Samsung Galaxy Note 9 

ราคา 33,900 บาท

หน้าจอ :  6.4  นิ้ว ความละเอียด Quad HD+ 2960 x 1440 พิกเซล Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) 516 ppi  Corning Gorilla Glass 5 

CPU : Exynos 9810 Octa Core  ความเร็ว : 2.7 GHz (แต่เวอร์ชั่นต่างประเทศจะเป็น SnapDragon)

RAM : 8  GB

ความจุ :  128 GB และรุ่น  512 GB

รองรับ microSD สูงสุด 512 GB

กล้องหลัง : 12 + 12 ล้านพิกเซล (Dual Camera)
- รูรับแสงขนาด ƒ/1.5
- ไฟแฟลช LED
- ซูมออฟติคอล 2 เท่า (2x Optical Zoom)
- โฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus)
- แตะเลือกจุดโฟกัส (Touch Focus)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล (OIS)
- ค้นหาใบหน้าอัตโนมัติ (Face Detection)
- โหมดหน้าสวย (Face Beauty)
- โหมดถ่ายภาพพาโนราม่า (Panorama)

กล้องหน้า :  ความละเอียด 8 MP / รูรับแสงขนาด ƒ/1.7

บันทึกวีดีโอที่ความละเอียดสูงสุด  4K 60Fps

เซนเซอร์ : ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ (Finger Print) / ระบบจดจำใบหน้า (Face Detection)

แบตเตอรี่ : 4000 mAh  สนับสนุน Wireless Charger

ระบบปฏิบัติการพื้นฐาน Android 8.0 (OREO) ครอบด้วยระบบ Samsung UX

ฟีเจอร์เสริม  - ใช้งาน Nano-SIM / รองรับ 2 ซิมการ์ด 

มีสีให้เลือก (Colors) : Black, Blue, Purple, Orange

เรียกว่าเปิดตัวกันไปอย่างฮือฮาแล้ว กับสุดยอดอัลติเมทสมาร์ทโฟนเรือธงของทาง Samsung ประจำปี 2018 อย่าง Samsung Galaxy Note 9 มาดูกันเลยว่า Note 9 มีอะไรเด็ดๆบ้าง

ดีไซน์ของตัวเครื่อง

ตัวเครื่องมีหน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว เพลิดเพลินไปกับมุมมองที่เต็มตา และเสริมความคมชัดด้วยความละเอียด Quad HD+ 2960 x 1440 พิกเซล  Super AMOLED 24-bit (16 ล้านสี) 516 ppi  รองรับการวาดเขียนที่ต้องใช้พื้นที่มากขึ้น พร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนม่านตาด้านบนถูกซ่อนไว้เพื่อไม่ให้รบกวนสายตาระหว่างการใช้งาน อีกทั้ง Galaxy Note9 สามารถปรับความคมชัดให้พอดีกับแสง ไม่ว่าจะเป็นในร่ม หรือกลางแดด

ตัวเครื่องประกอบจากโลหะมีเส้นผ่านตามแนวขอบ เหมือนเหลี่ยมเพชร เพิ่มความหรูหราในแง่ดีไซน์ และกล้องด้านหลังฝังกับฝาหลังเพื่อเพิ่มความเรียบเนียนรอบด้าน เพื่อการจับที่จับถนัดมือ 

กล้องถ่ายภาพ

ตัวเครื่องมี กล้องคู่ความละเอียด 12MP +12 MP  มาพร้อมเลนส์ซูม 2 เท่า (เลนส์มุมแคบ และเลนส์มุมกว้าง) และมีกันสั่น OIS แบบคู่ ทำให้อาการมือสั่น หรือการเดินไปถายรูปไป ทำได้ชัดมากขึ้น ไม่เบลอ

ระบบการถ่ายภาพของ Note9 มีหลายๆท่านตั้งข้อสังเกตุว่าแทบจะไม่ต่างจาก Note 8 ในส่วนของภาพนิ่ง รูรับแสงคู่ที่ถูกอัพเกรดให้เหมาะสมกับแสงโดยรอบเหมือนดวงตามนุษย์ มีให้เลือกสองโหมดโฟกัสระหว่าง F1.5 เมื่อต้องถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้สว่างขึ้น และโหมด F2.4 ซึ่งเหมาะสำหนับท่านที่ใช้โหมด Pro ไม่สะดวก หรือชอบโหมดอัตโนมัติที่ใช้งานง่าย แค่ยกกล้องถ่ายได้เลย โดยทั้งสองโหมด  (F1.5 และ F2.4)  มีในเลนส์กว้างของกล้องหลังติดมาด้วยในตัว

