รวมคำศัพท์ที่น่ารู้ที่ได้ยินบ่อยๆ ในการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่น
19 มกราคม 2560 17:09 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Japanese_Vocabulary_Through_Anime_01

 

สำหรับใครที่ชื่นชอบการดูอนิเมะหรือคนไหนที่เพิ่งจะเริ่มสนใจอนิเมะ  อาจจะไม่ค่อยเก็ทคำศัพท์บางคำที่ตัวละครภายในเรื่อง  บทความนี้จะขอนำเสนอ “รวมคำศัพท์ที่น่ารู้ที่ได้ยินบ่อยๆ ในการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่น” ให้ได้อ่านกัน 

 

ส่วนจะมีคำอะไรบ้างนั้นลองมาอ่านกันได้เลย!!

 

 

 

Anime

 

Japanese_Vocabulary_Through_Anime_02

 

 

คำว่า “อนิเมะ” มาจากคำว่า Animationในภาษาอังกฤษ  ส่วนรากศัพท์ของคำว่าแอนิเมชั่นนั้นก็มาจากภาษาลาตินอีกที  หมายถึง “ภาพที่เคลื่อนไหวไปมา” โดยคำว่า “อนิเมะ” ได้กลายเป็นคำใช้เรียกการ์ตูนแอนิเมชั่นของทางฝั่งญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นมาทั้งหมด  คนที่ดูการ์ตูนแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นจึงมักจะพูดกันติดปากว่า “อนิเมะ” (アニメ) นั่นเอง

 

 

 

 

 

Oneechan

 

 

รูปจากเรื่อง : Chuunibyou demo Koi ga Shitai 

 

 

(お姉さん) คำนี้ใช้เรียก “พี่สาว” ที่อายุมากตัวเอง  ซึ่งจะใช้เรียกคนในครอบครัวหรือคนรู้จักที่อายุมากกว่าก็ได้

 

 

 

 

Onichan

 

 

รูปจากเรื่อง : Himouto! Umaru-chan

 

 

(お兄さん) นี้ใช้เรียก “พี่ชาย” ที่อายุมากตัวเอง  ซึ่งจะใช้เรียกคนในครอบครัวหรือคนรู้จักที่อายุมากกว่าก็ได้เช่นกัน

 

 

 

 

Neesan

 

 

รูปจากเรื่อง : Haikyuu 

 

 

(姉さん) คำนี้ใช้เรียกผู้หญิงที่อายุมากกว่า  คล้ายๆ กับคำว่า “เจ๊” นั่นแหละ 

 

 

 

 

Aniki

 

 

รูปจากเรื่อง : Tengen Toppa Gurren Lagann

 

 

(アニキ) คำนี้ใช้เรียกผู้ชายที่อายุมากกว่า  คล้ายๆ กับคำว่า “ลูกพี่” นั่นเอง

 

 

 

 

 

Siscon 

 

 

รูปจากเรื่อง : Danchigai

 

 

คำว่า “ซิสค่อน” มาจากคำเต็มคือ Sister Complex”ที่หมายถึง “คนที่ชื่นชอบน้องสาวหรือพี่สาวตัวเอง” ซึ่งซิสค่อนอาจมองได้ว่าเป็น “อาการป่วยทางอารมณ์” ที่แสดงออกทางความรักต่อคนในสายเลือดเดียวกัน  คนทั่วไปอาจจะมองได้ว่าเป็นความรักที่ค่อนข้างหนักไปทางผิดศีลธรรม  แต่หากมองในมุมกลับแล้ว… นี่เป็นความรักที่อาจจะดูบริสุทธิ์ยิ่งกว่าความรักแบบคู่รักทั่วๆ ไป  และไม่จำเป็นต้องมีเรื่องของการล่วงประเวณีต่อกันก็ได้ 

 

 

คำว่า Siscon  จึงเป็นคำที่อยู่ในประเภทเดียวกันกับคำว่า Incest หมายถึงคนในครอบครัวเดียวกันที่มีความเกี่ยวดองกันทางประเวณี

 

 

 

 

 

Bracon

 

 

รูปจากเรื่อง : Mahouka koukou no rettousei

 

 

คำเต็มๆ คือ Brother Complex ซึ่งคำนี้ก็เหมือนกับคำว่า ซิสค่อน แต่มีความหมายคือ “คนที่ชื่นชอบพี่ชายหรือน้องชายของตัวเอง”

