ประวัติ เฉินหลง “10 ผลงานหนังมันส์ๆ”ที่แฟนๆไม่ควรพลาด
08 มกราคม 2561 00:04 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

ประวัติ

 

เฉินหลง ( 成龍) / แจ๊คกี้ ชาน (Jackie Chan) เป็นชื่อของนักแสดงชื่อก้องโลกผู้มีผลงานมากมาย ทั้งในฝั่งเอเชีย และ ระดับโลก ด้วยลักษณะการแสดงที่โลดโผน ติดตลก และออกไปในทิศทางของความสนุกสนาน มีความรุนแรงน้อย เมื่อเทียบกับหนังของดาราฮ่องกงคนอื่นๆที่ดูดุดัน เกรี้ยวกราด สมจริงถึงเลือดถึงเนื้อ

 

โดย “เฉินหลง” เป็นชื่อที่ใช้ในวงการ เรียกสั้นๆย่อเพื่อให้เกิดความคุ้นชิน โดยชื่อจริงๆที่พ่อของเขาตั้งให้ คือ “เฉิน กั่งเซิน” ( 陳港生) เป็นชื่อที่มีความหมายว่า “เกิดที่ฮ่องกง”

 

 

 

 เฉินหลง เกิดวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1954 เป็นลูกชายคนเดียวของ เฉินจื้อผิง และ เฉินลีลี่ โดยครอบครัวของเฉินหลงเป็นผู้อพยพจากจีนด้วยเหตุสงครามกลางเมือง เมื่อเฉินหลงอายุ 7 ขวบ ก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนสอนอุปรากรจีน (งิ้ว) แลก็ได้พบกับ 2 เพื่อนรักอย่าง “หงจินเป่า” และ “หยวนเปียว” (ซึ่งในอนาคต ทั้ง 3 คนนี้ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกัน จนกลายเป้นตำนานหนังฮ่องกงยุค 70-80 อีกด้วย) 

 

2 ปีต่อมา เมื่อเฉินหลงอายุ 9 ขวบ ก็ได้มีโอกาสย้ายมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย ที่โรงงิ้วย่านเยาวราช แถมยังมีโอกาสได้เรียนมวยไทยด้วย ดังนั้น เฉินหลงจึงผูกพันกับคนไทยเป็นพิเศษ และเขามักจะมีเรื่องเล่าต่างๆเกี่ยวกับเมืองไทยในวัยเด็กให้ผู้สื่อข่าวฟังทุกครั้งเมื่อมาทัวร์ในเมืองไทย

 

เมื่อเฉินหลงอายุ 17 ก็ได้มีโอกาสร่วมงานภาพยนตร์ ในฐานะสตั๊นท์แมนร่วมกับทีมงานหนังของบรูซ ลี และสองสามปีหลังจากการจากไปของบรูซ ลี เฉินหลงก็ได้พบกับ “หลอเหว่ย” ผู้กำกับหนัง “ไอ้หนุ่มซินตึ๊ง ที่ บรู๊ซ ลีแสดงนำ ก็ได้ลองให้เฉินหลงได้เล่นหนังดู ซึ่งหนังเรื่องแรกในปี 1976 ที่เริ่มชีวิตของการเป็นพระเอกก็คือ “New Fist of Fury” (มังกรหนุ่มคะนองเลือด) หนังภาคขยายความของไอ้หนุ่มซินตึ๊งที่บรูซลีเคยเล่น โดยหลอเหว่ยต้องการปั้นเฉินหลงให้มาแทนบรูซลี และเล่นหนังมาราวๆ 10 เรื่อง แต่ทุกเรื่องก็แป้กสนิท

 

จนกระทั่งปี 1978 หนังเรื่อง “ไอ้หนุ่มพันมือ” ที่เขาแสดง ก็สามารถดันให้เฉินหลงกลายเป็นดาราดังในระยะเวลาไม่นานนัก และในปีเดียวกันนี้ หนังที่คนทั่วเอเชียต้องรู้จักชื่อของเฉินหลงก็ออกฉาย…หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า “ไอ้หนุ่มหมัดเมา” ด้วยการเล่นฉากแอ็คชั่นสนุก และมีเอกลักษณ์ เล่นจริงเจ็บจริง แถมเรียกเสียงหัวเราะกับฉากเบาสมองได้นั่นเอง  นั่นทำให้เฉินหลงยึดเป็นแนวทางการทำหนังที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ซึ่งต่างจากบรูซลี

