Mobile Suit Gundam SEED : C.E.73 Stargazer [รีวิว/เรื่องย่อ/ตัวละคร]
09 พฤศจิกายน 2565 13:20 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(1)

 

Mobile Suit GundamSEED : C.E.73 Stargazer

機動戦士ガンダム·シード C.E.73 スターゲイザー

(KidouSenshiGundam SEED : C.E73 Stargazer)

แนว : SCI-FI / Drama

ผู้กำกับ : ซุซุมุ นิชิซาว่า

เขียนบทโดย : ชิเงรุ โมริตะ

ผู้ผลิต : สตูดิโอซันไรส์

จำนวนฉาย :3 ตอน

เป็นอนิเมะ Side Story หรือเนื้อหาเสริมพิเศษของ Mobile Suit Gundam SEED ที่ทำออกมาฉายทางอินเตอร์เน็ต โดยออกฉายตอนแรกเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2549และได้มีการจำหน่ายดีวีดีในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2549 ที่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในแผ่นนอกจากจะมี “โมบิลสูทกันดั้มซี้ด C.E.73 สตาร์เกเซอร์” แล้วยังมี Gundam Seed MSV Astray ซึ่งเป็น OVA ขนาดสั้นแถมมาอีกด้วย

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(2)

 

 

 

เนื้อเรื่อง

 

เนื้อเรื่องของ C.E.73 Stargazer จะเล่าถึงช่วง หลังจากการตกของ “ยูนิอุสเซเว่น”ตามเนื่อเรื่องหลักของภาค Destiny ประชากรบนโลกต่างพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่อีกครั้ง ทั้งผู้คนที่บาดเจ็บ ความขาดแคลน และปัญหาความขัดแย้งที่บาดลึกระหว่างโลก และ ZAFTก็หนักขึ้น

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(3)GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(4)

 

โลกเสียหายไปกว่าครึ่ง เพราะการตกลงมาของยูนิอุส เซเว่น ทำให้ประชากรล้มตาย และสูญเสียครั้งใหญ่

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(5)

 

“เซเลเน่ แมคกริฟ” นักวิทยาศาสตร์สาวสวยคนนี้ คือตัวเดินเรื่องหลักในภาคนี้ครับ

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(6)

 

Stargazer”หมายถึง “ผู้เฝ้ามองดวงดาว”ซึ่งก็ตรงกับจุดมุ่งหมายในการสร้าง GSX-401FWตัวนี้…นั่นก็คือการสำรวจดวงดาว

 

เรื่องราวจะเล่าเรื่องของ “เซเลเน่ แมคกริฟ” นักวิจัยของ”สำนักงานส่งเสริมการบุกเบิกอวกาศ” หรือ “DSSD” (Deep Space Survey and Development Organization) ก็ได้กำลังทำการทดสอบโมบิลสูทรุ่น 401 หรือที่รู้จักกันภายหลังว่า “สตาร์เกเซอร์ (GSX-401FW Stargazer)” MS ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์อันเป็นอนันต์ในการขับเคลื่อน เพื่อใช้ในการสำรวจดวงดาว โดยหวังว่าจะพบดาวที่มนุษย์สามารถลงหลักปักฐานได้…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(7)

 

“สเวน คาร์ล บายัน” / “มูดี้ โฮลครอฟท์” / “ชามส์ โคซา”สามนักบินสหพันธ์ที่เป็นตัวเอกอีกด้านหนึ่งของเรื่องราวนี้

 

ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง”สเวน คาร์ล บายัน” นักบินของ Strike Noir Gundam (GAT-X105E Strike Noir) หัวหน้าหน่วยรบพิเศษ Phantom Pain ของฝ่ายสหพันธ์และลูกทีมของเขา “มูดี้ โฮลครอฟท์” นักบินของ “บลูดูเอลกันดั้ม” (GAT-X1022 Blu Duel) และ “ชามส์ โคซา” นักบินของ “เวอร์เด้บัสเตอร์กันดั้ม” (GAT-X103AP Verde Buster) เข้าทำภารกิจต่างๆที่ทางสหพันธ์มอบหมายให้ โดยหลักๆจะเป็นการจู่โจมทหารZAFTโดยไม่ทันตั้งตัว (กลยุทธ์จำพวกBlizkriege) มากกว่า ดังนั้น สามคนนี้ถือเป็นยอดนักบินของฝ่ายสหพันธ์ที่ประจำการบนโลกเลยก็ว่าได้

