Call of Duty : WW II [รีวิว / เนื้อเรื่อง / Ps4 / PC / XboxOne]
08 พฤศจิกายน 2560 10:35 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

dicsbanner03-2015-c 

 

 *** ขอขอบคุณร้าน Disc Channel ที่ช่วยอนุเคราะห์แผ่นเกมส์สำหรับใช้ในการรีวิวครั้งนี้ด้วยครับ

 

 

Call-of-Duty-WWII_2017

Call of Duty : WW II

ประเภท : FPS 

เครื่อง : Xbox One / PlayStation 4 / PC 

พัฒนาโดย : Activision / Sledgehammer

วันวางจำหน่าย : 3 พฤศจิกายน 2017

ลิ้งค์ Official Site

ใครที่ไม่อยากอ่านหรือถูกสปอยล์เนื้อเรื่อง ให้กดข้ามไปอ่านเกมเพลย์ และ รีวิว ได้เลย

Official Call of Duty WWII  (6)

 “สงครามโลกครั้งที่ 2″ ถูกนับเป็นมหาศึกของโลกอีกครั้งหนึ่งที่มีเรื่องราว และประวัติศาสตร์อันแสนซับซ้อน อีกทั้งยังเป้นสงครามที่เกิดการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินนับล้าน ความขัดแย้งจากซีกโลกหนึ่ง มายังอีกซีกโลกหนึ่ง ถูกเรียงร้อยเรื่องราวผ่านสื่อบันเทิง วรรณกรรมต่างๆมามากมายหลายต่อหลายครั้ง รวมไปถึง วิดิโอเกม

 

และนี่ก็เป็นอีกครั้ง กับการ “ย้อนหาสู่ต้นกำเนิด” ของแฟรนไชส์เกมเดินหน้ายิงที่หลังจากออกทะเล ออกอวกาศกันมาแล้ว กับภาคใหม่ล่าสุด Call of Duty : WWII

 

 

เกมนี้คือ!?

Official Call of Duty WWII  (10)

 Call of Duty: WWII เป็นผลงานการสร้างของ Activision / Sledgehammer ที่คราวนี้กลับมาเน้นเรื่องราวในประวัติศาสตร์สงครามโลก ตามคำเรียกร้องของแฟนๆเกมเดินหน้ายิงที่ไม่อยากได้สงครามอวกาศอีกต่อไป…เนื้อหาโดยรวมจะเล่าถึงเรื่องราวความกล้าหาญในระดับโลก ผ่านกลุ่มพี่น้องพลทหารร่วมรบ ที่ออกไปต่อสู้เพื่อรักษาอิสรภาพในดินแดนที่อยู่ใกล้กับการปกครองแบบเผด็จการ ผู้เล่นจะได้เข้าร่วมในแคมเปญที่เข้มข้นและรุนแรงผ่านสนามรบที่ดุเดือด โดยเผชิญสภาพภูมิประเทศทั่วยุโรปในประสบการณ์อันน่าทึ่งที่ตัวเกมได้มอบให้กับผู้เล่น ด้วยงานภาพแบบใหม่จากเอนจิ้นพัฒนาโดยเฉพาะ ที่ถ่ายทอดอารมณ์ดราม่าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สองได้ ราวกับชมภาพยนตร์ชั้นเยี่ยม

Call-of-Duty-WWII_2017 (2)

จากนี้ไปจะเป็นการสปอยล์เนื้อเรื่อง ใครที่ไม่อยากอ่านหรือถูกสปอยล์ ให้กดข้ามไปอ่านเกมเพลย์ และ รีวิว ได้เลย

+

+

+

เราเตือนคุณแล้ว

+

+

 

Call-of-Duty-WWII_Review (1)

เรื่องราวของเกม CODWW2จะเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของ พลทหาร โรนัลด์ “เรด”แดเนียล (Ronald “Red” Daniels) ตัวเอกของเกมนี้

 

Call-of-Duty-WWII_Review (2)