 

 

หลังจากที่ย้ายค่ายมาอยู่กับทาง Golden Harvest เพราะหมดสัญญากับหลอเหว่ย เฉินหลงก็ได้ชักชวนเพื่อนรักสองคน “หงจินเป่า” และ “หยวนเปียว” มาร่วมแสดงหนังแอคชั่นด้วยกัน โดยเรื่องแรกคือ “มือปราบจมูกหิน” , “เอไกหว่า” , “ขาตั้งสู้ ” , “7เพชฌฆาตสัญชาติฮ้อ” , “ขอน่า อย่าซ่าส์” และ “มังกรหนวดทอง” เป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่ทั้งสามเล่นด้วยกัน แต่สามเพื่อนรักก็ยังวนเวียนในวงการ และเล่นหนังด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราวแบบไม่ครบทีม 

 

ในปี 1985 เฉินหลงได้แสดงหนังที่ทำให้คนไทยได้จดจำชื่อของเขาอีกครั้ง กับหนังแอคชั่นร่วมสมัย อย่าง“วิ่งสู้ฟัด” หรือ “Police Story”แนวตำรวจจับผู้ร้าย โดดเด่นด้วยฉากสตั๊นท์สุดมันส์พังข้าวของในห้างสรรพสินค้า นอกจากในฮ่องกง หรือในไทย เรื่องนี้ดังไปทั่วเอเชียอีกครั้ง ทำให้เฉินหลงได้รับรางวัลม้าทองคำ (ตุ๊กตาทองฮ่องกง) ถึง 2 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม

 

อีกทั้งเพลงประกอบของเรื่องก็มักจะไปโผล่ในสื่อโฆษณาของญี่ปุ่นบ่อยครั้งในเชิงล้อเลียน เอาฮา เอามันส์ซะส่วนใหญ่ และหนังเรื่องวิ่งสู้ฟัด ถูกระบุว่าเป็นหนังที่ใช้กระจกปลอมเปลืองที่สุดเท่าที่หนังฮ่องกงยุค 80 เคยสร้างมา 

 

 

ในขณะเดียวกัน หนังเรื่อง “ไอ้มังกรถล่มปฐพี” ที่เคยฉายในปี 1980 ก็แป้กสนิทในอเมริกา  แต่ก็มีโอกาสได้รับบทตัวประกอบบ้างประปรายในหนังฮอลลีวู้ด  ทำให้เขามีความมุ่งมั่นที่จะพาตัวเองไประดับโลก ในฐานะนักแสดงนำ และในช่วงยุค 90 เฉินหลง ก็ได้พาตัวเองเข้าสู่โลกของหนังฮอลลีวู้ดสำเร็จ กับหนังเรื่อง “Rumble in the Bronx” หรือ “ใหญ่ฟัดโลก” ที่ยกกองถ่ายทำถึงอเมริกากันเลย ถึงแม้ว่าพล๊อตหนังจะดูเรียบง่ายใกล้เคียงหนังเกรดบี แต่หนังเรื่องนี้มีจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของเฉินหลงก็คือ เล่นจริง เจ็บจริง ฉากเสี่ยงตายต่างๆถูกใส่มาในเรื่องชวนให้ตื่นเต้น และมีการเดินเรื่องที่รวดเร็วรวบรัด

 

และหนังเรื่องต่อๆมาของเฉินหลงก็โด่งดังแทบจะทุกเรื่องหลังจากนั้น ทั้งหนังร่วมทุนสร้าง หนังฮอลลีวู้ด หนังฮ่องกง หนังจีนแผ่นดินใหญ่ เรียกได้ว่า เฉินหลง คือซุปเปอร์สตาร์หนังแอ็คชั่นที่เจ๋งที่สุดคนหนึ่งของเชียเลยก็ว่าได้…

 

 

jackie chan 01

“10 ผลงานหนังมันส์”ที่แฟนๆของ “เฉินหลง” ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 

อันนี้จัดตามความชอบของแอดมินนะครับบอกก่อน อิอิ

 

 

 