 

ในขณะที่สเวนทำภารกิจกำจัดพวกโคออร์ดิเนเตอร์บนโลก ก็ถูกจู่โจมจากเหล่าMAรุ่นสี่ขาแบบพิเศษ BACUE ทำให้มูดี้ และ บลูดูเอล ถูกทำลายในการรบครั้งนี้…ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานนัก พวกเขาก็ได้รับภารกิจจู่โจมสถานีวิจัยDSSD ที่เป็นกลาง (ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด) มายังพวกของสเวน ทำให้หน่วย Phantom Pain ได้เข้าโจมตีฐานที่ตั้ง DSSD และให้ชิงเอา MS รุ่นใหม่ของ DSSD มา ซึ่งก็คือ Stargazer นั่นเอง…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(8)

 

GAT-X105E Strike Noirหุ่นรบความเร็วสูงของสเวน

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(9)

 

GAT-X1022 Blu Duelหุ่นรบระยะประชิดของมูดี้

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(10)

 

GAT-X103AP Verde Busterหุ่นรบสนับสนุนระยะไกลของโคซา

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(11)

 

ตัวแสบจากภาคหลักอย่าง “มุลต้า อัสราเอล” ก็มีเอี่ยวในเหตุการณ์นี้ด้วย?

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(12)

 

“สเตลล่า” หนึ่งในตัวละครหลักภาค Destiny เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันนะ?

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(14)

 

Blu Duel ของมูดี้พลาดท่า ถูก Celberos BACUE โมบิลอาร์เมอร์จอมโหดกระซวกตายอย่างอนาถ…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(15)

 

GSX-401FW Stargazerเริ่มทำการเดินเครื่องในสถานการณ์รบจริงครั้งแรก!

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(16)

 

Stargazerเป็น MS ที่นอกจากจะเคลื่อนไหวได้เองแล้ว ยังสามารถควบคุมได้สองคนในห้องนักบินพิเศษด้วย…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(17)GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(18)GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(19)GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(20)

 

แต่ด้วยจำนวนของ Civilian Astray (เป็นMS สายแอสเทรย์ เหมือน เรดเฟรม แต่ลดสเปคลงเพื่อใช้ในงานก่อสร้าง สำหรับพลเรือน)  บวกกับประสิทธิภาพของ Stargazer ทำให้โคซาพลังงานหมด และถูกรุมยิงจากหุ่นลูกเบ๊จนตายในระหว่างการรบ

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(21)GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(22)

 

และสเวนก็พลาดท่า ถูก Stargazer ที่ใช้วงแหวนบีม ตัดเข้าที่ห้องควบคุมจนStrike Noir ไม่สามารถขยับได้ เซเลเน่สั่งให้”โซล” นักบินอีกคนของStargazer ดีดตัวกลับไปที่ฐานDSSD เพื่อยิงปืนใหญ่ทำลายยานสหพันธ์ที่บุกเข้ามา ฝ่ายสหพันธ์ถูกทำลายทั้งหมดด้วยการยิงสำแสงปืนใหญ่นี้

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(23) GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(24) GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(25)

 

สงครามจบลงเมื่อยานรบหลักของทางสหพันธ์ถูกปืนใหญ่ Apollo ยิงถล่ม

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(26) GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(27)

 

ในที่สุด เซเลเน่ และสเวน ที่ฟื้นขึ้นมาหลังการต่อสู้จบลง โชคดีที่ Stargazer ไม่ได้รับความเสียหายจากการยิงกวาดล้างฝ่ายสหพันธ์ อวกาศกลับสู่ความเงียบงัน เธอพบว่าสเวนยังไม่ตายในห้องนักบินของStrike Noir

 

เซเลเน่จึงได้ทำการช่วยชีวิต(เพราะไม่อยากตายเพียงลำพัง) และพาขึ้นมาใน Stargazer โดยดูดพลังงานที่เหลือจากStrike Noir  มาช่วยทำให้มีออกซิเจนเหลือให้ทั้งคู่ใช้ได้ 27 วัน ทำให้เซเลน่าต้องตัดสินใจฉีดยานอนหลับให้สเวน และตัวเอง ซึ่งยานี้จะทำให้หลับยาว เพื่อให้ร่างกายไม่ต้องใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น เพื่อยื้อชีวิตต่อไป…

