FAST AND THE FURIOUS 10 ฉากที่น่าจดจำ
12 มีนาคม 2561 17:23 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

fast10-scene-in-memory (1)

หนึ่งในหนังชุดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด คงต้องมีชื่อหนังรถซิ่งแห่งยุคอย่าง Fast And Furious ซึ่งในช่วงที่หนังภาคแรกได้เปิดตัปี2001 ก็คือหนังธรรมดาเรื่องหนึ่งจนวันนี้มันไกลเป็นแฟรนไชส์หนังที่มีมูลค่ามหาศาล ทั้งยังขายสินค้า, โชว์ไลฟ์ผาดโผน รวมถึงกลายเป็นเทรนด์ที่เหล่าขาซิ่งจะต้องแต่งรถตามหนังชุดนี้กันเลยทีเดียว

 

fast10-scene-in-memory (2)

แม้ว่าจะเป็นหนังซิ่ง ที่โลดโผนตลอดทั้งเรื่อง แต่ก็ยังมีหลายฉากที่น่าประทับใจ เกิดขึ้นก็เลยจะรวบรวม 10 ฉากที่น่าจดจำของหนังชุดนี้ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุด มาฝากเช่นเคย แต่จะขอบอกก่อนว่า****บทความเรื่องนี้อาจมีการสปอยล์ฉากสำคัญ**** ถ้าพร้อมแล้วเราจะไปดู 10 ฉากแห่งความทรงจำของผู้เขียนกันได้เลย

 

 

 

 

 fast10-scene-in-memory (2)

10.)  ฉากไล่ล่าบนผืนน้ำแข็ง Fate of Furious (2017)

 หนึ่งในฉากที่เป็นไฮไลท์ของภาคนี้กับเรื่องราวครั้งใหม่ ที่คราวนี้ โดมินิค (วิน ดีเซล) และลูกทีม ต้องหยุดแผนการครองโลกของ ไซเฟอร์ (ชาร์ลิส เทอรอน) ซึ่งงานนี้ไล่ล่ากันบนผืนน้ำแข็งชนิดหลุดโลก (มันหลุดมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วพี่ ฮ่าๆ) งานนี้วายร้ายตัวแม่อย่างไซเฟอร์ จึงจัดหนักด้วยอาวุธยักษ์อย่างเรือดำน้ำ ที่กะจะจมโดมินิคและพวกให้จงได้ ถือเป็นฉากที่อลังการงานสร้างจนไม่สามารถหาคำไหนมาบรรยายแทนคำพูดได้เลย

 

 

fast10-scene-in-memory (3)

 9.) แผนรถลอยฟ้า  Furious 7 (2015)

หนึ่งในฉากสำคัญของเรื่อง เมื่อทีมโดมินิค ที่ต้องทำงานร่วมกับ มร.โนบอดี้ (เคริท์ รัสเซล) ที่ต้องชิงตัว แรมซีย์ (นาธาลี เอมานูเอล) เพื่อจะสามารถเข้าถึงข้อมูล ตาเทพ โปรแกรมคอมพิวเตอร์อัจฉริยะ เพื่อแลกกับข้อมูลสำคัญที่โดมินิคจะล้างแค้น เด็คการ์ด ชอว์ (เจสัน สตาแธม)

 

แต่เพื่อเข้าถึงกลุ่มขบวนรถเป้าหมายที่มีแรมซีย์อยู่  จู่ๆ โรมัน เพียช (ไทริส กิ๊บสัน) ก็เสนอไอเดียสุดบ้าระห่ำด้วยการให้ทุกคนใช้รถประจำตัว  ขนลำเลียงขึ้นเครื่องบิน C-130 แล้วปล่อยลงฟ้าทีละคัน ซึ่งรถก็ได้รับการปรับแต่งสำหรับงานนี้โดยเฉพาะถือเป็นฉากที่เรียกเสียงฮือฮาให้กับแฟนหนัง ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีอารมณ์ขันเมื่อเจ้าของแผนกลับกลัวความสูง

 

 

fast10-scene-in-memory (4)

8.) ซิ่งทะลุข้ามพรมแดนสุดมันส์ Fast & Furious  (2009)

หนึ่งในฉากสุดตื่นเต้นของภาคที่4 เมื่อ โดมินิค และ ไบรอัน โอ คอนเนอร์ (พอล วอล์คเกอร์) รู้เบาะแสของ อาร์ตูโร่ บราก้า (จอหน์ ออติช) จึงแท็กทีมบุกถ้าเสือถึงเม็กซิโกและชิงตัวบราก้ากลับมารับโทษที่อเมริกา ตั่มนไม่ง่ายเมื่อเหล่าบรรดาลูกสมุนของบราก้าเปิดเกมไล่ล่าบนเส้นทางชายแดนอเมริกา ก่อนจะไล่ไปจนถึงเส้นทางอุโมงค์ที่ใช้ขนยาเสพติด เป็นฉากไล่ล่าแบบนอนสต็อปที่ตื่นเต้นจนล้นไปร้อมๆกันก็ว่าได้ 