10.Rumble in the Bronx / ใหญ่ฟัดโลก 

หนังแจ้งเกิดของเฉินหลงในอเมริกาอย่างแท้จริง ด้วยพล๊อตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แอ็คชั่นเอามันส์เข้าว่า คงไปถูกใจเหล่าอเมริกันชนเข้า จึงกลายเป็นหนังที่ได้รับคำชมมากมาย และหนังเรื่องนี้ แอดมินค่อนข้างชอบ ถึงแม้ว่าองค์ประกอบบางอย่างในเรื่องออกจะไม่ Make Sense ไปเล็กน้อยก็ตาม แต่ยอมรับว่าฉากแอ็คชั่นสนุกจริงๆครับ เป็นเรื่องแรกที่แนะนำให้ได้ลองหามาดูกัน

 

เรื่องราวของ “ใหญ่ฟัดโลก” ก็จะเล่าถึง “เคี้ยง” ( เฉินหลง ) ตำรวจฮ่องกงที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังอเมริกา เพื่อไปเยี่ยม “ลุงเปียว” ( ตงเปียว ) ลุงของเขาที่เปิดธุรกิจซูเปอร์มาร์เกตในเขต Bronx  แต่การมาเยี่ยมญาติจะธรรมดาไป ถ้าขาด “โทนี่” (มาร์ค แอคเคอร์สตีม) หัวโจกอันธพาลเด็กแว้น ขาใหญ่ประจำถิ่นที่มักจะเก็บค่าคุ้มครองคนในละแวกนั้น แน่นอนว่าเลือดตำรวจผู้ผดุงความยุติธรรมเดือดพล่าน ทำให้พระเอกของเราต้องออกโรง ปกป้องซูเปอร์มาร์เกต แถมยังมีเรื่องราวซับซ้อนกว่านั้น เมื่อพระเอกของเราต้องไปมีเอี่ยวกับเรื่อง “เพชร” ที่เหล่ามาเฟีย และคนในเครื่องแบบตามหาอยู่ 

 

 

9.The Tuxedo / สวมรอยพยัคฆ์พิทักษ์โลก

หนังตลกเบาสมอง เหมาะสำหรับเด็กและเยาวชน เพราะเรื่องนี้ถึงขั้นทำให้เฉินหลงคว้ารางวัล “นิเคโลเดียนคิดส์ชอยส์อวอร์ดส” สาขาดาราชายยอดนักบู๊ (Nickelodeon Kids’ Choice Awards) เป็นการการันตีว่าหนังเรื่องนี้ดูสนุก ไร้พิษภัย แน่นอนว่า พล๊อตหนังเรื่องนี้ก็สามารถเรียกเอาความเป็นหนังเฉินหลงออกมาได้ดีไม่แพ้เรื่องอื่นๆเช่นกัน

 

เรื่องราวของ The Tuxedo / สวมรอยพยัคฆ์พิทักษ์โลกจะเล่าเรื่องราวของ “จิมมี่ ถง”(แจ็คกี้ ชาน) ชายผู้มีอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่แสนจะธรรมดา ที่วันหนึ่งได้กลายเป็นคนขับรถให้เศรษฐีรายหนึ่ง แต่ตัวจริงของเศรษฐีคนดังกล่าวก็คือสายลับมือพระกาฬของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ 

 

แต่วันหนึ่ง ถง ก็ดันเอาชุดทักซิโด้ของเจ้านายมาใส่ ทำให้คนขับรถธรรมดา กลายร่างเป็นสุดยอดสายลับผู้มีวิชาป้องกันตัวขั้นเทพ ด้วย AI ที่ฝังไว้ในชุด และด้วยเหตุนี้ ทำให้ถงต้องกลายเป็น “สายลับจำเป็น” คู่กับสายลับสาวพราวสเน่ห์ “เดล เบลน”(เจนนิเฟอร์ เลิฟ ฮิวอิตต์) ทำภารกิจพิทักษ์โลกจากเหล่าร้าย…

 

 

8. Shanghai Noon / คู่ใหญ่ฟัดข้ามโลก

หนังย้อนยุค สไตล์คาวบอยที่แอดมินชื่นชอบมาก เพราะนอกจากฝีมือการแสดงของ เฉินหลง และ โอเว่น วิลสัน ที่ดูลงตัว รับส่งมุกอย่างแนบเนียน บวกกับลีลาแอคชั่นสตั๊นท์สุดสนุก และ มุกแบบหนังคาวบอยสุดคลาสสิค และผสานกับแอคชั่นกังฟูจีนที่ไม่เคยเห็นในหนังคาวบอย แถมดังถึงขั้นมีภาคต่ออย่าง Shanghai Knight ด้วย

 

