Mobile Suit Gundam F91 [เรื่องย่อ / MS]
10 มกราคม 2560 11:22 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

F91 (1)
ชื่อภาษาอังกฤษ : Mobile Suit Gundam F91
ชื่อภาษาญี่ปุ่น : 機動戦士ガンダ F91 (คิโดเซนชิ กันดั้ม เอฟฟุ คิว จู อิจิ)
ชื่อภาษาไทย : โมบิลสูทกันดั้ม เอฟ ไนน์วัน
ผู้กำกับ : โทมิโนะ โยชิยุกิ
เขียนบทโดย : สึเนฮิสะ อิโต้ & โทมิโนะ โยชิยุกิ
ออกแบบหุ่นยนต์โดย : โอคาวาระ คุนิโอะ
ผู้ผลิต : Sunrise
จำนวนตอน : 1 ตอนจบ
ออกฉายในโรงภาพยนต์ครั้ง : 16 มีนาคม 1991
จัดจำหน่ายในรูปแบบ DVD ภาคภาษาไทยโดย : DEX

 

 

F91

หลังจากการต่อสู้ของ “ยูนิคอร์นกันดั้ม” ในปี UC 0096 ที่เป็นการแสดงพลังของนิวไทป์ออกมาอีกครั้ง จนนำไปสู่การปรากฎตัวของโมบิลสูทที่ใช้ระบบ Minovsky craft ที่ทำให้เกิดโมบิลสูทที่มีน้ำหนักมากถึง 80 ตัน แต่สามารถทำความเร็วทะลุกำแพงเสียงได้อย่าง “Ξ Gundam” (ไซ กันดั้ม หรืออ่านว่า คุชชีกันดั้มก็ได้) ในนวนิยาย Mobile Suit Gundam: Hathaway’s Flash (ประกายแสงฮาซาเวย์) ในปี UC 0105 ก็ได้ทำให้รัฐบาลโลกต้องกลับมาทบทวนบทบาทของการพัฒนาโมบิลสูทที่มีขนาดใหญ่โตของ“บริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์” ที่ผูกขาดการผลิตโมบิลสูทรุ่นต้นแบบ (Prototype) และ รุ่นยกโหล (Mass Product)มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่หลังช่วงสงครามหนึ่งปีที่มาทำ MS ขายเป็นจริงเป็นจัง จนเกิดเหตุนอกเหนือการควบคุมหลายต่อหลายครั้ง และนำไปสู่ความสูญเสียทั้งแบบเปิดเผย และทางที่ลับ

 

 

F91 (10)

ก่อนหน้านี้ ทาง”บริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์” ก็รับผิดชอบในการขายชิ้นส่วนอิเลคโทรนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อสังหาริมทรัย์ ไปจนถึงยาสีฟัน!! สำหรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคอวกาศ ก่อนจะมาทำหุ่นยนต์ขายนั่นเอง

 

 

F91 (831

ในที่สุดบริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ ที่เอะอะใครขอซื้อก็ขายให้ ไม่ว่าโจร คนดี คนบ้า หรือใครก็ตามที่เงินถึง จนเกิดปัญหามากมาย ก็ถูกทางสหพันธ์ฉีกสัญญาในการผลิตโมบิลสูทของอนาไฮม์ทิ้ง แล้วให้ บริษัท SNRI (เรียกว่า “ซานารี่” หรือ “Strategic Naval Research Institute” กองทุนวิจัยพัฒนายุทธภัณฑ์นาวิกโยธิน) เข้ามารับช่วงต่อ ซึ่งเป็นบริษัทรัฐวิสหกิจที่ทางสหพันธ์มีส่วนในการลงทุนและควบคุมกิจการ ซึ่งต่างจากบริษัท อนาไฮม์ อิเลคโทรนิคส์ ที่ทำตัวเหมือนนกสองหัวอย่างที่ผ่านๆมา…

 

F91 (6)

และโปรเจคท์ “F Series” (เอฟ-ซีรี่ยส์) ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยการพัฒนา “Gundam F90″ โมบิลสูทสมรรถนะสูงตัวแรกของ SNRI ที่สามารถติดตั้งแพ็คเสริมต่างๆที่ปรับใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งแนวคิดของการพัฒนา F Series ก็คือ “การทำให้หุ่นตัวเล็กลง แต่ทรงพลังมากขึ้น” โดยโครงสร้างหลักๆแล้ว จะเหมือนเอาข้อดีต่างๆของหุ่นยุค UC มายำรวมกัน แล้วตีโจทย์คือการย่อส่วนนั่นเอง