 

 

แต่ถ้าเป็นคำศัทพ์ทางการเกษตร คำว่า Bracon จะหมายถึง “Bracon hebetor” ที่เป็นแมลง แตนเบียนหนอน” นะเอ้อ… 

 

 

 

 

 

ค้ำคอร์

 

 

รูปจากเรื่อง : Yosuga no Sora

 

 

คำนี้เป็นศัพท์เฉพาะที่เรียกกันโดยคนไทยเอง  หมายถึงความรักระหว่างพี่น้องสายเลือดเดียวกัน  คำว่า “ค้ำคอร์” ก็คือ “ค้ำคอ” นั่นแหละ  แค่เติม “ร์” ไว้หลังประโยคเท่านั้น  ซึ่งมีประโยคหนึ่งที่กล่าวว่า “ศีลธรรมมันค้ำคอร์ (ค้ำคอ)” นั่นเอง

 

 

ส่วนที่มาของคำนี้มาจากเรื่อง Yosuga no Sora ที่มีเนื้อหาเกี่ยวความรักทางสายเลือดของคู่ฝาแฝดชายหญิง

 

 

 

Obacon

 

 

รูปจากเรื่อง : Onegai Teacher

 

 

คำนี้ใช้กับคนที่ชื่นชอบผู้หญิงที่อายุมากกว่าตัวเอง  ให้ความรู้สึกที่ออาจจะมากกว่าพี่สาวหรือคุณแม่ก็ได้

 

 

 

 

Ojicon

 

 

รูปจากเรื่อง : Ristorante Paradiso

 

 

คำนี้ใช้กับคนที่ชื่นชอบผู้ชายที่อายุมากกว่า  ให้ความรู้สึกที่ออาจจะมากกว่าพคุณอาหรือคุณพ่อก็ได้เช่นกัน

 

 

 

 

 

Otaku

 

 

(オタク) คำนี้ใช้เรียกกับคนที่มีความสนใจแบบคลั่งไคล้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง  เช่น การ์ตูน, เกม หรือของเล่น หรืออะไรก็ตามแต่อย่างรู้ลึกและเข้าใจถึงแก่นแท้ของๆ สิ่งนั้นแบบถามได้ตอบได้ (Otaku จึงมีความคล้ายกับคำว่า Mania ในภาษาอังกฤษ) แต่ส่วนใหญ่คำว่า “โอตาคุ” มักจะรู้จักกันในเชิงของคำแสลง  ลักษณะร่วมของคนที่ดูเป็นโอตาคุส่วนใหญ่ที่เหมือนกันคือ “จะเป็นคนที่ดูอ้วนลงพุง สะพายเป้ใบใหญ่ ไว้ทรงผมหน้าม้ากะลาครอบ ใส่แว่น สิวเต็มหน้าและตัวเหม็น” ซึ่งจริงๆ แล้วอิมเมจของโอตาคุไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีลักษณะร่วมแบบนั้นเสมอไป  เพราะบางทีสาวน่ารักๆ ก็เป็นโอตาคุได้เช่นกัน

 

 

คนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้จักหรือไม่เข้าใจอาจจะมองว่าโอตาคุดูเป็นพวกคนที่ดูน่ารังเกียจและมีบุคลิกที่ดูผิดปกติกว่าคนอื่นทั่วๆ ไป  บางครั้งการพูดคุยกับโอตาคุจึงมักจะเข้าใจได้ยาก  เพราะพวกเค้าจะพูดด้วยคำบางคำที่ไม่ค่อยเข้าใจ แยกไม่ออกระหว่างความเป็นจริงกับการ์ตูน  แถมยังไม่สนใจผู้หญิงจริงๆ รักเพียงแค่สาวที่อยู่ในการ์ตูนหรือเรียกว่า “สาว 2Dเท่านั้น (ผู้หญิงจริงๆ จะถูกเรียก“สาว 3D) แต่หากมองให้ลึกๆ แล้ว  พวกเขามีความสามารถและความรู้เฉพาะทางที่สูงมากในสิ่งที่ตนเองชื่นชอบและคลั่งไคล  ถ้าถามอะไรที่เขารู้จักด้วยแล้ว  อาจจะได้ข้อมูลที่เหนือกว่าที่เคยรู้ก็ได้  