เรื่องราวของ Shanghai Noon คู่ใหญ่ฟัดข้ามโลก จะเล่าเรื่องราวของ “จาง เหวิน” (เฉินหลง) ราชองค์รักษ์หลวง ที่ต้องไปช่วย “เจ้าหญิงเพ่ยเพ่ย” (ลูซี่ ลิว) ที่ถูกโจรลักพาตัว และทำการเรียกค่าไถ่ แต่ระหว่างทางเขาก็พบกับโจรปล้นรถไฟ “รอย โอแบนนอน” ที่ถูกเพื่อนร่วมแก๊งค์ทอดทิ้งกลางทะเลทราย ได้ร่วมมือกัน เพราะว่ารอยรู้มาว่าในงานนี้เกี่ยวพันกับทองคำหนึ่งคันรถเต็มๆ ที่สามารถทำให้เขารวยตลอดกาล คนหนึ่งสู้เพื่อความภักดี อีกคนสู้เพื่อความร่ำรวย แต่ก้ต้องมาร่วมทีมกันเพื่อทำภารกิจนี้…

 

 

 

 

7.New Police Story / วิ่งสู้ฟัด 5 : เหิรสู้ฟัด

อันนี้จะเรียกว่าภาคต่อของวิ่งสู้ฟัดก้ไม่เต็มปากนะ เพราะถึงจะได้นักแสดงนำอย่างเฉินหลง มาเล่นเป้นตำรวจ แถมแปะโลโก้ Police Story  แต่ด้วยโทนเรื่องที่จริงจัง ซีเรียส และซีนเครียดๆปนดราม่าทีมี จึงอาจจะดูหลุด Theme ของ Police Story ไปบ้าง

 

แถมด้วยอายุที่มากขึ้น และบทที่ดูมีภูมิฐานเพราะเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร (มียศค่อนข้างใหญ่) ทำให้การรับบทตำรวจของเฉินหลงในเรื่องจึงไม่ค่อยไปในแนวทางเอาฮา ดูแล้วมีเสียงหัวเราะซักเท่าไหร่ แต่รับประกันว่า ภาค 5 นี่ดราม่า และสนุกในแนวทางใหม่ๆแน่นอน

 

 

เรื่องราวของ วิ่งสู้ฟัด 5 : เหิรสู้ฟัด จะเล่าเรื่องราวของ “ผู้กองเฉิน” (เฉินหลง) ยอดตำรวจฝีมือดีผู้สามารถนำทีมคลี่คลายคดียากๆมาแล้วทั่วเกาะฮ่องกง แต่ก็ต้องมาพลาดท่า เพราะแก๊งโจรวัยรุ่นที่รักสนุกก่อความวุ่นวาย เขาได้แต่โทษตัวเอง และเอาแต่เก็บตัว แต่เมื่อด้วยความช่วยเหลือของ ฟา ฟา (ชาร์ลีน ชอย) ตำรวจหญิงแผนกอาชญกรรมไซเบอร์ฮ่องกง เขาจะสามารถกลับมาผดุงความยุติธรรมได้หรือไม่ และเขาจะใช้วิธีอะไรจัดการกับแก๊งโจรกลุ่มนี้ 

 

 

 

6. 1911 Revolution / 1911 ใหญ่ผ่าใหญ่

 เป็นหนังอีกเรื่องที่เฮียเฉินหลงของเราประกาศ “ไม่ตลกด้วย” เพราะเป็นหนังที่ “อิงประวัติศาสตร์ชาติจีนแท้ๆ” แถมด้วยการที่หนังมีทุนสร้างที่สูงลิบลิ่วถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (900 ล้านบาท) และยังร่วมสร้างโดยบริษัทหนังจากจีนหลายๆเจ้า มากมาย ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเกียรติประวัติในการทำงานแสดงของเขาทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่า นี่คือหนังเรื่องที่ 100 ของเฉินหลง ลงทุนเล่นเอง กำกับเอง ร่วมกับ “จาง ลี่”  ซึ่งก็ตรงกับวาระครบรอบ 100 ปี ของ “การปฏิวัติชิงไห่” หรือ “การปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง” ปิดระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของจีนที่มาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปี โดยสิ้นเชิง

 

