Pandemic หยุดวิบัติ ไวรัสซอมบี้ [รีวิว/เรื่องย่อ/Review/ตัวอย่างหนัง]
18 พฤษภาคม 2559 00:10 น.
Share on FacebookTweet about this on TwitterShare on Google+

Pandemic-(1)

 

ชื่ออังกฤษ : Pandemic
ชื่อไทย : หยุดวิบัติ ไวรัสซอมบี้
ประเภท : ภาพยนตร์
แนว : Action, Sci-Fi
ผู้กำกับ : John Suits
ผู้ประพันธ์ : Dustin T. Benson
ค่าย : XLrator Media
ความยาว : 91 นาที
ฉาย : 19 พฤษภาคม 2016

 

 

ดูท่าแล้ว FPS (First-Person Shooter) คงจะไม่ได้เป็นแค่ชื่อแนวเกมอีกต่อไป เมื่อปัจจุบันเริ่มมีหนังแอคชั่นยิงกระหน่ำ (เหยียบ)ซ้ำกระจาย ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ถูกสร้างให้อารมณ์คล้ายเกมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับ Pandemic  หยุดวิบัติ ไวรัสซอมบี้ ซึ่งเหมือนจะเป็นหนังซอมบี้ธรรมดาทั่วไป แต่ด้วยความที่มีความเป็น Sci-Fi (ออกแนวผีชีวะ) ที่ถ่ายทอดฉากต่อสู้กับฝูงซอมบี้ด้วยปืนในมุมมองของตัวละคร ทำให้หนังแอคชั่นเรียกนี้ หากจะถูกเรื่องว่าเป็นหนัง FPS ด้วยก็คงไม่แปลกอะไรนัก

 

Pandemic-(2)

 

 

เรื่องย่อ

 

โดยสำหรับเรื่องราวของ Pandemic หยุดวิบัติ ไวรัสซอมบี้ ว่าด้วยหายนะที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เมื่อโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสปริศนา ที่เปลี่ยนผู้คนกลายเป็นซอมบี้เที่ยวออกอาละวาด จนเผ่าพันธุ์มนุษย์เข้าใกล้ภาวะการสูญพันธุ์

 

4 สมาชิก หน่วยพิทักษ์เดนตาย นามว่า “3-14 (ทรี โฟร์ทีน)” จึงต้องออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ยังไม่ติดเชื้อ และบันทึกภาพเหตุการณ์ เพื่อเก็บเป็นข้อมูลส่งไปยังศูนย์วิจัยต่อไป ทั้งนี้เมื่อเข้าสู่ ลอส แองเจลิส พวกเขาก็ต้องรับมือกับมหันตภัยของจริง กับการประจันหน้ากับประชากรซอมบี้ ที่แยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร… ใครคน ใครซอมบี้?

 

Pandemic-(12)Pandemic-(3)

 

แพทย์หญิงลอเรน ก็คือ หนึ่งในทีมปฏิบัติการของหน่วย 3-14 เมื่อเธอ คือ หนึ่งในมนุษย์ผู้มีชีวิตรอด อีกทั้งยังเป็นหมอ แต่กลับต้องมาเข่นฆ่าปราบเหล่าซอมบี้ ซึ่งล้วนเคยเป็นมนุษย์มาก่อน งานนี้ถ้าเธอไม่ฆ่า เธอเองก็จะกลายเป็นผู้ถูกฆ่าแทน และทางเดียวที่เธอจะฝ่าฟัน เพื่อให้ภารกิจสุดอันตรายนี้ผ่านพ้นและนำชีวิตกลับไปได้อย่างปลอดภัยได้ ก็คือ “คิดเสียว่า มันเป็นเกมไปซะ!”

 

Pandemic-(9)Pandemic-(7)Pandemic-(5)

 

งานฆ่าซอมบี้(เช่นผักปลา)จึงต้องมา แต่ถ้าพลาด นั่นหมายถึง ชีวิต!! ว่าแต่… เธอและทีมจะกลับมาได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ดีหรือไม่ และแผนการยับยั้งหายนะครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ? ติดตาม “Pandemic หยุดวิบัติ ไวรัสซอมบี้” หนังแอคชั่น Sci-Fi แนวใหม่ได้ 19 พฤษภาคม นี้.

 

 

 

ตัวละคร/นักแสดง

 

ลอเรน (Lauren) รับบทโดย เรเชล นิโคลส์ (Rachel Nichols)

แพทย์สาวที่พึ่งถูกเรียกตัวมายัง ลอส แองเจลิส เพื่อปฏิบัติภารกิจหยุดยั้งเชื้อไวรัสปริศนา ในสมรภูมิครั้งนี้ เธอต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ภารกิจสำเร็จและมีชีวิตรอดกลับไปช่วยลูกและครอบครัวของเธอให้พ้นจากไวรัสที่เริ่มแพร่กระจายก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

 

Pandemic-(13)

 

กันเนอร์ (Gunner) รับบทโดย เมคี่ ไฟเฟอร์ (Mekhi Phifer)

หัวหมู่ทะลวงฟันประจำทีม แนวหน้าสายบู๊ มากประสบการณ์สนามรบ เชี่ยวชาญการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทุกรูปแบบ

 

Pandemic-(15)

 

เดนิส (Denise) รับบทโดย มิสซี่ ไพล์ (Missi Pyle)

สาวแกร่งผู้ชำนาญการใช้เนวิเกเตอร์จับสัญญาณซอมบี้และค้นหาผู้รอดชีวิต เป็นเสมือนเข็มทิศของทีม