 

และทั้งคู่ก็ล่องลอยอยู่ในอวกาศอันแสนเงียบเหงานี้ด้วยกัน…โดยไร้เสียงติดต่อกลับมา…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(28)

 

“เพราะสตาร์เกเซอร์ เครื่องนี้น่ะ ถูกสร้างเพื่อสำรวจอวกาศภายนอก

มันสามารถรับลมสุริยะ ผ่านม่านแสงบางๆ เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังขับเคลื่อนได้

…ในวินาทีแรกจะเคลื่อนตัวได้เพียง 0.5cm แต่เมื่อผ่านไป 1 นาที มันจะเคลื่อนตัวไปข้างหน้า 18เมตร..

และเมื่อผ่านไป 1ชม.ก็จะเคลื่อนที่ห่างจากจุดเริ่มต้น 64กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 128 กิโลเมตร / ชม.

เมื่อเคลื่อนตัวได้แล้ว มันก็จะไปข้างหน้าได้เรื่อยๆ…

เพราะงั้นพวกเรา กลับไปได้แน่ๆ…”

 

——เซเลเน่ แมคกริฟ จาก Gundam SEED C.E.73 Stargazer——

 

***** ฉากจบของเวอร์ชั่นหนังสือการ์ตูน โซลจะออกตามหาเซเรเน่ กับ Stargazer พบในวันที่27พอดี และหลังจากนั้น สเวน ก็เข้าร่วมกับDSSD โดยที่ไม่อธิบายความคืบหน้าของ“ความสัมพันธ์”ระหว่างเซเรเน่ และ สเวนแต่อย่างใด…

 

ตัวละคร

  

“สเวน คาร์ล บายัน”

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(29)

 

หนุ่มวัย 20 ปีคนนี้ เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษ Phantom Pain ของฝ่ายสหพันธ์ นักบินของ GAT-X105E Strike Noir ในวัยเด็กเขาเป็นเด็กที่ชื่นชอบการดูดาวมากๆ จนกระทั่งพ่อแม่ของเขาถูกผู้ก่อการร้ายสังหารจากเหตุวางระเบิดพิพิธภัณท์อวกาศ เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมโปรแกรมฝีก anti-coordinator ของทางสหพันธ์ โดยเก็บความทรงจำวัยเยาว์ไว้ในส่วนลึกของใจ และเข้าสนามรบด้วยความเกลียดชังพวกโคออดิเนเตอร์โดยเนื้อแท้เป็นคนที่ดีมากๆคนนึง…

 

“เซเลเน่ แมคกริฟ

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(30)

 

นักวิทยาศาสตร์สาวสวยวัย28 เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างของGSX-401FW Stargazer หุ่นสายกันดั้ม ที่มีจุดประสงค์ในการสำรวจดวงดาว เธอเป็นโคอออิเนเตอร์แท้ๆที่เกิด และโตมาในอวกาศ เป้นคนที่มีอีโก้สูงมากในเวลาทำงาน และทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

 

หลังการสู้รบที่สถานี DSSD เซเลเน่ก็ถูกพบพร้อมๆกับ Stargazer ในวันที่ 27 ซึ่งเป็นเส้นตายของออกซิเจนในห้องนักบินแบบฉิวเฉียดเลยทีเดียว…หลังจากนั้นไม่นานนัก เซเลเน่ ก็ให้สเวนทำงานเป็นหนึ่งในสมาชิก DSSD ในเวลาต่อมา…

 

“มูดี้ โฮลครอฟท์”

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(31)

 

เป็นสาวอังกฤษที่ทำงานให้กับหน่วย Phantom Painกับสเวน และ โคซาเธอเองก็เข้าโปรแกรมฝีก anti-coordinator ของทางสหพันธ์ เช่นเดียวกับสเวนตั้งแต่ยังเด็กเธอเคยต่อสู้กับ “เอกนิส บราเอ” นักบินของ GSF-YAM01 Δ Astray(เดลต้าแอสเทรย์ กันดั้มตัวแรกของชาวดาวอังคาร)ได้อย่างสูสี…

 