ในช่วงบุกหาด “โอมาฮ่า บีช” หาดนอร์มังดีประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 6 มิถุนายน 1844 หรือ D-Days ร่วมกับมิตรสหายในหมู่ของเขา ทั้งพลทหารซัสแมน (Zussman) , พลทหารสไตล์ (Stiles) , ช่างเทคนิค อาเยลโล่ (Aiello) , จ่าเพียร์สัน (Pierson) และ ผู้กองเทิร์นเนอร์ (Turner) ที่ร่วมกันบุกหาดโอมาฮ่าบีช และขึ้นมายังจุดนัดพบได้ แต่พลทหารซัสแมนเพื่อนรักของแดเนียลกลับถูกแทงเข้าที่ท้องจากการปะทะกับทหารนาซี ทำให้ต้องพักรักษาตัวนานถึง 7 สัปดาห์ ก่อนจะกลับมาร่วมกับทีมในภารกิจ Operation Cobra เข้าทำลายอาวุธต่อต้านอากาศยาน และพากองทัพสัมพันธมิตรเข้าตรึงกำลังที่เมืองมาริกินีย์ และหลังจบภารกิจทีมของแดเนียลก็ได้รับการติดต่อจากท่าน นายพลเดวิส (Major Davis) เพื่อช่วยทีมเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษในการทำลายรถไฟขนจรวด V2 ของกองทัพนาซี หลังจบภารกิจนี้ สองเพื่อนรักแดเนียล และ ซัสแมน ได้แยกตัวกันเพื่อทำภารกิจตามกรมกอง แต่ก็ได้ทหารฝรั่งเศสนาม รอสโซ(Rousseau)   ซึ่งเป็นผู้นำพวกเขากลับไปที่ทีมอีกครั้ง

 Call-of-Duty-WWII_Review (3)

ในสัปดาห์ต่อมา อสโซ ได้อธิบายรายละเอียดแผนการปลดแอกปารีสให้พ้นจากอำนาจการปกครองของทหารเยอรมัน โดยขอให้ทีมของแดเนียลช่วย เธอและโครว์ลี่ย์ คู่หูได้ทำการแทรกซึมเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของเยอรมัน โดยการปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของนาซี และ ก่อการจลาจลภายในเพื่อส่งสัญญาณให้ทีมของแดเนียล เข้าสู่สำนักงานใหญ่และเข้าควบคุมสถาณการณ์ได้ ส่วนรอสโซได้แยกตัวและก็พบกับ “ไฮน์ริช” (Heinrich) ทหารนาซีที่ฆ่าล้างครอบครัวของเธอโดยบังเอิญ จึงได้มีการต่อสู้กัน และจบลงที่การตายของไฮน์ริช ปารีสถูกปลดปล่อยจากอำนาจของนาซีสำเร็จ

 

Call-of-Duty-WWII_Review (4)

อีกสองเดือนต่อมากลุ่มของแดเนียลได้ย้ายไปทำภารกิจที่ เมืองอาเค่น(Aachen) และเข้าตีโรงแรมที่ถูกยึดครองโดยเยอรมัน อย่างไรก็ตามพวกเขาค้นพบพลเรือนภายในโรงแรม ทำให้ ผู้กองเทิร์นเนอร์ สั่งอพยพผู้คน แต่ระหว่างนั้นเด็กน้อยคนหนึ่งชื่อ อันนา (Anna)ได้หายตัวไป แดเนียลจึงอาสาออกตามหาตัวเธอกลับมายังกลุ่มอพยพ แต่ทว่าทหารเยอรมันได้ไล่ตามขบวนอพยพ และเปิดฉากยิงรถบรรทุกพลเรือนอย่างโหดเหี้ยม พี่สาวของเด็กน้อยอันนาถูกสังหารในเหตุการณ์นี้ จ่าเพียร์สันได้สั่งให้รถบรรทุกออกตัวทันที และได้บอกกับ ผู้กองเทิร์นเนอร์ ว่าเราทำเต็มที่เพื่อช่วยคนแล้วแต่ไม่มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ สงครามมันก็แบบนี้…

 

Call-of-Duty-WWII_Review (5)

หลังจากนั้นในศึกที่ ป่าเฮอร์เก้น (Hürtgen) พวกของแดเนียลได้รับภารกิจให้ไปยังเนินเขาที่ 493 หลังจากปกป้องสะพานที่สำคัญจากเยอรมัน ผู้กองเทิร์นเนอร์ แบ่งกองทหารออกเป็นสองกลุ่ม  เพียร์สันไปกับ ซัสแมน และทหารอีกส่วนหนึ่งได้รับมอบหมายให้เดินไปที่เนินเขาต่อไป ในขณะที่ ผู้กองเทิร์นเนอร์ และ แดเนียล  รวมไปถึงทีมอื่นๆ ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวจะยิงคุ้มกัน ก่อนที่จะมารวมพลกันที่ฐานของเนินเขา และทำภารกิจทำลายปืนใหญ่เยอรมัน  อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ ผู้กองเทิร์นเนอร์ เสียชีวิตในสนามรบ ทำให้ จ่าเพียร์สัน เป็นหัวหน้าหมวดแทนเพราะเป็นคนที่มียศสูงที่สุดในกองร้อย ณ เวลานั้น และแดเนียลเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นผู้ช่วย