แค่ที่มาก็ตลกไม่ออกแล้วใช่มั้ยล่ะ แต่ก็เพราะมันตลกไม่ออกนี่แหละ เลยได้ความเรียลเข้มๆ ดราม่าข้นๆ และประวัติศาสตร์ที่แน่นปึ้กจัดเต็มมาแทนที่…ซึ่งก็เป็นโปรเจคในฝันของเฮียเฉินที่แกอยากทำมานานเช่นกัน

 

เรื่องราวของหนังเรื่อง 1911 ใหญ่ผ่าใหญ่   จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงปี  ค.ศ. 1911 ซึ่งอยู่ในระหว่างการปฏิวัติซินไฮ่ ดร.ซุน ยัดเซ็น (เจ้า เหวินเซวียน) ศัลยแพทย์หนุ่มผู้นำการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง ต้องหนีไปอยู่ยังสหรัฐอเมริกา แต่ในประเทศจีน หวงซิง (เฉินหลง) ตัวแทนและเพื่อนสนิทของเขายังคงดำเนินการนำการต่อสู้อยู่ โดยต้องผูกสัมพันธ์กับ สวี จงฮั่น (หลี่ ปิงปิง) สมาชิกพรรคถงเหมิงฮุ่ย ผู้อุทิศตนให้เต็มที่กับการปฏิวัติ

 

ทั้งสองต้องแสร้งทำเป็นสามี-ภริยากัน แม้นทั้งคู่จะผูกพันกันก็ตาม แต่ก็มิอาจแสดงออกได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้น มีวีรชนผู้กล้าที่เสียชีวิตมากมายให้กับการปฏิวัตินองเลือดครั้งนี้

 

 

5. Thunderbolt  / เร็วฟ้าผ่า

 ถ้าคุณเป็นคนชอบความเร็ว … ถ้าชอบดูหนังที่มีฉากอัดรถมันส์ๆ..ถ้าคุณชอบเฉินหลง…ถ้าคุณชอบรถซิ่งมิตซูบิชิ Evo คุณจะต้องปลื้มกับหนังเรื่องนี้แน่นอน ถึงแม้ว่าเฮียเฉินแกจะไม่ได้เป็นนักซิ่ง แต่ด้วยบทบาทการแสดงที่เข้มข้น และจริงจังของเฮียแก ทำให้เราเชื่อว่าแกเป็นนักซิ่งมือฉกาจ เรื่องนี้เป็นที่จดจำของแอดมินไม่รู้ลืม คือฉากขับรถไล่ล่ากันบนถนนหลวง ระหว่าง Mitsibushi FTO   ของเฉินหลง กับ Nissan Skyline R32 GTR ของตัวร้ายในเรื่องครับ และก็ EVO3 สีเหลืองคันเก่งของเฮียแก มันทำให้รู้สึกเลยว่าเฮียเฉินแกเท่มากเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยรถมิตซูฯ 555+

 

เรื่องราวของ “เร็วฟ้าผ่า” จะเล่าเรื่องของ  อาหัว (เฉินหลง) นายช่างฝีมือดีของมิตซูบิชิ ที่ดันบังเอิญไปเผชิญกับอาชญากรนักซิ่ง “ครูเกอร์” ที่อาศัยการแข่งรถมืออาชีพมาบังหน้าในการซิ่งบนถนน ทว่าการที่อาหัวช่วยตำรวจในการจับตัวครูเกอร์นั้นกลับกลายเป็นความแค้นที่ทำให้ครูเกอร์มาลักพาตัวน้องสาวของเขา เพื่อให้อาหัวมาแข่งรถกับเขาในสนามประลองฝีมือกันอีกครั้ง

 

 

4.Rush Hour / คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด

 กลับมาฮากับลีลาแอ็คชั่นปาข้าวของอันเป็นเอกลักษณ์ และพล๊อตตำรวจจับผู้ร้าย ที่อัพเกรดมาเป็นการจับคู่กับนายตำรวจผิวสีปากพาซวย ใน Rush Hour / คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด และเรื่องนี้ คริส ทัคเกอร์  กับ เฉินหลง เล่นเข้าคู่กันได้ดีมากๆ ด้วยเนื้อหาที่ย่อยง่าย ดูสนุก ไม่เครียด ยิ่งถ้าได้ดูเวอร์ชั่นพันธมิตรพากย์ด้วย จะฮาเพิ่มขึ้น และดูไหลลื่นขึ้นเยอะเลย หนังสร้างมาเพื่อความบันเทิงแท้ๆ ไม่มีอะไรเจือปนเลย

 