 

 

 

 

 

Lolicon

 

 

รูปจากเรื่อง : Black Bullet กระสุนมรณะ นัยน์ตาอสูร 

 

 

(ロリコン) เป็นคำสแลงที่มาจากคำว่า Lolita complex ใช้เรียกคนที่ชื่นชอบเด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าตัวเอง  โดยคำนี้มาที่มาจากนวนิยายเรื่อง โลลิต้า” (Lolita) ที่แต่งโดย วลาดีมีร์ นาโบคอฟ นักเขียนชาวรัสเซียในปี ค.ศ. 1955  ที่มีเนื้อหากว่าถึง ฮัมเบิร์ต ชายวัยกลางคนที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ เดอลอร์ส เฮซ เด็กผู้หญิงที่มีอายุเพียง 12 ปีที่เป็นลูกบุญธรรมของตัวเอง 

 

 

เด็กผู้หญิงที่มีลักษณะเป็นโลลิค่อน  จะตัวเล็กๆ น่ารัก  ตาโตๆ และไร้เดียงสา  ดังนั้นใครที่ชอบเด็กก็ควรจำกัดความชอบของตัวเองเอาไว้ให้อยู่ในกรอบที่พึงควรเน้อ… ไม่งั้น “คุก” แน่นอน

 

 

 

Shotacon

 

 

รูปจากเรื่อง : Magi

 

 

คำนี้คล้ายๆ กับโลลิค่อนแต่ใช้เรียกคนที่ชื่นชอบ “เด็กผู้ชาย” ตัวเล็กๆ น่ารัก  ไร้เดียงสา

 

 

 

 

 

Moe

 

 

รูปจากเรื่อง : Gochuumon wa Usagi Desu ka?

 

 

(萌え) คำนี้มักจะใช้เรียกอะไรก็ตามที่ดูน่ารักๆ ใสๆ โดยทั่วไปจะใช้เรียกเด็กผู้หญิงที่ดูโมเอะน่ารักแบบใสๆ ไร้พิษภัย

 

 

 

 

Tsudare

 

 

(ツンデレ) คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกการแสดงอารมณ์และความรู้สึกในลักษณะเชิง “ปากไม่ตรงกับใจ” พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและมักจะชอบทำอะไรๆ ที่ส่วนทางกับความคิดของตัวเอง  ซึ่งการแสดงออกแบบนี้จะเป็นลักษณะการเก็บกั้นความเขินอายเอาไว้นั่นเอง    

 

 

 

 

Yandere

 

 

รูปจากเรื่อง : School Day 

 

 

(ヤンデレ) คำนี้เป็นคำที่ใช้เรียกการแสดงอารมณ์และความรู้สึกในลักษณะเชิง “หึงหวง” เกิดขึ้นกับตัวละครที่รักใครสักคนและมีการแสดงออกในแบบที่รุนแรง   บ้างครั้งถึงขั้นหึงโหดเลือดสาดเลยก็มีให้เห็น 

 

 

 

 

Desuwa

 

 

รูปจากเรื่อง : Infinite Stratos ปฏิบัติการรักจักรกลทะยานฟ้า

 

 

คำนี้ก็คือ Desu(です) ที่แปลว่า “ค่ะ” นั่นแหละ  แต่มีตัวอักษร Wa”(は) พ่วงหลังมาด้วย  (です) ส่วนใหญ่จะได้ยินจากตัวละครสาวๆ ที่ดูเป็นกุลสตรีหรือพวกคุณหนูสูงศักดิ์

 

 

 

 

Yuri

 

 

รูปจากเรื่อง : Kannazuki no Miko (มิโกะ คนทรงหุ่นเทวะ)

 

 

นี้ใช้เรียกการ์ตูนแนว “หญิงรักหญิง” ที่ในเรื่องจะมีตัวละครหลักดำเนินเรื่องเป็นผู้หญิง  การ์ตูนแนวยูริมักจะนำเสนอความรักของเพศเดียวกัน  และอาจจะมีเรื่องของการร่วมประเวณีบางในการ์ตูนบางเรื่อง  แนวนี้มักจะได้รับความนิยมในหมู่คนดูเพศชาย (ก็แหงล่ะ) อาจจะมีบ้างที่จะมีคนดูผู้หญิง… แต่น้อยนิดมาก 