แต่ในที่สุดเธอก็ถูกฆ่าตายในการต่อสู้กับ CerberosBuCUEและยังถือว่าเป็นนักบินกันดั้มคนแรกในประวัติศาสตร์ของยุค Cosmic Era ที่ถูกเหล่าMAกระซวกตาย…

 

“ชามส์ โคซา”

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(32)

 

เช่นเดียวกับสเวน และมูดี้ โคซาเข้าฝึกโปรแกรมกวาดล้างโคออดิเนเตอร์ เพราะบ้านเกิดถูกทำลาย (ไม่ระบุว่าที่ไหน) เขาเป็นพลซุ่มยิงที่ดี แต่มีนิสัยใจร้อน และวู่วาม ซึ่งเหตุนี้ก็ทำให้เขาไปยืนเป็นเป้าซ้อมยิงให้กับ DSSD Civilian Astray ในวาระสุดท้ายของชีวิต…

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(33)

 

 

Review

 

เป็น OVA พิเศษ 3 ตอนจบ ที่มีงานภาพที่สวยงามมากๆถ้าเทียบกับTV Series มีการเล่าเรื่องที่ไม่ได้เน้นฉากแอคชั่นหุ่นยนต์ตีกันมากนัก เมื่อเทียบกับภาคหลัก แต่งานนี้ขาย”ดราม่า”หนักๆให้ได้ชมกันมากกว่าและโดยรวมบรรยากาศของอนิเมเรื่องนี้ จะเน้นไปทาง”การสะท้อนภาพของความสูญเสีย” หรือ “ผลพวง” ของความขัดแย้งของคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่เชื่อชาติ แอดมินมองว่ามันเป็นการเสียดสี และสะท้อนภาพสังคมในปัจจุบันบางส่วน ที่ยังมีการเหยียดเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่นำมาซึ่งโศกนาฎกรรมที่ไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่…

 

ในอนิเมมีฉากให้หดหู่มากมาย ทั้งภาพ Flashback ในความทรงจำของสเวนที่มีภาพพ่อแม่ที่เสียไป ความทรงจำของเขาที่มีต่อคนรอบข้าง ที่เขาไม่มีวันได้รับความสุขเพราะความขัดแย้งของสงคราม

 

ถึงจะเป็นอนิเมสั้น3ตอนจบ ตอนละ15นาที แต่Background  กับ ความสัมพันธ์ตัวละครที่ค่อนข้างแน่นพอสมควร ทำให้อนิเมเรื่องนี้มีบทสรุปของเรื่องราวที่ “โรแมนติกแบบแปลกๆ” ที่ทำให้คนดูรู้สึกว่ามันอ้างว้าง แต่ก็อบอุ่น และมีความหวังอยู่บ้าง…

 

แต่อนิเมเรื่องนี้ก็มีข้อเสียตรงที่ความยาวของเรื่อง ที่ไม่สามารถถ่ายทอดความสนุกของฉากแอคชั่นได้เลย ทำให้ตัวละครที่ขับ MS ตายได้ “งี่เง่า” มาก บทจะตายก็ตายกันตรงนั้นเลย ไม่ค่อยสมกับความเก่งของตัวละครที่โม้ไว้ดิบดีในช่วงแรกของเรื่อง นอกนั้นถือว่าดีงามหมดครับ

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(34)

 

Score 9/10 Rank A

 

ข้อดี - ภาพสวย / เพลงเพราะ / เนื้อหาดราม่าหนักมาก เพราะเล่นกับประเด็นของผลพวงของความสูญเสีย / การกระทำตัวละครมีเหตุ และผลมารองรับ / มีตัวละครจากภาคหลักมาเข้าฉาก เป็น Easter Egg

 

ข้อเสีย - ฉากบู๊ไม่สนุกเลยในหลายๆฉาก / ตัวละครตายง่ายไม่สมกับที่โม้ไว้

เป็นอนิเมที่คอกันดั้มไม่ควรพลาดครับ เพราะเป็นอนิเมที่มีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ ภาพสวยไม่มีเผา (ถึงมีก็ทำเป็นมองไม่เห็นละกัน) และถ่ายทอดความเป็น”กันดั้ม”ได้อย่างยอดเยี่ยมอีกเรื่องครับ

 

GundamSEED--C.E.73-Stargazer-(35)

 

Ost : “Hoshi no tobira” ~ประตูสู่ดวงดาว~

 

 

เรียบเรียงโดย แอดมิน Ak47