ที่ผ่านๆมาทำให้ผู้คนได้เห็นว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากๆ จนทุกคนยอมรับ และยกตำแหน่งโฮคาเงะให้เขาต่อจากซึนาเดะ ถึงแม้แรกๆ จะมีบางส่วนที่กังขาต่อความสามารถด้านพลังต่อสู้ สำหรับการเป็นโฮคาเงะของเขา แต่ก็ทดแทนด้วยทักษะการคิดและวิเคราะห์ บวกกับการใช้งานคนได้เหมาะกับภารกิจ และยังมีความรอบคอบสูง จึงทำให้ข้อกังขาดังกล่าวตกประเด็นไปเลย…

ตัวละครอื่นๆก็ตามภาพเลยครับ ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี…

ครอบครัวสุขสันต์ “โบลท์”(ลูกชาย) และ “ฮิมาวาริ” (ลูกสาว) 

ภาพออกแบบตัวละครเจ้าโตะในภาคนี้ สารภาพว่าเห็นมันผมเกรียนๆครั้งแรกแล้วรู้สึกแปลกๆชะมัด!

“THE LAST : Naruto the Movie นารูโตะ เดอะ มูฟวี่”  ปิดตำนานวายุสลาตัน”ภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างตอนที่ 699 (ตอนจบศึกภาคหลัก) และตอนที่ 700 (ตอนจบสรุปเรื่องราวชีวิตในอนาคตของเหล่านินจาแห่งโคโนฮะ) ซึ่งอาจารย์ Masashi Kishimotoที่เป็นผู้เขียนเรื่องนี้นั้นจะมารับหน้าที่วางเค้าโครงเรื่อง และดูแลในส่วนเนื้อหา รวมทั้งออกแบบคาแรคเตอร์ใหม่ของมูฟวี่นี้เองอีกด้วย ดังนั้นในภาคนี้ จะเป็นการเติมเต็มชีวิตของนารูโตะที่จะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ได้สมบูรณ์แบบ ดั่งที่แฟน ๆ รอคอยมาตลอด 15 ปีนั่นเอง 

ตัวหนังเรื่องนี้ได้เข้าฉายในญี่ปุ่นวันที่ 6 ธันวาคม 2014 ที่ผ่านมา บางส่วนที่ได้ชม ก็ออกมาการันตีว่า “สมบูรณ์แบบสมกับเป็นThe Movieภาคสุดท้าย” ทั้งงานภาพ ฉากต่อสู้ เพลงประกอบที่ลงตัวสุดๆ ส่วนบ้านเราก็รอชมได้เลย เพราะทางโรสมีเดียจัดให้สาวกนินจาคาถาได้ชมกันในวันที่26 กุมภาพันธ์ 2015ในโรงภาพยนต์ที่เข้าร่วมครับ ส่วนจะมีดรงไหน แอดมินจะรีบนำข่าวมาเสนอในโอกาสต่อไปครับผม!!

 ตัวอย่างภาพยนตร์ 

แอดมิน Ak Fourtyseven