 

และการพัฒนาก็มีมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในปี UC 0123 เรื่องราวของ “Mobile Suit Gundam F91″ ก็เริ่มต้นขึ้น…

 

—-

 

เรื่องย่อ

F91 (7)

“Mobile Suit Gundam F91″ เป็นการเล่าเรื่องราวของ “ซีบุค อาโน” (Seabook Arno) และเพื่อนๆ ผู้อาศัยอยู่ใน “โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์” ในขณะที่กำลังหลบหนีจากการโจมตี กลุ่ม “ครอสโบนแวนการ์ด” ที่มีความปราถนาที่จะก่อตั้ง “จักรวรรดิคอสโมบาบิโลเนีย” (Cosmo Babylonia) และเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นแบบศักดินา

 

F91 (3)

ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ พวกมันก็ได้เข้ามาลักพาตัวเพื่อนของ ซีบุค อาโน ที่ชื่อ “เซซิลี แฟร์ชาย”(Cecily Fairchild) ซึ่งมีศักดิ์เป็นถึง หลานสาวของหัวหน้ากลุ่มครอสโบนแวนการ์ด “มิทเชอร์ โรน่า” (Meitzer Ronah) (แต่เจ้าตัวถูกเลี้ยงโดย”เธโอ แฟร์ชาย” ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรม)

 

ในการบุกครั้งนี้ อาโน และเพื่อนที่เหลือจึงหนีไปด้วยยานกู้ภัย และถูกคนของทางกองทัพสหพันธโลกยื้อตัวให้เข้าไปช่วยในสงครามเพื่อแย่งชิง “โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์” คืนมาแต่เจ้าตัวไม่เล่นด้วย

 

F91 (8)

และด้วยการที่ซีบุค คือ “นิวไทป์” หรือ “ผู้ที่มีความสามารถพิเศษในการรับรู้” จึงถูกทางสหพัธ์กักตัวน้องสาว และเพื่อนๆเอาไว้ที่ยานของสหพันธ์ เพื่อให้ซีบุคขึ้นบังคับโมบิลสูทรุ่นใหม่ของสหพันธ์ที่ชื่อว่า “Gundam F91″ ที่แม่ของเขา “ดร.โมนิก้า อาโน” เป็นผู้ทำการร่วมวิจัยและออกแบบระบบไบโอคอมพิวเตอร์ ออกมาต่อสู้กับครอสโบนแวนการ์ดเพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์แบบจำยอม…และก็พบว่า เซซิลี เป็นนักบินของฝ่ายครอสโบนแวนการ์ดไปซะแล้ว…

 

F91 (14)

ในศึกสุดท้ายของ “สงครามคอสโมบาบิโลเนีย” ซีบุค ได้ขับ F91 เข้าต่อสู้กับ“หน้ากากเหล็ก” หรือ “คารอซโซ่ โรน่า” (Carozzo Ronah) พ่อของเซซิลี ที่ขับโมบิลอารืเมอร์ขนาดยักษ์ “ราเฟรเซีย” (XMA-01 Rafflesia) ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไซโคมิวขั้นสูง จนทำให้ทั้งซีบุค และเซซิเลีย ไม่สามารถต่อกรใดๆได้เลย

 

 

F91 (25)

แต่ด้วยความเร็วของระบบ F91 ที่เร็วจนเกิดภาพติดตา และพื้นผิวเหล็กเกิดการลอก จนดูเหมือนว่าF91แยกร่างได้ (เรียกว่าระบบ MEPE (หรือ Metal Peel-off effect) ก็ทำให้ระบบไซโคมิวมีปัญหาในการตรวจจับวัตถุ จนคารอซโซหลอนประสาท และยิงใส่ตัวเองในที่สุดเป็นอันจบเรื่องราวไป…

 

 

—-

 

 

ตัวละคร

 

F91 (5)

“ซีบุค อาโน”
นักเรียนวิศวกรรมจักรกลของโคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์ ลูกชายของดร.โมนิก้า อาโน วิศวกรของบริษัท SNRI และเป็นคนที่สามารถควบคุมโมบิลสูทรุ่นต้นแบบ Gundam F91 และเอาชนะ “คารอซโซ่ โรน่า” ที่ขับ โมบิลอาร์เมอร์ยักษ์ “ราเฟรเซีย” ในสงครามคอสโม่บาบิโลเนีย