เรื่องราวของ Rush Hour / คู่ใหญ่ฟัดเต็มสปีด จะกล่าวถึงการจับคู่กันของตำรวจ 2 นาย คือ สารวัตรสืบสวน ลี (เฉินหลง) หน่วยสืบสวนสอบสวนชาวฮ่องกง และนักสืบ เจมส์ คาร์เตอร์ (คริส ทัคเกอร์) จากเอฟบีไอ ที่พวกเขาต้องมาทำงานร่วมกันช่วยกันจับกุมตัวอาชญากรและช่วยชีวิตเด็กสาวชาวจีนวัย 11 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของกงสุลชาวจีนนามว่า โซ ยุง (จูเลีย ซู) ให้ทันเวลา

 

 

3. Shinjuku Incident / ใหญ่แค้นเดือด

อันนี้จัดเป็นหนังดราม่าชั้นยอดอีกเรื่องของเฮียเฉินแกเลย กับ ใหญ่แค้นเดือด เนื้อหาหนังเป็นการอ้างอิงจากสถิติคนจีนหลบหนีเข้าญี่ปุ่นในช่วงยุค 80 ทำให้เกิดมาเฟียจีนขึ้นมากในโตเกียว เป็นหนังที่ให้คำจำกัดความ “มิตรภาพ ความรัก ล้วนพังพินาศเพราะความโลภของคน”จริงๆ  

 

…แถมตัวหนังเต็มไปด้วยฉากหนักๆ  ภายใต้บรรยากาศกรุงโตเกียวที่แสนจะโหดร้าย และสามารถสัมผัสถึงความเป็นหนังแนวดราม่าอาชญากรรมแบบถึงแก่น อีกทั้งยังมีบทสรุปเรื่องราวที่อึมครึม ปนหมองหม่น ผิดกับหนังเฉินหลงเรื่องอื่นๆมี่แอดมินเคยดูมาครับ เพราะผู้กำกับเรื่องนี้ก็คือ “เอ๋อตงเซิน” ที่มีเน้นเรื่องราวด้านลบของผู้คนได้ถึงใจ  ตัวอย่างที่ชัดๆเลย ก็ผลงานล่าสุดของพี่แกที่ชื่อว่า “ดาบปราบเทวดาซาเสี่ยวเอี้ย” ไง!!

 

เรื่องราวของ ใหญ่แค้นเดือด จะเล่าผ่านมุมมองของ เถี่ยโถว ( เฉินหลง )ชายชาวจีน คนธรรมดาๆ ยากจนสุดๆ เขาได้ตัดสินใจออกมาตามหา ซิ่วซิ่ว (ซู จิงเล่ย ) แฟนสาวที่ได้เดินทางมาหางานเสี่ยงดวงยังกรุงโตเกียว โดยมีมิตรสหายร่วมเป็นตาย ลักลอบมายังญี่ปุ่นด้วยกัน แต่ละคนก็มีวิถีชีวิต แนวทางความคิดต่างกันไป  เถี่ยโถวจำเป็นต้องอยู่อย่างปากกัดตีนถีบในญี่ปุ่น ที่ๆมองว่าพวกเขาชาวจีนคือกาฝาก เดนสังคมที่ไร้ค่า

 

แต่เมื่อชีวิตของเถี่ยโถว และเพื่อนๆ ต้องมาพัวพันกับแก๊งมาเฟีย ทำให้เพื่อนๆที่รักกัน เริ่มแตกคอเรื่องผลประโยชน์ จนนำมาสู่เรื่องราวอันน่าหดหู่ เพียงเพราะความไม่เคยพอของคนนั่นเอง…

 

 

 

 

 City Hunter (37)

2. City Hunter / ซิตี้ฮันเตอร์ ใหญ่ไม่ใหญ่ ข้าก็ใหญ่

หนังที่สร้างจากการ์ตูนเรื่องดังของอ.สึคาสะ โฮโจ ที่เฮียเฉินเล่นเอาซะอิมเมจเท่ๆของ ซาเอบะ เรียว ตัวละครขึ้นหิ้งแห่งวงการการ์ตูน เป็นตัวตลกสายหื่นเอาฮา บวกลีลาต่อสู้สไตล์ปาข้าวของอันเป้นเอกลักษณ์ ทำให้เรื่องนี้ เป็นที่ชื่นชอบในหมู่แฟนๆหนังของเฉินหลง กับความทะเล้นเหนือจินตนาการของตัวละครดังกล่าว…

 

บวกกับไฮไลท์ของหนังเรื่องนี้ อยู่ที่นักแสดงสาวๆในเรื่องที่สวยระดับแถวหน้าของวงการหนังฮ่องกงยุคนั้น ทั้ง หวังจู่เสียน / ซิวซู่เจิน และนักแสดงประกอบอีกมากที่มาโชว์ความงามแบบจัดเต็ม และฉากเอาฮาระดับตำนานอย่างการล้อเกม Street Fighter 2 ของเฉินหลงนั่นเอง … อ่อ มี “หลีหมิง” เล่นด้วยนะ โคตรหล่อ!