 

Pandemic-(11)

 

วิลเลอร์ (Wheeler) รับบทโดย อัลฟี่ อัลเลน (Alfie Allen)

พลขับประจำทีม หนุ่มฝีปากกล้า แต่รักตัวกลัวตาย และไม่ค่อยสนใจใยดีคนอื่นนัก

 

Pandemic-(16)

 

   

ตัวอย่างภาพยนตร์

 

 

 

แหล่งข้อมูล/รูปภาพ : IMDb Majorcineplex.com

By : Admin@no (แอดมินโนเอง)

 

 

===========

 

 

REVIEW

pandemic review

หนังซอมบี้ FPS ที่มีเนื้อหาสุดอึน และบทสรุปที่ชวนให้ร้อง”เฮ้ย” (?)
 
 
====
 
หลังจากที่แอดฯได้ดูเทรเลอร์ของหนัง“Pandemic : หยุดวิบัติไวรัสซอมบี้” ก็แอบมีความหวันใจเล็กๆว่า…
 
 
“แนวFPS นี่มันชักจะเยอะไปหน่อย แล้วมันจะดีกว่าหนังเรื่องก่อนหน้าอย่าง Hardcore Henry รึเปล่าหว่า?”
 
===
 
pandemic (1)
หนังจะเล่าเรื่องราวของโลกที่มีไวรัสระบาดอย่างไม่ทราบสาเหตุ ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับเชื้อไวรัสปริศนานั้นกลายร่างเป็นซอมบี้กระหายเลือดที่พร้อมจะขย้ำทุกสิ่งที่ขวางหน้า
 
 
 
pandemic
ตัวละครหลักๆที่เป็นแก่นของเรื่องก็คือ “ลอเรน” คุณแม่ที่มาเป็นหน่วยแพทย์ทหาร ออกตามหาผู้รอดชีวิต และหวังว่าลูกสาวของเธอจะรอดรอเธอไปช่วย พล๊อตมีเท่านี้…
 
 
pandemic (2)
ในช่วง 10 นาทีแรกของเรื่องเป็นเรื่องของการปูเรื่องราวของตัวลอเรน และชาวคณะที่มีภารกิจต้องไปทำ “โดยจะเล่าผ่านมุมกล้องแบบ FPS ต้ดสลับตัวละครกันไป”
 
 
ซึ่งในส่วนนี้ ต้องขอยอมรับว่า มีหลายๆซีนที่ทำออกมาอาการ”มึน”หนักกว่า “ฮาร์ดคอร์ เฮนรี่” ของทางสหมงคลฯ เอามาฉายในเดือนที่แล้วนั้น ทำออกมาค่อนข้างดีกว่า(มาก)
 
 
 
ตัวหนังเล่าเรื่องค่อนข้างจะเนือยๆ เน้นความเรียลของสถาณการณ์ ความกดดันของเหล่าบรรดาซอมบี้ที่ออกมา Jumpscare คนดูได้ถูกจังหวะ พวกมันถูกออกแบบได้ราวกับหลุดมาจากหนังสยองขวัญ ตับไตส้พุงมมาแบบจัดเต็ม ไม่ต้องกินตือฮวนกันไปพักใหญ่ๆ!!
 
pandemic (3)
***ในรอบสื่อ แอดฯได้ยินเสียงวี้ดว้ายของนักข่าวสาวๆที่มาดู ก็การันตีได้ว่า “เหมาะแก่การพาสาวมาดูเป็นอย่างยิ่ง!”***
 
 
แต่นั่นคือข้อดีที่ว่ามา และหนังเรื่องนี้ก็มีข้อบกพร่องพอประมาณครับ แถมตัวหนังเสนอรูปแบบของซอมบี้ที่ไม่ชัดเจน บางตัวคุยภาษาคนรู้เรื่อง บางตัวคุยไม่รู้เรื่อง บางคนติดอาการระดับเบื้องต้น แต่ทุกอย่างก็ประเคนความเป็น “ปอปหยิบ” ที่เอะอะจับคนล้วงตับไตไส้พุงแบบไม่เกี่ยงเลเวลเลย (แล้วจะแยกรูปแบบซอมบี้เพื่อ?)
pandemic-b1
 
 
รวมไปถึงบทสรุปที่ถึงแม้จะเดาทางยากนิดๆ ดูเพลิน สตอรี่บอร์ดเรียงมาดี แต่ความสมเหตุผล และความง่ายของการกระทำบางอย่างดูเลื่อนลอยพอสมควร ตรงนี้ก็ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ
 
บวกกับการแสดงของเหล่านักแสดงที่แข็งๆ ดูแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ “ยกเว้นตัวนางเอกของเรื่องเท่านั้นที่เล่นได้ดีกว่าบรรดาตัวละครทั้งหมด” นอกนั้น เล่นได้ฝืด และไม่อินอย่างแรง!
 
 
 
Pandemic-poster
 
สรุปคะแนน แอดฯให้ 6.5/10 ครับ
ความดีของหนัง ยกให้ความลุ้นระทึกของการรับมือกับฝูงซอมบี้แตกรัง
การเล่าเรื่อง ลำดับเรื่องทำดีประมาณนึงครับ
 
แค่มันไม่สุดในแง่ของเนื้อหา และเหตุผล จนนำไปสู่บทสรุปของเรื่องนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง
 
 
 
 
**และอย่าเชื่อโปสเตอร์!!**
 
==========
 
แอดมิน Ak47