 

 

F91 (39)

“เซซิลี แฟร์ชาย” หรือ “เบร่า โรน่า”
หญิงสาวเพื่อนร่วมชั้นเรียนของซีบุคที่”โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์” ตัวตนจริงๆของเธอคือ “เบร่า โรน่า” ลูกสาวของตระกูลโรน่า
ผู้นำกลุ่มครอสโบน แวนการ์ด แต่ด้วยความอึดอัด กดดันนี้ ทำให้นาเดีย โรน่า แม่ของเธอได้พาหนีออกจากบ้าน และได้อาศัยอยู่กับ “เธโอ แฟร์ชาย” คนขายขนมปังที่โคโลนี่ฟรอนเทียร์โฟว์มานานนับสิบปี จนกระทั่งการบุกของครอสโบน แวนการ์ด ก็ทำให้เธอได้รู้ถึงชาติกำเนิดของตน

 

F91 (2)

“เซอร์บิเน่ต์ ชาโรซ์”
ผู้บัญชาหน่วยรบพิเศษของครอสโบนแวนการ์ด เซอร์บิเน่ต์เป็นนักบินที่เก่งกาจ และมีความภักดีต่อครอสโบนแวนการ์ด อีกทั้งยังถูกฝึกมาเพื่อคุ้มครองเบร่า โรน่า และยังเป็นนักบินที่ประมือกับซีบุคมาก่อนด้วย

 

F91 (4)

“หน้ากากเหล็ก” หรือ “คารอซโซ่ โรน่า”
คารอซโซ่ โรน่า เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่แต่งงานกับ “นาเดีย โรน่า” ลูกสาวของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง “มิทเชอร์ โรน่า” ที่มีความปราถนาที่จะก่อตั้ง “จักรวรรดิคอสโมบาบิโลเนีย” แต่เขาก็ได้อุทิศตนให้กับงานวิทยาศาสตร์ และความทะเยอทะยานของพ่อตาในการเปลียนระบอบปกครองอวกาศ จนทิ้งลูกเมีย

 

F91 (18)

ภายใต้หน้ากากเหล็กนี้ เขากลับมีความสามารถอันน่าทึ่งมากมายโดยเฉพาะการควบคุมโมบิลสูทคราวละมากๆอย่าง “ระบบบั๊ก” (BUGS) จนสามารถทำลาย”โคโลนี่ฟรอนเทียร์วัน” มาแล้ว แต่เมื่อระบบบั๊กถูกทำลาย เขาก็ย้ายมาขับ MA หรือ โมบิลอาร์เมอร์ “ราเฟรเซีย” และสุดท้ายก็ตายลงด้วยมือตัวเอง (เพราะโดน Gundam F91 ใช้งานระบบ MEPE ที่เร็วจนทิ้งเงา และหลอกระบบไซโคมิวได้นั่นเอง…)

 

 

 

โมบิลสูทเด่นๆในเรื่อง

 

F91 (2)

Gundam F91
เป็นโมบิลสูทที่สมบูรณ์แบบตามแนวคิดพัฒนาตั้งต้นของโปรเจคท์ “F Series” (เอฟ-ซีรี่ยส์) โดย บ.SNRI ที่ผ่านการปรับปรุง นับตั้งแต่สายการผลิตรุ่นทดสอบ F90 สิ้นสุดในปี UC 0116

 

F91 (9)

ตัว F91 มีระบบควบคุมที่โดดเด่นที่เรียกว่า “Bio-Computer System” (ไบโอคอมพิวเตอร์ซิสเต็ม) ที่ทำหน้าที่เป็นระบบ “ไซโคมิวแบบย้อนกลับ” (Reverse Psycomu) โดยหลักการแล้วตัวระบบ OS จะทำหน้าที่กรองข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่สมองนักบินโดยตรง ทำให้ปฏิกริยาตอบสนองของนักบินขึ้นสู่จุดพีคสุด และระบบนี้ยังรองรับนักบินทั่วไปที่ไม่ใช่นิวไทป์ ก็สามารถใช้งานได้ (แบบไม่เต็ม100%)

 