 

 

 

 

Yaoi

 

 

รูปจากเรื่อง : romantic junjou

 

 

เช่นเดียวกับคำว่ายูริ  แต่คำนี้ใช้เรียกการ์ตูนแนว “ชายรักชาย” ที่ในเรื่องจะมีตัวละครหลักดำเนินเรื่องเป็นผู้ชาย  การ์ตูนแนวยาโอยมักจะนำเสนอความรักของเพศเดียวกัน เช่นเดียวกับแนวยูริ แนวนี้มักจะได้รับความนิยมในหมู่คนดูเพศหญิง (ส่วนผู้ชายจะดูก็แล้วแต่นะ)

 

 

 

 

 

Fujoushi 

 

 

รูปจากเรื่อง : Watashi ga Motete Dou Sunda (เมื่อสาววายกลายเป็นสาวฮอต)

 

 

คำนี้ใช้เรียกผู้หญิงที่ชื่นชอบการ์ตูนแนวยาโอย  มักจะถูกเรียกว่า “สาววาย” นั่นแล…

 

 

 

 

Nyan

 

 

(にゃん) คำนี้เป็นการพร้องเสียงร้องของแมวในภาษาญี่ปุ่น 

 

 

 

 

 

Shounen

 

 

คำนี้มักจะได้ยินบ่อยๆ ในการ์ตูน หมายถึง “เด็กผู้ชาย” (少年) และใช้เรียกผลงานการ์ตูนแนวเด็กผู้ชายเป็นส่วนใหญ่  การ์ตูนแนวโชวเน็นดังๆ ก็มี Onepiece, Naruto ฯลฯ

 

 

 

 

 

Shoujo

 

 รูปจากเรื่อง : Ao Haru Ride บันทึกใสจากวัยฝัน

 

 

คำนี้มักจะได้ยินบ่อยๆ ในการ์ตูนเช่นกัน  ซึ่งคำนี้จะหมายถึง “เด็กผู้หญิง” (少女)และใช้เรียกผลงานการ์ตูนแนวเด็กผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่  การ์ตูนแนวโชวโจดังๆ ก็มี Ao Haru Ride, Kimi ni Todoke ฯลฯ

 

 

 

 

 

Yaranaika?

 

 

 

คำนี้ฮิตมากๆ ในวงการการ์ตูนช่วงหนึ่งเลยทีเดียว  ที่มาของคำนี้มาจากผลงานการ์ตูนเรื่องสั้น “Kuso Miso Technique” ที่แต่งโดยอ. Junichi Yamakawa เขียนในปี 1987 มีเนื้อหากล่าวถึงตัวเอกที่ชื่อ Masaki Michishita นักเรียนม.ปลายที่ได้มาเจอกับ Takakazu Abe ตรงม้านั่งในเสื้อชุดจั๊มสูท  ระหว่างที่กำลังไปห้องน้ำสาธารณะ  กับประโยคสุดหลอนหูว่า やらないか?” ซึ่งแปลได้ว่า “มา… กันไหม?” (ไม่ขอเล่าต่อล่ะ… เพราะเนื้อเรื่องในการ์ตูนเคยอ่านครั้งหนึ่งผมรับไม่ได้)

 

 

ซึ่งคำๆ นี้การเป็นวลีสุดฮิตในโลกโซเซียลของญี่ปุ่นและลามมาถึงประเทศไทยทีเดียว  ทำให้ตัวละครอย่าง “อาเบะ” โด่งดังในฐานะ “ฝ่ายรุก” ของวงการการ์ตูนรักร่วมเพศชายกับชายเลยทีเดียว   

 

 

 

 

Megane

 

 

 รูปจากเรื่อง :  Kyoukai No Kanata

 

 

(メガネ) คำนี้แปลว่า Glasses หรือแว่นตา  จะใช้เรียกตัวละครที่สวมแว่นตาแล้วดูดีกว่าไม่ได้สวมแว่นตา

 

 

 

======================================

 

 

นี่ก็เป็นคำที่อาจจะได้ยินกันบ่อยๆ ในการ์ตูนอนิเมะ  ถ้ามีความคิดเห็นอยากจะแนะนำสามารถพิมพ์ข้อความบอกกล่าวกันได้นะ (^0^)//