 

Call-of-Duty-WWII_Review (6)

ในการรบที่ บัลจ์ (Battle of the Bulge) หน่วยของแดเนียลถูกล้อมด้วยทหารเยอรมันจำนวนมาก แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากพลทหารช่างผิวสี ฮาร์เวิร์ด ที่ทำให้ทีมของแดเนียลสามารถติดต่อขอกำลังเสริมจากทางอากาศได้ และจบลงด้วยชัยชนะแบบฉิวเฉียด ซึ่งในศึกนี้จากการสอบปากคำเชลยศึกนาซีที่มีท่าทีพิรุธ ก็พบว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้ทำลายสะพานที่เมืองรีมาเก้น (Remagen)ซึ่งเป็นสะพานสุดท้ายของ แม่น้ำไรน์ หลังจากซุ่มโจมตีและทำลายรถบรรทุกเพื่อนำระเบิดไปทำลายสะพาน จ่าเพียร์สันสั่งให้ทีมโจมตีฐานทัพอากาศที่ใกล้เคียงเพื่อทำลายวัตถุระเบิด แต่ว่าการโจมตีล้มเหลวและ แดเนียล กับ ซัสแมน ตกอยู่ในวงล้อมของกองทัพนาซี  ซัสแมนถูกจับตัวไป ส่วนแดเนียลรอดมาได้

 

Call-of-Duty-WWII_Review (8)

หลังจากฟื้นตัว แดเนียล กล่าวโทษเพียร์สันที่ส่งภารกิจที่เสี่ยงเกินจนทำให้เพื่อนรักถูกจับตัวและไม่ยอมไปช่วยเพื่อน เขาเผชิญหน้ากับเพียร์สันในเต็นท์ แต่ก็เคลียร์กันได้ เพราะเข้าใจในตัวของจ่าเพียร์สันที่อยากจะส่งตัวมิตรสหายกลับไปให้มากที่สุด ด้วยการลงชื่อในใบส่งตัวกลับ แต่แดเนียลไม่ยอมรับ และฉีกใบส่งตัวกลับทิ้ง เพื่อร่วมรบจนถึงที่สุด

 

Call-of-Duty-WWII_Review (7)

ส่วนซัสแมนถูกจับไปที่ ค่ายสตาแล็ก9B(Stalag IX-B) ซึ่งเป็นค่ายกักกันเยอรมัน ซัสแมนที่ถูกจับตัวมา ก็โดนสอบปากคำอย่างหนักโดยทหารนาซี และเมื่อเขาปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือทุกวิถีทาง เขาถูกทำร้ายและถูกส่งขึ้นไปบนขบวนรถไฟสำหรับเชลย และมุ่งหน้าไปยัง ค่ายกักกันเบอร์ก้า (Berga)

 

 Call-of-Duty-WWII_Review (9)

พวกของแดเนียล จ่าเพียร์สัน และ ชาวคณะมาถึงค่ายกักกันเบอร์ก้า ในวันที่ 4 เมษายน 1945 ตามข่าวกรองที่ได้รับมาว่ามีทหารสัมพันธมิตรถูกจับเป็นเชลยที่ค่ายนี้ แต่ทว่าไม่พบร่องรอยของผู้คน ที่นั่นถูกทิ้งร้างจากการอพยพหมดแล้ว จะเหลือก็เพียงซากศพของเหล่าเชลยศึก และทาสที่ผ่านการทดลองรมแก๊ส รวมไปถึงการถูกใช้แรงงานอย่างหนัก  แต่แดเนียลและจ่าเพียร์สันสังเกตเห็นรอยเท้าที่ยังใหม่ และคาดว่ายังคงไปได้ไม่ไกลนัก จึงออกเดินทางไปยังชายป่าด้านข้างค่าย เมื่อแกะรอยไปได้ซักระยะ พวกของแดเนียลก็ได้ยินเสียงของทหารเยอรมัน และตามเสียงนั้นไป ทั้งหมดก็พบว่ามีการสังหารเชลยศึก และนำมากองเอาไว้รอการกำจัดโดยทหารนาซี และ ซัสแมนกำลังจะเป็นรายต่อไป แต่โชคดีที่แดเนียลลงมือสังหารทหารนาซี และช่วยเพื่อนรักออกมาได้แม้จะอยู่ในสภาพเจียนตาย…เพื่อนพ้องได้รวมตัวกัน และเดินทางกลับบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเอง

 

Call-of-Duty-WWII_Review (12)

จ่าเพียร์สัน เลือกที่จะแยกไปยังกรมของตัวเอง และรอวันเรียกตัวต่อไป

 

Call-of-Duty-WWII_Review (10)

พลทหารสไตล์ ตั้งใจจะนำภาพถ่ายที่ได้จากค่ายกักกันเบอร์ก้า ออกตีแผ่ให้สาธารณชนรับรู้ผ่านหนังสือพิมพ์

 

 Call-of-Duty-WWII_Review (13)

พลทหารซัสแมน ได้รับการพักฟื้นที่โรงพยาบาลของกองทัพ แต่อาการดูอิดโรยอย่างมาก และไม่รู้ว่าร่างกายจะกลับมาเหมือนเดิมได้หรือไม่

 

Call-of-Duty-WWII_Review (14)

พลทหารแดเนียลกลับไปยังบ้านเกิดที่เท็กซัสหลังสงคราม และใช้ชีวิตครอบครัวอย่างมีความสุข

 

อวสาน

 

+

+

+

+

+

+

+

 

Gameplay

 

Call-of-Duty-WWII_Review (15)

การเล่นเกมนี้ยังคงเหมือนเดิม วิ่งจากจุด A ไปจุด B ทำตามสคริปท์เนื้อเรื่อง พร้อมกับชมคัตซีนสวยๆ แต่ก็มีส่วนที่ต่างจาก COD ภาคยุคPS4 ก็คือการกลับไปใช้แถบ HP เหมือนเกมยุค Medal of Honor หรือเกมสงครามโลกที่ฮิตมากในยุคปี 2000 แต่จะมีระบบใช้ความสามารถพิเศษของเพื่อนร่วมทีมเข้ามาเช่นการมาร์คตำแหน่งศัตรูในฉาก การขอกระสุนและกล่องพยาบาลสำรอง เกมนี้แถบ HPไม่ฟื้นอัตโนมัติในโหมดเนื้อเรื่อง จนกว่าจะใช้กล่องพยาบาล เก็บได้สูงสุด 4 กล่อง  แถมยังมีไอเทมลับตามฉาก และค่าศีลธรรมที่ได้มาจากการตัดสินใจไว้ชีวิตทหารที่ยอมจำนนอีกด้วย

 

Call-of-Duty-WWII_Review (17)

สิ่งที่ทำให้ COD ยัคงความน่าเล่นก็คือระบบออนไลน์ Multiplay ที่รวดเร็วฉับไว และขับเคี่ยวกับเกมคู่แข่งอย่าง Battlefield โดยในภาคนี้จะยังคงความสนุกแบบ Casual หรือเข้าถึงได้ง่าย ไม่ซับซ้อนมาก อารมณ์เหมือนเล่นเกมออนไลน์ไล่ยิงในฉากขนาดกลางมากกว่าการทำสงครามในภาพรวมแบบ BF ซึ่งตัวเกมยังคงทำหน้าที่นี้ได้ดีเหมือนเดิม

 Call-of-Duty-WWII_Review (16)

หลบหลังรั้วไม้ สาดกระสุนใส่ยังไงก็ตาย เพราะกระสุนทะลุไม้ ฟาง และสิ่งปลูกสร้างที่ควรจะทะลุได้

 

 Call-of-Duty-WWII_Review (18) Call-of-Duty-WWII_Review (19)

โหมดออนไลน์เกมนี้ ไม่มีที่ยืนให้มือใหม่เด็ดขาด! ผู้เล่นเลเวลสูง จะมี Perk ติดตัวที่เยอะ ปืนแรงกว่าจากผลของอุปกรณ์แต่งปืน และถูกฆ่ายากกว่าผู้เล่นเลเวลน้อยๆ ซึ่งตัวเกมไม่ได้มีการแบ่งระดับผู้เล่นออกจากกัน ทำให้เป็นมหกรรมไล่บี้จนหัวร้อน และเกิดความต่างอย่างชัดเจนด้วย

 

Call-of-Duty-WWII_Review (20)