F91 (22)F91 (23)

เมื่อมีการตอบสนองที่ว่องไวแล้ว F91 ยังมีระบบขับเคลื่อนที่สูงจนน่าตกใจ เพราะตัวเครื่องได้ติดตั้งระบบ MEPE (Metal Peel-off effect = การลอกร่อนของพื้นผิวโลหะ) ที่เป็นการดึงเอาความเร็วของ F91 ขึ้นสู่จุดสูงสุดบวกกับความร้อนของเครื่องยนต์ ก็ทำให้เกิด “ภาพซ้อน” และมีการลอกล่อนของผิวโลหะเกิดขึ้น ทำให้เซนเซอร์ หรือระบบตรวจจับทุกชนิดจึงมองเห็นF91มีมากกว่า1เครื่อง ยิ่งเฉพาะกับศัตรูที่ใช้ระบบไซโคมิวส่งผ่านข้อมูลผ่านสมองโดยตรงแล้ว เหมือนกับเห็นภาพหลอนของ F91 

 

 

F91 (3)

จุดสังเกตุที่โดดเด่นที่สุดคืออาวุธยิงที่เรียกว่า “เวสเบอร์” หรือ “VSBR” (Variable Speed Beam Rifle=บีมไรเฟิลกระสุนความเร็วสูง) ที่มีรูปแบบการยิงสองแบบ ได้แก่กระสุนความเร็วสุงที่สามารถเจาะทะลุเกราะได้ และแบบที่สามารถชาร์จยิงเป็นกระสุนลำแสงขนาดใหญ่ได้

 

นอกจากนี้ ยังมีอาวุธเพิ่มเติมที่ได้รับการต่อยอดจาก F90 อย่าง โล่แสง”บีมชิลด์” / “บีมเซเบอร์” / “บีมไรเฟิล” และบาซูก้า “บีมลันเชอร์ “ ซึ่งทั้งหมด เป็นอาวุธประเภทบีมชนิดเข้มข้น ให้อาณุภาพที่สูง แต่ใช้พลังงานที่ต่ำกว่ากันดั้มของอนาไฮม์โดยทั่วไป

 

 

 

F91 (4)
Vigna Ghina (วิกน่า กิน่า)
โมบิลสูทของ “เซซิลี แฟร์ชาย” หรือ “เบร่า โรน่า” ที่เน้นความเร็วรอบทิศทางเป็นหลัก โดยเป้นสายที่แตกยอดมาจาก “Berga Giros” ของ “เซอร์บิเน่ต์ ชาโรซ์” สังเกตุจากบรรดาท่อขับดันที่ติดตั้งรอบตัว และแผงหลังที่เพิ่มเข้ามา ตอนแรกได้ทำการเป็นนักบินทดสอบให้กับทางครอสโบน แวนการ์ด แต่เมื่อพบกับซีบุ๊ค Vigna Ghina ของเซซิลีจึงได้ทำการย้ายฝั่งไปอยู่กับสหพันธ์แทน…

 

 

 

F91

Rafflesia (ราเฟรเซีย)
โมบิลอาร์เมอร์ขนาดยักษ์ รูปร่างราวกับดอกไม้ขนาดใหญ่ ติดตั้งปืนใหญ่อนุภาคที่สามารถถล่มโคโลนี่ได้ไม่ยากเย็น รวมไปถึงสายระยางค์ขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่เหมือน “ฮีทร๊อด” หรือ “แส้พลังงานความร้อน” จำนวนมหาศาล ที่ควบคุมด้วระบบไซโคมิว ควบคุมด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว อีกทั้งยังติดตั้ง “I-Field” ที่สามารภป้องกันอาวุธบีมได้ทุกชนิด ดังนั้น ราเฟรเซีย คือ “ป้อมปราการอวกาศ” ที่แข็งแกร่งมากที่สุดอีกหนึ่งเครื่องเลยก็ว่าได้

F91 (12) F91 (13)F91 (21)

แต่จุดอ่อนสำคัญก็คือ การใช้ความคิดที่ควบคุมนี่เอง ที่ทำให้ระบบเซนเซอร์ของราเฟรเซีย ตรวจจับภาพลวงตาของ F91แล้วยิงใส่ตัวเองจนระเบิดไปในที่สุด…

 

 

แอดมิน Ak47

 

 

เพลงปิดฟังสบายๆ Eternal Wind