 

ซิตี้ฮันเตอร์ ใหญ่ไม่ใหญ่ ข้าก็ใหญ่ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ “ซาเอบะ เรียว” (เฉินหลง) นักสืบเอกชน จอมเจ้าชู้ กับผู้ช่วยสาว “คาโอริ” (หวังจู่เสียน) ที่ต้องคอยปฏิบัติหน้าที่ตามที่มีคนว่าจ้างมา เมื่อเศรษฐีชาวญี่ปุ่นได้ว่าจากให้ เรียว และคาโอริ ให้ตามหาลูกสาว “คูมิโกะ” (ชิซิกะ คูโด) ที่หนีออกจากบ้านไปเพราะไม่ถูกกับแม่เลี้ยงคนใหม่ ทำให้นักสืบจอมทะเล้น ต้องติดตามหาลูกสาวเศรษฐีไปจนถึงเรือสำราญ ลำใหญ่ แต่เรื่องก็วุ่นวายขึ้นเมื่อในเรือสำราญ ใช่มีแต่นักท่องเที่ยวธรรมดา แต่พวกโจรก่อการร้ายกลุ่มใหญ่ยังลอบขึ้นเรือมาด้วย เพื่อก่อการปล้นคนรวย ที่ขนเงินกันมาเล่นพนันบนเรือ

 

 

 1 . Police Story / วิ่งสู้ฟัด

อันนี้จากใจเลย เป็นหนังที่แอดมินชอบที่สุดของเฉินหลงแล้วครับ เพราะหนังไม่ต้องคิดอะไรเยอะ ฉากสตั๊นท์ระดับตำนานสุดมันส์ตลอดแทบทั้งเรื่อง (สมัยเด็กๆไปดูหนังกลางแปลง เจอฉากแอคชั่นนอนสต๊อปแบบนี้ ปลื้มปริ่มมาก ตามประสาเด็กๆครับ)  ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นการตีแผ่ตำรวจในฮ่องกงยุคสมัยนั้นได้อย่างเจ็บแสบอีกด้วย

 

พล๊อตง่ายๆของ วิ่งสู้ฟัด จะเล่าถึงเฉินเจียจี๋ หรือ “กุ๊กกู๋” (เฉินหลง) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ต้องออกตามจับ “บิ๊กจู๋” พ่อค้ายาเสพย์ติดรายใหญ่ ที่ตำรวจฮ่องกงต้องการตัวมากที่สุด เขาเปิดไนท์คลับและบริษัทค้าเงินตราเพื่อบังหน้า แต่แผนการดักจับพังเละเทะ แถมพอจับบิ๊กจู๋ได้ ก็ไม่มีหลักฐานมากพอที่จะเอาผิด ทางกรมตำรวจจึงต้องการตัวของ เซรีน่า (หลิน ชิงเสีย) เพื่อนำตัวเธอมาขึ้นศาลในฐานะพยาน และโครงการพิทักษ์พยานสุดวุ่นวายก็เริ่มขึ้น…

  

 

 

————————-

 

 

 

และนี่คือ 10 หนังน่าดูของ”เฉินหลง” ที่แอดมินเลือกมานั่งคุยกัน อันนี้จากความชอบล้วนๆนะครับ (จริงๆก็ชอบหลายเรื่องนะ)หากผิดพลาดประการใด มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ครับ!

 

แอดมิน Ak47

 

**เพลงประกอบหนังเฉินหลง ส่วนใหญ่เฮียแกจะร้องเองด้วย เลยขอเลือก 2 เพลงที่แอดมินชอบมาแปะให้ชมกันครับ**

 

 

 

อ่าน  - ประวัติ ดอนนี่ เยน “10 ผลงานหนังมันส์ๆ”ที่แฟนๆไม่ควรพลาด คลิก