แม้ว่าแผนที่จะเล็ก แต่ตัวเกมก็ยังมีคลาสต่างๆของตัวละครมาให้เล่น เช่น สไนเปอร์ , ไรเฟิลแมน , พลร่ม เป็นต้น โดยอาวุธที่ถือก็จะต่างกันออกไป รวมไปถึงการปลดล๊อกปืนใหม่ๆก็ต้องเล่นตามเลเวลที่กำหนด ถึงจะนำเอาเหรียญ Token ที่ได้จากการอัพเลเวลไปปลดล๊อก

 

 Call-of-Duty-WWII_Review (21)

และเกมนี้ยังมีระบบ “กาชา” เข้ามา โดยจะเป็นแพ็กอุปกรณ์เสริมปืนที่มาจาก Supply Drop เมื่ออนไลน์ครบกำหนดก็สามารถเปิดกล่องไอเทมดังกล่าว หรือจะซื้อเอาก็ได้

 

Call-of-Duty-WWII_Review (22)

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึง Theme ของ WW2 แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ของ COD เลยก็คือ โหมด นาซีซอมบี้ โดยโหมดซอมบี้ภาคนี้ก็จะอัพเกรดไปอีกขั้น เพราะงานภาพที่ถ่ายทอดความสยองของซอมบี้ออกมาอย่างดี และการที่ตัวละครมี Perk ใหม่ๆเข่ามา ทำให้การเล่นในโหมดนี้สนุกกว่าซอมบี้ภาคก่อนๆพอสมควร

 

 

Call-of-Duty-WWII_Review (23)Call-of-Duty-WWII_Review (24)

โดยลักษณะการเล่นในภาพรวมจะเล่นเป็นการฆ่าซอมบี้เพื่อสะสมเงินไปปลดล๊อกโซนใหม่ๆ หรือการไขปริศนาเล็กๆน้อยๆในระหว่างพักรอซอมบี้ Wave ใหม่ เพื่อเปิดทางลับไปยังร้านขายปืน หรือไอเทมเสริมสมรรถภาพได้…

 

 

 

 

 

Call-of-Duty-WWII_Review (26)

Review 8/10  Rank B

เนื้อเรื่อง 3/3 , เกมเพลย์ 2/3 , งานภาพ 2/3 , ความชอบ 1/1

จุดขายที่ดีงามของ COD คือเนื้อเรื่องที่เข้มข้นเสมอต้นเสมอปลาย แต่โหมดออนไลน์กลับรู้สึกเฉยๆแฮะ

 

COD จัดเป็นเกมเดินหน้ายิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ให้เราได้ลุ้นกันว่า ในแต่ละปีจะมี Theme เรื่องไปในทิศทางไหน ซึ่งทีมงาน Sledgehammer ได้หยิบเอาหน้าประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 มาใช้งานในยุคที่มีแต่เกมยิงไฮเทคล้ำโลกเกลื่อนเมือง แน่นอนว่าเมื่อหยิบ Theme มาใช้ย่อมมีการเปรียบเทียบแน่นอน

 

Call-of-Duty-WWII_Review (31)

ในส่วนเนื้อหาเกมที่มีสงครามสเกลใหญ่ๆ สามารถดึงอารมณ์ร่วมได้จาก Speeach ของตัวละคร คำพูดปลุกขวัญแบบหนังอวยอเมริกัน หรือการวางสคริปท์ของตัวเกมทำออกมาดีมาก จังหวะการเล่าเรื่องด้วยสถาณการณ์ใส่มาถูกจังหวะ และทำให้อยากรู้ว่าปลายทางของเกมนี้จะไปจบตรงไหนยังไง และค่อนข้างชูจุดขายเรื่องมิตรภาพของเพื่อนฝูงและผู้บังคับบัญชาที่มีแต่เรื่องเก็บไว้ในใจตลอด เสียดาย ที่เรารู้เรื่องราวเชิงลึกของตัวละครเหล่านี้น้อยไปนิด ถ้าใส่ปมมาซักหน่อย จะอินหนักมากขึ้นกว่านี้ แต่แค่นี้ก็ให้เต็มแล้ว เพราะสคริปท์มันดีจริงๆ

 

Call-of-Duty-WWII_Review (27)

เกมเพลย์โดยรวมมันเป็นการ Back to the Basic กับเกมเพลย์ที่เชยๆในส่วนของโหมดเล่นเดี่ยว เราเจอแบบนี้มาในยุค2000 ยุคแถบเลือดคือชีวิตจิตใจ ซึ่งมันขัดๆกับเกมเพลย์ที่ต้อง Ambush ตัวละคร และทีมไปข้างหน้าตามบทบาท เพราะยิ่งยื้อ ศัตรูก็มาเรื่อยๆ ในขณะที่กระสุน และกล่องพยาบาลค่อยๆหมดลงเรื่อยๆ ซึ่งในระดับความยาก Veteran เป็นโหมดเนื้อเรื่องที่หัวร้อนราวกับเล่นออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะเราจะโดนกระสุนเต็มที่ก็สองนัดโหลดเซฟใหม่ได้เลย