 

 

fast10-scene-in-memory (6)

7.) Sean VS D.K. Fast & Furious: Tokyo Drift  (2006)

หลังจากที่ ฮาน (ซุง กัง) ตายในการไล่ล่า ฌอน บอสเวลล์ (ลูคัส แบล็ค) จึงตัดสินใจที่จะจบปัญหาด้วยการคืนเงินที่ฮานยักยอกไปให้ คามาตะ (ซอนนี่ ชิบะ) ลุงของ ดีเค หรือ ทาคาชิ วายร้ายของเรื่อง ก่อนจะเสนอให้จบปัญหาด้วยการที่ตัวเองจะแข่งกับดีเคอีกครั้ง

 

แต่เนื่องจากไม่มีรถให้ใช้แล้ว โชคยังดีที่ยังมีซากรถที่เคยใช้แข่งครั้งแรก มาบวกกับรถของพ่อฌอน จึงจับมายำปรับปรุงจนกลายเป็นตัวแข่งที่พร้อมจะลงสนามเจอดีเคอีกครั้ง  กลายเป็นฉากการแข่งที่ดุเดือดและเป็นความแปลกใหม่ของหนังชุดนี้จากฝีมือของ จัสติน ลิน ที่จะพาไปสัมผัสเรื่องราวของการดริฟท์ให้ผู้ชมได้รู้จัก “ใครบอกว่ารถอเมริกันดริฟท์ไม่ได้”

 

 

 fast10-scene-in-memory (1)

6.)  ไล่ล่าสุดวินาศสันตะโร Fast & Fuious 6 (2013)

โดมินิคและทีมครอบครัวนักซิ่ง ที่กำลังเสพสุขจากอิสรภาพจากภาคที่5 แต่ก็ต้องกลับมาบู๊อีกครั้งเมื่อ ลุค ฮ็อบบส์ (ดเวยน์ จอหน์สัน) ขอแรงครอบครัวนักซิ่งไปช่วยทำภารกิจจับกุม โอเวนส์ ชอว์ (ลุค อีแวนส์) และพรรคพวกที่เป็นกลุ่มโจรระดับโปร โดยแลกกับอิสรภาพถ้าภารกิจบรรลุ จะนิรโทษกรรมทั้งหมด

 

ส่วนฉากนี้หลังจากที่ได้เบาะแสของชอว์และพรรคพวกจึงเกิดการไล่ล่าขึ้น แต่ที่ทำเอาครอบครัวนักซิ่งต้องตกใจแบบไม่ทันตั้งตัว เมื่อชอว์เล่นจัดชุดใหญ่รัชดาลัยเธียร์เตอร์ เมื่อพี่แกใช้รถถังไล่บี้ทีมซิ่ง จนเกิดไล่ล่าแบบวินาศสันตะโรกันเลยทีเดียว

 

 

 fast10-scene-in-memory (8)

5.) ปล้นเซฟใจกลางกรุงริโอ  Fast 5 (2011)

ภาค 5 ถือว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนังชุดนี้กว้างขึ้น โดยเฉพาะฉากซิ่งไล่ล่าที่กลายเป็นเครื่องหมายบการค้าของหนังชุดนี้  ซึ่งฉากนี้โดมินิคที่ต้องการจะเดิมพันอิสรภาพครั้งใหญ่จึงเรียกพรรคพวก หรือตัวละครจากภาคที่ผ่านมา ร่วมปฏิบัติภารกิจเดิมพันอิสรภาพมูลค่า 100 ล้านเหรียญฯ

หลังจากวางแผนอย่างดีจนเกือบพลาดท่า  คราวนี้พอลและโดมินิค จึงกระตุกหนวดเสือ เฮอร์แนน เรเยส (โจอาคิม เดอ อัลเมด้า) เจ้าพ่อขาใหญ่แห่งบราซิล ด้วยการปล้นเซฟแล้วใช้รถลากเซฟขนาดมหึมา กลายเป็นการไล่ล่าที่ฉีกขนบหนังปล้นไปอย่างสิ้นเชิง และเป็นฉากที่เวอร์แต่มันส์จนถึงตอนจบ ฮ่าๆ

 

 

fast10-scene-in-memory (10)

4.) ซิ่งทะลุตึกในอาบูดาบี Furious 7 (2015)

โดมินิค ได้รับข้อเสนอจาก มร.โนบอดี้ (เคิร์ต รัสเซลล์) เพื่อแลกกับการล้างแค้น เด็คการ์ด ขอว์ (เจสัน สตาแธม) ซึ่งสิ่งที่มร.โนบอดี้ต้องการแลกเปลี่ยน คือให้ตามหา ตาเทพ โปรแกรมอัจฉริยะที่สามารถเข้าระบบดิจิตอลทุกรูปแบบ ซึ่งหลังจากช่วย แรมซีย์ (นาธาลี เอ็มมานูเอล) แฮ็คเกอร์สาวผู้สร้างตาเทพ แผนต่อมาคือหาเบาะแสของตาเทพ ก่อนที่ทีมซิ่งจะบุกอาบูดาบี