ระบบ HDR ของ Note 9 ได้ยกระดับไปจากรุ่นก่อนหน้า ที่สามารถลด Noise เม็ดทรายในแสงน้อย ถ่ายภาพให้คมชัด เก็บรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น  หลักการทำงานของกล้องหลังของ Note9 คือการลั่นหลายๆรูปพร้อมกัน และนำมารวมหาค่าสี แสงที่ดีที่สุด และออกมาเป็นภาพ ซึ่งใช้เวลาไม่กี่วินาทีเท่านั้น

ส่วนกล้องหน้า สามารถเก็บภาพกว้างได้ถึง 10 เมตร และลั่นชัตเตอร์ได้ด้วยการกดปุ่มที่ S Pen ปากการอัจฉริยะตัวใหม่ที่มาในรุ่นนี้อีกด้วย

ส่วนวิดิโอของ Note 9 จะสามารถถ่ายภาพความคมชัดสูงสุดแบบ 4K  60 FPS และถ่ายวิดิโอสโลว์โมชั่นได้ 960 FPS 

ประสิทธิภาพในการเล่นเกม

ด้วย CPU ที่เร็วขึ้น 53%…GPU ที่เร็วขึ้น 23% และ RAM 8GB ปรับแต่งมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ ทำให้การเล่นเกมเป็นไปได้อย่างลื่นไหล บวกกับประสิทธิภาพของแบตเตอร์รี่ที่มีมาให้ถึง 4,000 mAh พร้อมจุดขาย “ระบบระบายความร้อนด้วยคาร์บอน” ที่จะช่วยกระจายความร้อนเพื่อระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ระบบ Smart Performance Adjuster จะปรับประสิทธิภาพของเกมโดยอัตโนมัติ รันกราฟฟิก 3 มิติโหดๆอย่าง Unreal 4 ที่เป็นปัญหาของเกมเมอร์ ก็ทำได้ไม่มีสะดุด และคาดการณ์ได้ว่า เป็นเครื่องที่สามารถเล่นได้ทุกเกม ณ เวลานี้  รวมไปถึงฟังก์ชั่นเก่าๆอย่างการปิดการแจ้งเตือน หรือ Gaming Mode ก็ยังคงมีอยู่เช่นเคย…

S-Pen ของที่ Note Series ขาดไม่ได้!

ปากกาอัจฉริยะ S Pen จัดว่าเป็นไอเทมเชิดหน้าชูตาของจักรวาลโน๊ตมาโดยตลอด ด้วยการรองรับแรงกดที่สามารถให้ลายเส้นที่ใกล้เคียงกับการใช้ปากกาหรือดินสอจริงๆ โดยใน Note 9 ตัวนี้ จะรองรับแรงกดได้มากถึง 4096 ระดับ อีกทั้งยังสามารถใช้สั่งการสไลด์โชว์ โดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์ เมื่อเชื่อมต่อกับ DEX อุปกรร์เชื่อมต่อจอ มอนิเตอร์ หรือโปรเจคเตอร์ รองรับการสั่งการแอพลิเคชั่นจากระยะไกล (10 เมตร) หรือใช้กดลั่นชัตเตอร์เพื่อการถ่ายภาพ ทั้งกล้องหลัง และเซลฟี่

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้จดบันทึกสิ่งต่างๆ ในขณะที่หน้าจอดับ เพียงแค่ชักปากกา จดได้เลย ไม่ต้องปลดล๊อกโทรศัพท์ โดยสีของลายเส้น จะเป็นสีเดียวกับสีปากกา

เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของทาง Samsung แล้ว ในเวลานี้ ถึงแม้ว่าบางอย่างจะถูกอัพเกรดมาจาก Note 8 เพียงเล็กน้อย เอาเป็นว่างานนี้ ถ้าใครมีตังค์เหลือใช้ ก็จัดมาได้เลย…สนนราคาเครื่องเปล่า ที่  33,900 บาท เท่านั้นเอง

แอดมิน Ak47