 

Call-of-Duty-WWII_Review (33)

ในส่วนโหมดออนไลน์ทำออกมาดีนะ จับคู่ หาห้องให้เล่นเร็วมากๆ แต่น่าเสียดายที่ตัวเกมไม่แบ่งความเก่งของผู้เล่น พวกเลเวลต่ำๆไปวิ่งรวมกับพวกเวล 50+ นี่มันก็ “ไก่” ดีๆ  อัตราการตายสูงมากกว่า เพราะยิ่งเลเวลสูง สกิลประจำคลาส ไอเทม ปืน Perkต่างๆ หรือการแต่งปืนนั้นมีผลกับ Statตัวละคร ยังไม่รวมถึงระดับความหายากของไอเทมที่ได้จากการเปิดกล่องกาชานะ ดังนั้นผู้เล่นใหม่ก็ขอให้ทำใจว่ามาแจกแน่ๆ อย่างน้อยก็5-6ตัวต่อ1เกม โชคดีที่โหมด Team Deathmatch ยอดนิยมนั้นจบเกมลงใน 4-5 นาทีต่อรอบเท่านั้น

 

Call-of-Duty-WWII_Review (28)

จ่าเพียร์สัน รับบทโดย จอช ดูฮาเมล หรือ ผู้กองเลนน๊อกซ์จากหนัง Transformers ก็แกะCGมาคล้ายตัวจริงมากๆ

 

Call-of-Duty-WWII_Review (29)

ในส่วนของงานภาพ ตัวเกมเลือกที่จะหยิบเอาอีเว้นท์สำคัญอย่าง D-Days มาใช้ ซึ่งเราๆท่านๆที่ผ่านเกมยุค Medal of Honor :Allied Assault ก็คงรู้ๆแนวทางการนำเสนอบ้าง แต่เมื่อเข้าเกมแล้วมันกลับดุเดือด เลือดพล่านเหมือนในภาพยนตร์ Saving Private Ryan กระสุนนาซีบินว่อนหาด หรือฉากอื่นๆเช่นในปารีสเองก็ทำออกมาดีไม่แพ้กัน  แถมการตายของเหล่าทหารตัวประกอบทำแผลฉีกขาด หัวกระจุยได้แบบว่าเหมือนพร๊อพถ่ายทำหนัง ซึ่งคือดีงามมาก แต่กับตัวละครที่เรายิงเล่น กลับไม่มีบาดแผลอะไรแบบนี้เลย (ต่างจากภาค World At War เรายิงกันแขนขาขาดเลยนะ)

 

Call-of-Duty-WWII_Review (34)

อีกทั้งเมื่อเราพิจารณาฉากต้นไม่ใบหญ้า ตึกรามบ้านช่องต่างๆ ก็ยังพอมี Texture ที่หยาบๆ โหลดเป็นเลเยอร์ไปบ้างในฉากสเกลใหญ่ๆ แถมชวนกระตุกนิดหน่อย แต่ดีที่ได้แสงและเงาเข้ามาช่วยทำให้งานภาพออกมาในระดับมาตรฐานเกมยุคนี้ไป ไม่งามหยดเว่อวัง แต่ก็สวยงามในแบบ CODละนะ

 

Call-of-Duty-WWII_Review (35)

สรุปโดยรวม ใครที่ชื่นชอบเรื่องราว หรือ Theme สงครามโลกครั้งที่สองที่ถ่ายทอดเรื่องราวเหมือนดูภาพยนตร์ละก็ ลองหามาติดบ้านดู หรือจะรอช่วงลดราคาก็ได้ แต่ถ้าใครคิดว่าจะซื้อมาเสพเกมเพลย์โหมดออนไลน์ อันนี้ต้องคิดให้ดีๆหน่อย เพราะความกร่อยของโหมดออนไลน์คือความเหลื่อมล้ำของผู้เล่นที่มีมากจนเกินไปนั่นเอง ซื้อเกมล้วยังต้องวัดดวงกับกล่องกาชาด้วยมันก็จะแหม่งๆหน่อย

 

แอดมิน AK47

 

 

Trailer