ในที่สุดโดมินิคและไบรอันพบเบาะแสตาเทพซึ่งอยู่ที่รถสปอร์ตคันหรู Lykan HyperSport ซึ่งผลิตแค่ 7 คันในโลก

หนังปล้นโดยปกติจะต้องย่องแล้วเอาของออกมาโดยไม่ให้จับได้ แต่สำหรับครอบครัวทีมซิ่งฉีกตำราการปล้นทุกแบบ ก่อนที่พวกเขาจะเอาไปทั้งคัน จนจะเอ๋กับเด็คการ์ด ชอว์ นำไปสู่การซิ่งทะลุตึกใจกลางอาบูดาบีที่ไม่มีใครที่ไหนจะทำได้เฉกเช่นเขาอย่างแน่นอน….

 

 

 

fast10-scene-in-memory (12)

3.)  ฉากปล้นรถน้ำมัน Fast and Furious  (2009)

ฉากเปิดภาคที่4 ของหนังชุดนี้ซึ่งเล่าจากเหตุการณ์ภาคแรก โดมินิค และ เล็ทตี้ ร่วมด้วยพรรคพวกอย่าง ฮาน (เป็นเหตุการณ์ก่อนภาค3) ทำการปล้นรถบรรทุกน้ำมัน ซึ่งเป็นฉากหนึ่งที่ชวนตื่นเต้นตั้งแต่เริ่มเลยก็ว่าได้ และยังเป็นการคาราวะภาคแรก ที่สำคัญภาคนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หนังชุดนี้ไปไกลกว่าที่เราคิดเลยทีเดียว
ส่วนที่มาของการปล้นครั้งนี้ ถูกเล่าในหนังสั้น Los Bandorleros ตัดสินใจปล้นน้ำมันเพื่อที่จะช่วยชาวบ้านที่ดอมไปกบดานอยู่ที่นั่นด้วยประการฉะนี้นักแล…

 

 

 

fast10-scene-in-memory (13)

2.) ศึกล้างตา The Fast and The Furious (2001)

ฉากที่น่าจดจำจากภาคแรก เมื่อโดมินิคนำ Dodge Charger ของพ่อ จอดรอไบรอันให้มาเทียบเส้นสตาร์ทโดยเส้นชัยคือทางรถไฟที่พวกเขาต้องข้ามไป  ซึ่งถ้ามองกลับไปในปีที่หนังฉาย มันอาจจะเป็นฉากที่ธรรมดาไม่ได้พิเศษอะไร แต่เวลาผ่านไปมันกลายเป็นฉากคลาสสิคที่ติดตาแฟนหนังชุดนี้จนถึงปัจจุบัน

 

 

 

 fast10-scene-in-memory (16)

1.)    For Paul Furious 7 (2015)

นี่คือฉากที่น่าจดจำที่สุดของหนังชุดนี้ในภาคที่7 กับการที่ ไบรอัน เลือกยุติชีวิตนักซิ่งอย่างเป็นทางการ ก่อนจะขับพร้อมโดมินิคและแยกทาง ซึ่งนอกจากจะเป็นการอำลาตัวละครตัวนี้แล้ว ยังเป็นฉากสุดท้ายที่ เจมส์ วาน ผู้กำกับ และ วิน ดีเซล รวมถึงทุกคนที่มีส่วนร่วมในหนังชุดนี้พร้อมใจกันส่ง พอล วอล์คเกอร์ สู่สวรรค์ 

 

fast10-scene-in-memory (15)

ฉากนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากประเพณี Missing Man formation ซึ่งเป็นรูปแบบการบินเพื่อสดุดีผู้กล้าหาญที่จากไป ก่อนที่จะถูกปรับใช้ในวงการแข่งรถเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต ที่สำคัญเพลง See you Again กลายเป็นบทเพลงที่อยู่ในความทรงจำเมื่อไรที่นึกถึงนักแสดงคู่บูญอย่างพอล วอล์คเกอร์ นั่นเอง

 

 

———————————————-

fast10-scene-in-memory (17)

ทั้งหมดนี้คือ 10 ฉาก แห่งความทรงจำของหนังชุด Fast and The Furious ซึ่งอาจจะเป็ฯหนังชุดที่ใครๆเติบโตไปด้วยกันจากหนังฟอร์มเล็ก สู่การผจญภัยที่กว้างขึ้นและเชื่อว่ายังคงไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอน แล้วแฟนๆมีฉากไหนในหนังชุดนี้ที่ยังอยู๋ในใจก็ลองแชร์กันมาได้เลยครับ

 

 

@P.PETTY

ข้อมูลประกอบ

-          หนังสือ Starpics Special… ROAD TO FAST&FURIOUS

-          http://fastandfurious.wikia.com/wiki/Main_Page